ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 7 ก.พ.63 ปิดที่ 1,535.24 จุด ลบ 0.55 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 60,509.84 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 891.95 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด ADVANC ปิด 199.50 บาท ลบ 4.50 บาท, BAM ปิด 29.50 บาท บวก 1 บาท, AOT ปิด 71.50 บาท ลบ 1.50 บาท, GPSC ปิด 77.75 บาท บวก 1.25 บาท, B.GRIM ปิด 57 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

ตลาดปรับตัวผันผวนในช่วงบ่ายหลังศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) ตัดสินให้ร่างงบประมาณปี 63 ไม่โมฆะให้โหวตวาระที่ 2-3 ใหม่ ถือเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดต่อเนื่องสัปดาห์หน้า

บล.ทิสโก้ ชี้มติศาล รธน. 5 : 4 ร่างที่ให้ พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ไม่เป็นโมฆะ ให้โหวตใหม่วาระ 2-3 ถือเป็นกรณีดี คาดว่าจะทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณมีความล่าช้าเพิ่มเพียง 4-6 สัปดาห์เท่านั้น หลังจากที่มีการโหวตใหม่วาระ 2-3 และนำขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว

คาดร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ จะมีผลบังคับใช้ประมาณกลางเดือน มี.ค. มอง SET มีโอกาสแกว่งซิกแซ็กขึ้นทดสอบ 1550 แต่ระดับดังกล่าวระวังแกว่งตัวจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น

หุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการมีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ หุ้นรับเหมา–CK, STEC, SEAFCO, PYLON และหุ้นอิงบริโภคและ ศก. COMM-CPALL, BJC/BANK & FIN-KKP, AEONTS/MEDIA-PLANB และ MAJOR!!

ขณะที่ บล.หยวนต้า เผยว่า หุ้นที่มีปัจจัยบวกรออยู่ในสัปดาห์หน้า และช่วงที่เหลือของเดือน ยังให้น้ำหนักกับการประกาศเงินปันผลของกลุ่มธนาคาร ได้แก่ SCB, BBL, TCAP รวมทั้งหุ้นที่คาดว่าจะมีความชัดเจนเพื่อปลดล็อก Overhang ได้แก่ PLANB

โดย PLANB มีแนวโน้มกำไร 4Q62 โดดเด่น คาดทำ All Time High รายไตรมาสขณะที่สัปดาห์หน้า เราประเมินว่าหากได้ความชัดเจนประเด็นเลือกนายกสมาคมฟุตบอลไทย จะช่วยหนุนให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นได้เด่น แนะนำ “ซื้อ”.

อินเด็กซ์ 51