*อาการแกว่งตัวไปมาเหมือนรอบางอย่างของตลาดหุ้นไทยไม่ได้สร้างความอึดอัดใจให้กับนักเล่นมือเก๋าแม้แต่นิดเดียว เพราะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าตลาดหุ้นไทยกำลังเข้าสู่โหมดของการปรับสมดุล เพื่อทดสอบแรงขายให้สะเด็ดน้ำเสียก่อน ต่อจากนั้นถึงจะทะยานขึ้นไปสร้างฐานแนวรับใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมนั้น ล้วนเป็นเรื่องที่เดี๊ยน “ย้ำแล้ว ย้ำอีก” ตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อน จนถึงปลายสัปดาห์นี้ จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจกลไกตลาดหุ้นมากขึ้นก็เท่านั้นเอง

*ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจที่ “โมนิก้า” ยังวนเวียนพูดถึงแต่เรื่องเดิม ๆ และชอบแนะนำแฟนคลับเล่นตามน้ำในหุ้นที่มีสตอรี่เด่น ๆ เพราะเที่ยวนี้เป็นเวทีของนักลงทุนสถาบันที่มีเงินถุงเงินถังเต็มหน้าตัก และชอบเปลี่ยนหุ้นที่เล่นไปเรื่อย ๆ เพื่อกระจายเงินลงทุนให้ได้มากสุด ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่คุ้นตาเป็นเวลาหลายปี จึงอยากให้แฟนคลับคาดเดาเงินลงทุนดังกล่าวจะเข้ามาอีกกี่หมื่นล้านบาทเจ้าค่ะ

*เนื่องจากเม็ดเงินดังกล่าวจะเป็นตัวชี้ดัชนีควรจะเดินหน้าไปถึงจุดไหน ? ประกอบกับเมื่อดูยอดซื้อของฝรั่งหัวทองตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. จนถึงปัจจุบันอยู่ในระดับ 6 พันล้านบาท ต่อจากนั้นนำมาเทียบกับดัชนีเริ่มสตาร์ตในระดับ 1,350 จุด และค่อย ๆ ไต่เพดานบินจนขึ้นไปถึงบริเวณ 1,450 จุด ก่อนจะทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,396.77 จุด ลบไป 22 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.28 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องมันนี่เกม (ฟันด์โฟลว์) แบบไม่ลังเลใจนะจ๊ะ

*ไล่เรียงตั้งแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ SUPER ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ทั้งหมดมาจากพื้นฐานเป็นธงนำในการไล่หุ้นแบบสุดติ่งกระดิ่งแมว เดี๊ยนถึงไม่มีอะไรติดอยู่ในใจเมื่อเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.25 พันล้านบาท เพราะแวลูที่ทุกคนมองไว้สูงกว่า 1 บาททั้งนั้นพะยะค่ะ

*คล้ายกับในรายของหุ้นคนงาม SAWAD กระชากขึ้นมาปิดที่ 63.75 บาท บวกไป 3.25 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.73 พันล้านบาท น่าจะเป็นอีกจุดที่นักเล่นต้องเข้าใจก่อนว่า นี่เป็นเกมโยกหุ้นของนักเล่นกลุ่มสถาบัน โดยอาศัยผลงานเป็นแรงขับเคลื่อนการเคาะขวา “โมนิก้า” ถึงเห็นการเคลื่อนไหวของหุ้นออกไปในโทนพุ่งปรี๊ด ต่อจากนั้นก็โดนรินออกมาสองสามวัน ก่อนจะไล่ราคากลับขึ้นไปใหม่ ภาพของหุ้นเลยออกไปในโทนไซด์เวย์อัพค่ะ

*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” จำเป็นต้องเม้าท์ถึงหุ้น RBF ต่ออีกหนึ่งวัน หลังกระชากแนวต้าน 7 บาทขาดวิ่นในพริบตาเดียว ก่อนจะเดินหน้าขึ้นไปทำ all time high ด้วยการขึ้นมาปิดที่ระดับ 7.40 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 7.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.03 พันล้านบาท ก็มาจากผลงานโตกระฉูดเป็นที่ตั้ง บรรดากองทุนเลยวิ่งเข้าใส่ไม่ยั้ง และส่วนหนึ่งของผลงานที่สุดแจ่ม ก็มาจากคนเบื้องหลังอย่าง เฮีย ค. ช่วยประสาน (แมงลือเขาว่างั้น) นะจะบอกให้

*ส่วนรายที่น่ารักน่าลุ้นอย่าง NER น่าจะเป็นอีกหนึ่งช็อตที่นักเล่นไม่ควรมองข้าม เพราะถ้ามองในมุมของตัวเลขรายได้ที่อยู่ในทิศทางบวกมาตลอด ย่อมกลายเป็นแรงดึงดูดให้บรรดา “ขาจร ขาแจม และขาประจำ” แวะเวียนเข้ามาเล่นไม่ว่างเว้น “โมนิก้า” ถึงมองราคาปิดที่ 2.64 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 0.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 256 ล้านบาท ยังเป็นอะไรที่น่าสนใจเสมอสำหรับการเทรดสั้น ๆ นะคะ

*ในเมื่อเม้าท์ถึงหุ้นที่ออกไปในโทนเล่นสั้นขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” เลยถือโอกาสเอ่ยถึงหุ้นขนมหวาน AU ภายใต้การคอนโทรลเกมของ MM ค่ายดอกบัวสักนิดหนึ่งดีกว่า เพราะอาการที่พุ่งขึ้นต่อเนื่องมันก็เป็นเกมลากหุ้นขึ้นไปเพื่อรอข่าวจริง ซึ่งเป็นลูกไม้ตื้น ๆ ที่ค่ายนี้ถนัดมากเป็นพิเศษ แต่ยังได้ผลเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา จึงไม่ขอแสดงความคิดเห็นต่อราคาหุ้นในกระดานที่ปิดในระดับ 11.40 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 6.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 248 ล้านบาทเจ้าค่ะ

*ส่วนหุ้นไซด์เล็กที่ “เคาะมัน เคาะสนุก” แบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่าง SPVI ก็ไม่มีอะไรแตกต่างจากก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่ ? เพราะไซเคิลของการเล่นยังวนเวียนในกรอบเดิม ๆ โดยเฉพาะจังหวะที่หุ้นกระชากขึ้นแรงปุ๊บ ถัดมาอีกวันก็มีมือดีทุบลงปั๊บ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องพื้น ๆ สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงอยากให้ขาลุยติดตามดูกันเอาเองว่าการยืนปิดที่ 2.42 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 45 ล้านบาท น่าตามไปดูขนาดไหนเจ้าค่ะ