กนง. นัดประชุมฉุกเฉิน และมีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ย 0.25% จาก 1% เหลือ 0.75% มีผล 23 มี.ค.นี้ เพื่อลดภาระลูกหนี้ หลังมองการระบาดของ COVID-19 ในระยะข้างหน้ารุนแรงกว่าคาด อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจรุนแรง และต้องใช้เวลาอีกระยะที่จะเข้าสู่ภาคปกติ และยังประชุมวาระปกติ 25 มี.ค.นี้

  รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้ประชุมนัดพิเศษ วานนี้ (20 มี.ค.63) เพื่อประเมินผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและกลไกการทำงานของตลาดการเงินของประเทศ และ มีมติเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ต่อปี จาก 1% เหลือ 0.75% โดยให้มีผลในวันที่ 23 มีนาคมเป็นต้นไป

  ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นว่าการระบาดของ COVID-19 ในระยะข้างหน้ารุนแรงกว่าที่คาดไว้เดิม และจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจไทย และจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าที่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

  นอกจากนี้ การระบาดที่เกิดขึ้นได้สร้างความกังวลให้กับตลาดเงินและตลาดทุนทั่วโลก ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องและกลไกการทำงานของตลาดการเงินไทย แม้ว่าระบบการเงินไทยโดยรวมยังมีเสถียรภาพ

  สำหรับการลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อลดภาระดอกเบี้ยของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ บรรเทาปัญหาสภาพคล่องในตลาดการเงิน และลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งจะช่วยสนับสนุนมาตรการการคลังของรัฐบาลที่ได้ออกมาแล้วและจะออกมาเพิ่มเติม

  อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ เห็นว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งที่ผ่านมาและในครั้งนี้จะเกิดผลต่อระบบเศรษฐกิจก็ต่อเมื่อสถาบันการเงินจะต้องมีบทบาทเชิงรุกในการช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่องของลูกหนี้ โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs และประชาชน รวมทั้งการเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้เกิดผลอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม จึงขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยติดตามการช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง
อย่างใกล้ชิด

  นอกจากนี้ ขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยดูแลสภาพคล่องและกลไกการทำงานของตลาดการเงินเพื่อให้มั่นใจว่าตลาดการเงินมีเสถียรภาพและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  ทั้งนี้ ในการประชุมกนง. วาระปกติในวันที่ 25 มีนาคมนี้ คณะกรรมการยังคงมีการประชุมปกติด้วย


เรียบเรียง จารุวรรณ เอี่ยมยิ่งพานิช