*…ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาด 1,574.94 จุด ลดลง 14.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,619 ล้านบาท เจอ 3 ปัจจัย “โรคปอดอักเสบระบาด-จีนประกาศนโยบายลดและเลิกการใช้พลาสติก-IMF ปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจโลก” แนวโน้มวันนี้จับตาแนวรับสำคัญไม่ควรหลุด 1,550 จุด แนวต้าน 1,580-1,590 จุด…

*…AOT รูดหนักเสมือนติดเชื้อ “โคโรน่า” เจอข่าวโรคปอดอักเสบระบาด ทำเอานักลงทุนตกใจเทขายหุ้น หวั่นลูกค้าสนามบินลดฮวบ เหตุการเดินทางมีข้อจำกัดมากขึ้น ดูไปแล้วราคาหุ้นปรับลงเกินเหตุหรือไม่ น่าจะเป็นจังหวะทยอยสะสมได้เช่นกัน…

*…PTTEP ประกาศรุกตะวันออกกลาง จับมือพันธมิตรเข้ายื่นประมูลปิโตรเลียมในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) 2 แปลง เพื่อมุ่งหวังเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมจากปัจจุบัน 3.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน เป็น 5 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2573 เชื่อว่าผลประมูลจะออกมาไม่น่าเกินไตรมาส 1/2563 หรืออย่างช้าสุดไม่เกินไตรมาส 2/2563…

*…TQM มีรายการ Big Lot จำนวน 5.5 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.83% เป็นการขายหุ้นของ “นภัสนันท์ พรรณนิภา” ผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่งผลให้หลังขายหุ้นเหลือถือหุ้น 2.87% จากเดิม 4.7% ว่ากันว่าเป็นการแบ่งขายให้พันธมิตรและเพิ่มสภาพคล่องหุ้น หากเป็นจริงดั่งว่าน่าจะเพิ่มมูลค่าในอนาคต แต่ปัญหามันอยู่ที่พันธมิตรที่ว่าคือใคร..นั่นเอง…

*…KBANK พอช่วยกู้หน้าแบงก์ไว้ได้หลังงบไม่ได้แย่อย่างที่คิด แต่ SCB-BBL ออกมาน่าผิดหวัง.!น่าสนใจสถานการณ์หุ้นแบงก์ปีนี้ ท่ามกลางปัจจัยกดดัน ทั้งมาตรฐาน TFRS 9 ภาวะเศรษฐกิจภายในถดถอย..กลายเป็นโจทย์ใหญ่นายแบงก์ต่าง ๆ จะพลิกเกมแก้วิกฤติกันอย่างไรดี…

*…PTTGC และผองเพื่อนหุ้นปิโตรเคมี เจอปัจจัยเชิงลบตอกย้ำมากขึ้นไปอีก เมื่อจีนมีนโยบายลด-เลิกใช้พลาสติก ภายในปี 2565 นั่นหมายถึงปริมาณการใช้เม็ดพลาสติกทั้ง PET และ PTA จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญเลยทีเดียว ทำให้สเปรดปิโตรเคมีที่ทรงตัวอยู่ขณะนี้อาจทรุดตัวลงได้ อย่าลืมนะว่ากำลังซื้อจากจีน มีมากที่สุดของโลก…เอาเป็นว่า “เพียงแค่จีนถอย..เราก็ล้มกันแล้ว” จึงน่าจับตากันต่อว่าปัจจัยแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นจะมีพัฒนาการเชิงลบต่อธุรกิจปิโตรเคมีอย่างไรบ้าง…

*…CPF ส่งสัญญาณเชิงบวก บริษัทย่อยในฮ่องกง คาดว่ากำไรปี 2562 จะอยู่ที่ 330-350 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 282 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2561 จากราคาหมูในเวียดนามปรับสูงขึ้น..นี่ถ้าตัวเลขออกมาตามนัด CPF น่าจะได้ประโยชน์ไม่น้อยทีเดียว แต่จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง..ที่แน่ ๆ “สัญญาณเชิงบวก” เกิดขึ้นแล้ว...