*ดูเหมือนผู้คนจะมีกำลังใจมากขึ้นวันละนิดวันละหน่อย หลังจากสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น และเข้าใจกลไกของการทำเพื่อส่วนรวม จึงพยายามไม่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในความเสี่ยงในการนำพาเชื้อไวรัสมรณะ ผนวกกับทั่วโลกหันมาอัดฉีดเงินเพื่อประคองเศรษฐกิจอย่างเป็นล่ำเป็นสัน บรรดาผู้เล่นเลยมองไปในทางเดียวกันว่า รุ่งอรุณของความหวังครั้งใหม่กำลังอุบัติขึ้นแล้วนะจ๊ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้นักเล่นกระโจนใส่หุ้นกันหนุบหนับตั้งแต่เปิดเทรด จนดัชนีขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,080.03 จุด บวกไป 46.19 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.49 หมื่นล้านบาท พร้อมกับเกิดมโนร่วมกันอีกครั้งว่า เที่ยวนี้ดัชนีจะวิ่งขึ้นไปยืนเหนือ 1,100 จุดแน่ ๆ เพราะเมื่อไล่เรียงการบวกวันแรกอยู่แค่ระดับ 10 จุด ถัดมาอีกวันบวกไป 30 จุด วันนี้เลยมีสิทธิ์ทะยานขึ้นไปในระดับ 50 จุด ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ประเมินจากเหตุการณ์หลายอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นเจ้าค่ะ

*ก่อนจะไปถึงตรงจุดนั้น! “โมนิก้า” ขอเบรกอารมณ์นักเล่นด้วยการเอาสถิติเก่ามาเล่าให้ฟังนิดหนึ่งว่า ในช่วงสัปดาห์กว่า ๆ ดัชนียังไม่สามารถวิ่งทะลุแนวต้านย่อยบริเวณ 1,080 จุดขึ้นไปได้เลย แถมต้องถอยร่นลงมาตั้งหลักที่บริเวณ 1,000 จุดไปหยก ๆ เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นมองไปทีละสเต็ป เพื่อไม่ให้ตัวเองหลงเข้าไปเล่นเกมของคนอื่น เพราะเวลานี้มองไม่ออกจริง ๆ ว่าหุ้นไทยขึ้นจาก “พื้นฐาน” หรือ “อารมณ์” พะยะค่ะ

*ในเมื่อผู้เล่นต่างมีอารมณ์ร่วมสุด ๆ “โมนิก้า” ย่อมแฮปปี้ตามไปด้วยอย่างแน่นอน และไม่ขัดข้องหากวันนี้ยังมีการเคาะขวารัว ๆ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น เพราะผู้คนเริ่มเข้าใจผลกระทบจากไวรัสมรณะไม่น่าเลวร้ายหนักไปกว่านี้ พร้อมกับมองเห็นผลกระทบจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ประกาศใช้ 1 เดือนก่อให้เกิดอะไรบ้าง ? บวกกับได้แรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์พุ่งแรงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน บรรดากองทุนเลยเกิดอาการฮึกเหิมไงล่ะคะ

*ชัดเจนสุดในเที่ยวนี้คงโฟกัสไปที่หุ้นน้อง BAM เพราะวันก่อนเพิ่งเม้าท์ถึงกองเชียร์ที่คอยหนุนแหม็บ ๆ วานนี้ฉวยโอกาสทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 19 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 8.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.86 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของอารมณ์กองทุนอยากลุยสุดซอย ราคาหุ้นถึงทะลักจุดแตกตั้งแต่เช้าแบบนี้ มันทำให้นักเล่นเชื่อเหลือเกินว่าหุ้นน่าจะไปต่อนะคะ

*เมื่ออารมณ์มาแบบจัดเต็มทุกไม้ CRC เลยได้ประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าวเต็ม ๆ จนกลายเป็นหุ้นตัวท็อปที่ถูกไล่ราคาอย่างเมามันตลอดช่วงภาคบ่าย วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 24.10 บาท บวกไป 3.10 บาท หรือขึ้นไป 14.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.09 พันล้านบาท “โมนิก้า” เลยไม่อยากทำตัวเป็น “จระเข้ขวางคลอง” ในภาวะเช่นนี้ เพราะผู้เล่นกำลังฟินกับสิ่งที่เป็นอยู่น่ะซี

*เช่นเดียวกับช็อตของ PTTEP ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 66.25 บาท บวกไป 7 บาท หรือขึ้นไป 11.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.54 พันล้านบาท ก็เป็นช็อตที่เหมาะสมกับเหตุผลที่เข้ามารองรับ เพราะมองในมุมของบุ๊กแวลูที่อยู่ในระดับ 90 บาท ย่อมทำให้หัวสมองของเดี๊ยนพุ่งเป้าไปที่การไหลตามน้ำในทันที เพราะโอกาสทองแบนี้ไม่ได้มาบ่อยนัก พวกขาลุยก็ไม่ควรมองข้ามหุ้นตัวนี้นะจ๊ะ

*คล้ายกับแรงซื้อที่ไหลกลับเข้ามาไล่หุ้น PRM จนราคาพุ่งขึ้นมายืนปิดที่ 3.98 บาท บวกไป 0.38 บาท หรือขึ้นไป 10.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 86 ล้านบาท ล้วนเกิดจากบรรยากาศเอื้อให้แฟนคลับเข้ามาไล่เก็บหุ้นอีกรอบ จึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นแรงครั้งแรกในรอบ 5 เดือนแบบนี้ “โมนิก้า” กลับมองเป็นเกมที่ต้องดูกันวันต่อวัน เพราะข้อมูลที่แบ็กอัพมีแค่ P/E ต่ำ และปันผลดี ส่วนเรื่องผลงานปีนี้ยังไม่พูดถึงนะตัวเอง

*ประเด็นดังกล่าวเชื่อมโยงไปยังแรงขายที่ไม่รู้จบในหุ้น BFIT ล้วนมาจากสถานการณ์ไม่ปกติในการทำธุรกิจ จึงไม่มีใครเชื่อว่าผลงานปีนี้จะปังเหมือนปีก่อน ก็เลยทำให้หุ้นเละเทะอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน วานนี้ถึงถูกถล่มจนลงมากองที่ 22.10 บาท ลบไป 2.60 บาท หรือลงไป 10.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 176 ล้านบาทอย่างง่ายดาย เดี๊ยนถึงสงสัยว่าวันนี้จะโดนจัดต่ออีกดอกพะยะค่ะ

*ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับการอ่อนตัวของหุ้น PLANB จนล่าสุดลงมายืนอยู่ที่ระดับ 2.54 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 164 ล้านบาท ล้วนเป็นผลพวงมาจากกำลังซื้อถดถอย แรงหนุนที่จะทำโฆษณากลางแจ้งหายไปจากตลาดจำนวนมาก “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นราคาหุ้นลงมาทำ all time low หลังจากเข้าตลาดหุ้นมาเป็นเวลา 5 ปี 1 เดือน ไงล่ะคะ