*หากมองตามรูปการณ์ของหุ้นใหญ่ที่มาแบบจัดเต็มเพื่อไม่ให้เสียของ “โมนิก้า” ย่อมไม่มีอะไรต้องวอร์รี่อีกต่อไป เพราะการเคาะขวารัว ๆ ที่เกิดขึ้นมันหมายถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อระบบเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ หลังจากปัญหาหลายอย่างที่คาราคาซังถูกปลดออกไปเสียที ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนช่วงนี้ชื่นมื่นสุด ๆ เพราะมองไปทางไหน ด้านไหน ก็มีแต่สีเขียวละลานตาไปหมดไงล่ะคะ

*ยิ่งดัชนีถีบตัวขึ้นมายืนปิดบริเวณแนวต้านสำคัญ 1,600 จุดอย่างเป็นทางการวันแรก ยิ่งทำให้นักเล่นจินตนาการภาพของการลงทุนสวยสดงดงามไปทุกอย่าง “โมนิก้า” ถึงเกิดอารมณ์ร่วมกับนักลงทุนอย่างรวดเร็ว เพราะในมุมของหุ้นบางตัวยังมีโอกาสทะยานขึ้นได้อีกเยอะ จึงไม่มีเวลาอิดออดอะไรอีกต่อไป เพราะไม่มีใครรู้ว่า ในภายภาคหน้าจะเกิดอะไรที่ไม่คาดฝันอีกหรือเปล่าน่ะซี

*ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,600.48 จุด บวกไป 4.61 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.10 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการ follow buy เพราะหุ้นหลายตัวที่โดนถล่มหนักก่อนหน้านี้ เริ่มแสดงอาการกระตุกขึ้นให้เห็นประปราย “โมนิก้า” เลยรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของนักเล่นเที่ยวนี้มาเต็มจริง ๆ จึงขอเม้าท์ถึงหุ้นเล็ก ๆ ที่นักเล่นหวนกลับเข้ามาเล่นอีกรอบ เพื่อช่วยเพิ่มอรรถรสในการเม้าท์แตกพะยะค่ะ

*โดยรายแรกที่อยากเม้าท์สุด ๆ ขอพุ่งเป้าไปยัง KCE หลังโดนรินหุ้นออกมาจนหลังแอ่น พร้อมกับทำท่าลาโรงในไม่ช้า จู่ ๆ ราคาหุ้นก็พุ่งขึ้นมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย จนขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 22.40 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 9.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.52 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของฟีลลิ่งผสมผสานกับอินไซด์ บรรดานกรู้ถึงกระโจนเข้าใส่แบบไม่ยั้ง และทำให้การวิ่งขึ้นไปหายอดเดิมบริเวณ 25 บาทไม่ยากหรอกค่ะ

*อีกรายที่เคาะขวารวดเดียว 7 วันติด ต้องยกให้กับหุ้นทีวีช้อปปิ้ง RS เป็นพระเอกของเรื่องนี้โดยตรง เพราะในระหว่างสัปดาห์ตลาดหุ้นมีอาการสวิงสวายเป็นระยะ แต่หุ้นยังรักษาทรง และเดินหน้าต่อไปได้แบบนี้ “โมนิก้า” มองได้แค่ประเด็นเดียวคือ เจ้ามือดี จึงไม่มีการแตกแถวก่อนเวลาอันควร พร้อมกับทำให้ราคาปิดที่ 13.60 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 131 ล้านบาท ยังไหลตามน้ำได้นะจะบอกให้

*สำหรับม้านอกสายตาที่แมงเม่าตามแห่มาระยะหนึ่ง “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปยัง PORT หลังราคาหุ้นค่อย ๆ ฟื้นตัวทีละนิดทีละหน่อย แถมตลอดเส้นทางยังมีการทดสอบแรงขายให้เห็นเป็นระยะ แต่สุดท้ายหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 2.56 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 11.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 56 ล้านบาท ถือเป็นช็อตเด็ดสำหรับนักเล่นประเภทเบี้ยน้อยหอยน้อย เพราะโมเมนตัมของหุ้นมันมาจริง ๆ เจ้าค่ะ

*หุ้นอีกรายที่ทรงสวยไม่แพ้คนอื่น “โมนิก้า” ขอเทน้ำหนักไปยัง SFLEX ทะยานขึ้นมาปิดที่ 4.06 บาท บวกไป 0.36 บาท หรือขึ้นไป 9.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 120 ล้านบาท พร้อมกับยืนเหนือ IPO ครั้งแรกหลังจากเข้าตลาดหุ้นมาได้ 1 เดือน (ตอนนั้นภาวะไม่ดี ทุกคนเลยทิ้งกันหมด) เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดให้เห็นว่า ต้องมีของดีที่ยังไม่ได้ออกมาโชว์อย่างแน่นอน พร้อมกับการันตีฝีมือของ “เฮียแกะ” ว่าถ้ารักกันยาว ๆ ไม่มีผิดหวังนะตัวเอง

*ส่วนหุ้นเล็กอีกรายที่กลับมาโลดแล่นบนกระดาน mai ได้อย่างน่าทึ่ง “โมนิก้า” ยังคงสนใจในตัวของหุ้นขนมหวาน AU มาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะเสียงร่ำลือที่ทำให้หุ้นขึ้นมาเที่ยวนี้ มีแต่คนเม้าท์มอยถึง แก๊งบางบัวทอง..อุ๊ย..แก๊งบัวหลวง เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับช่วยประเมินการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 11.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 4.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 105 ล้านบาท มันคงไม่จบง่าย ๆ เพียงเท่านี้กระมัง!

*เช่นเดียวกับในรายของ BIG ออกมาสยบข่าวลือเรื่องถูกเทกโอเวอร์ตั้งแต่เช้าตรู่ ทำให้ราคาหุ้นรูดลงไปทำจุดต่ำสุดของวันที่ระดับ 0.70 บาท เพราะทุกคนคิดว่าเป็นเกมแหกตาของผู้หวังดีประสงค์ร้าย แต่สุดท้ายราคาหุ้นกลับตีตื้นขึ้นมาเรื่อย ๆ จนขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 0.78 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 54 ล้านบาท มันทำให้ใครบางคนนึกถึงชื่อวาณิชสีเทาที่สร้างผลงานไว้โชกโชนอย่างเฮีย ว. ขึ้นมาในทันที.. เดี๊ยนในฐานะคนที่แอบไปได้ยินเขาเม้าท์กัน เลยรีบคาบข่าวมาบอกในทันที..จริงเท็จแค่ไหน ลองใช้วิจารณญาณกันเอาเองนะคะ