*นี่เป็นอีกหนึ่งครั้งที่ชาวหุ้นได้เห็นสตอเบอรี่เบอร์ใหญ่ที่ฝั่งอเมริกาหยิบยกขึ้นมาปั่นกระแส จนทำให้ผู้คนทั่วโลกเกิดอาการตระหนกแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จนสุดท้ายออกมาเฉลยในภายหลังว่ายังไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าสถานการณ์ปัจจุบัน “โมนิก้า” เลยมองเรื่องที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้เป็นละครดราม่าที่ต้องติดตามดูกันยาว ๆ หลังพระเอก นางเอก ตัวร้าย นางร้าย และตัวประกอบตีบทแตกกันดีจังเลยเจ้าค่ะ

*ฉะนั้นการที่อเมริกาออกมาอ้างตัวเลขเศรษฐกิจพังพินาศฉ.ชิปหายวายป่วงขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทุกคนรู้ดีแก่ใจว่าพวกมะกันรับมือไวรัสมรณะได้ห่วยมาก ๆ “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นเที่ยวนี้เป็นเกมทุบหุ้นเล่นรอบเหมือนที่ผ่านมา แถมทุกครั้งที่มีการพูดถึงข่าวร้ายทีไร ดัชนีทั่วโลกมักรูดมหาราชกันอย่างพร้อมเพรียง เดี๊ยนถึงพยายามให้แฟนคลับทำตัวยืดหยุ่นตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันนะจ๊ะ

*ที่สำคัญหากย้อนกลับไปดูคำเตือนเมื่อสัปดาห์ก่อน จะเห็นว่าเดี๊ยนพร่ำบอกแต่ความเสี่ยงในการลงทุนเริ่มมีมากขึ้น พร้อมกับเม้าท์ถึงลักษณะเหวี่ยงตัวของดัชนีจะรุนแรงขึ้นไปพร้อมกัน รวมทั้งมีการชี้จุดที่ต่างชาติเข้ามาตะลุมบอนเต็มตัวอยู่ที่บริเวณ 1,350 จุด ล้วนเป็นข้อมูลที่ช่วยให้แฟนคลับตีโจทย์ในการลงทุนได้ง่ายขึ้น พร้อมกับกำหนดรูปแบบการเคาะขวาได้กระชับขึ้นอีกด้วยจ้า

*วันนี้ถึงต้องถามทุกคนอีกครั้งว่าการทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,382.56 จุด ลบไป 14.21 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.57 หมื่นล้านบาท ใช่จังหวะของการซื้อสวนเพื่อเล่นรอบสั้น ๆ ไหมเอ่ย ? รวมทั้งยังมองเศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาส 3 กระเตื้องขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ไหมเอ่ย ? หรือกระทั่งดราม่าของสำนักข่าว สแตนดง..สแตนดาก ที่นำเสนอข้อมูลประเทศไทยติดอยู่ในกลุ่ม 3 ประเทศที่รับมือกับโควิด-19 แย่มาก (บราซิล อเมริกา) ก็เป็นจุดที่ทำให้สังคมถึงกับขยี้ตารัว ๆ พร้อมกับตั้งคำถามถึง “เฮียนง” มีวาระอะไรซ่อนเร้นอ๊ะป่าว ?

*เม้าท์ถึงเรื่องดราม่าเยอะพอสมควรแล้ว “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดูเรื่องจริงผ่านจอกันบ้างดีกว่า เพราะกระแสเที่ยวนี้พุ่งเป้าไปยังหุ้นดาวรุ่ง RBF มากเป็นพิเศษ ยิ่งผู้คนเห็นราคาหุ้นยืนต้านแรงขายอย่างแข็งแกร่ง และสามารถบวกสวนขึ้นไปได้เรื่อย ๆ ยิ่งกระตุ้นให้นักเล่นมะรุมมะตุ้มอย่างสนุกสนาน จนสุดท้ายหุ้นขึ้นไปยืนปิดที่ 7.45 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 722 ล้านบาทแบบชิล ๆ ไงล่ะคะ

*อีกรายที่เด็ดสะระตี่ไม่แพ้กัน “โมนิก้า” ให้น้ำหนักไปที่หุ้น SAWAD แบบไม่รีรออะไรทั้งสิ้น เพราะอาการบวกสวนภาวะตลาดหุ้น มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างแน่นอน จึงอยากให้แฟนคลับหันมามองการยืนปิดที่ 65.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.30 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำหรือเปล่า ? รวมทั้งอานิสงส์ที่ได้รับจากดอกเบี้ยต่ำเรียดดิน ช่วยเพิ่มแวลูให้หุ้นขนาดไหน ? ต้องไปคิดกันดี ๆ นะคะ

*ในเมื่อมีเรื่องต้องคิดขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” เลยถือโอกาสเม้าท์ถึงหุ้น AAV สักนิดหนึ่ง โดยเฉพาะในจังหวะที่หุ้นพยายามดิ้นสู้สุดตัว จนสุดท้ายพาตัวเองมาปิดเสมอตัวที่ระดับ 2.24 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 243 ล้านบาท ทั้งที่ช่วงเช้าโดนกดลงไปนอนหมอบที่ระดับ 4.66 บาท มันเป็นการส่งสัญญาณของการดันกลับเต็มตัวหรือเปล่า ? และสามารถคาดหวังว่าหุ้นจะขึ้นไปถึงยอดเดิมบริเวณ 2.50 บาทได้อ๊ะป่าว ?

*เช่นเดียวกับในรายของ COM7 กระชากขึ้นต่อเนื่องจนสุดท้ายขึ้นมายืนปิดที่ 28.75 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 8.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 682 ล้านบาท ย่อมมาจากความคาดหวังที่จะได้เห็นหุ้นวิ่งกลับขึ้นไปหายอดเก่าบริเวณ 30 บาทแน่ ๆ แรงซื้อถึงไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย พร้อมกับบิลต์อารมณ์ให้นักเล่นตามไปดูเป็นจำนวนมากนั้น มันทำให้เดี๊ยนต้องตามเข้าไปร่วมขบวนกับเขาด้วยคนเจ้าค่ะ

*ในเมื่อชอบตามกระแสกันทั้งที “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น ECF กับเขาสักหน่อย เพราะแรงซื้อที่เข้ามามากมายจนหุ้นขึ้นมาปิดที่ 1.28 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 73 ล้านบาท เหมือนเป็นสัญญาณที่บอกให้ขาลุยรู้ว่า สตอรี่เด็ดจะมีออกมาเรื่อย ๆ หุ้นถึงวิ่งขึ้นมารอข่าวดี ยิ่งตอนนี้เตรียมดันโรงไฟฟ้ามินบูเข้าตลาดหุ้น และหุ้นกู้ขายฉลุย ยิ่งเป็นเรื่องที่น่าติดตามนะจะบอกให้