PLANB จ่อหั่นเป้ารายได้ปีนี้ จากเดิมคาดโต 15-20% เซ่นพิษโควิด-19 มั่นใจครึ่งปีหลังฟื้น หลังอัตราการใช้ป้ายโฆษณาขยับแตะ 40-50% หวังรถเมล์อัจฉริยะหนุนรายได้ปีนี้ 150 ลบ.ส่วนปี 64 ได้ 300 ลบ.โบรกฯคาด Q2/63 พลิกขาดทุน

  นางสาวรตินันทน์ วงศ์วัชรานนท์ หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า เตรียมปรับเป้ารายได้ทั้งปีลง จากเดิมช่วงต้นปีคาดโต 15-20% หลังคาดผลประกอบการไตรมาส 2/63 เป็นจุดต่ำสุดในปีนี้ ซึ่งรับผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19

  ทั้งนี้ คาดว่าทิศทางการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะดีขึ้น เห็นได้จากยอดอัตราการใช้สื่อป้ายโฆษณา (Utilization Rate) เริ่มกลับมาแตะระดับ 40-50% ในช่วงไตรมาส 3/63 จากช่วงไตรมาส 2/63 เฉลี่ยอยู่ที่ 20-30% ซึ่งระดับปกติเฉลี่ยอยู่ที่ 60-70%

  การใช้ป้ายสื่อโฆษณาเริ่มกลับมาให้เห็นทั้งในส่วนของสนามบิน และห้างสรรพสินค้าต่างๆ รวมถึงครึ่งปีหลังจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจจัดกิจกรรมทางการตลาด ทั้งฟุตบอลพรีเมียร์ลีกไทยแลนด์ (PLT) ที่เริ่มกลับมาจัดการแข่งขัน และกิจกรรม BNK 48 เช่นการเปิดตัวซิงเกิลใหม่ เป็นต้น

  สำหรับโครงการสัมปทาน 10 ปี ในป้ายรถเมล์อัจฉริยะ (Smart Bus Shelter) คาดว่าจะเห็นรายได้เข้ามาในครึ่งปีหลังนี้ 150 ล้านบาท และในปี64 จะรับรู้รายได้เต็มปี 300 ล้านบาท

  ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว PLANB เป็นผู้รับสัมปทานใช้สิทธิป้ายประชาสัมพันธ์ของกทม.จำนวน 1,170 ป้าย และบำรุงรักษาศาลาที่พักผู้โดยสารป้ายรถเมล์อัจฉริยะ กลุ่ม D จำนวน 691 หลัง ซึ่งเริ่มเห็นผลการติดตั้งแล้วที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 เป็นที่แรกเมื่อวันที่ 30 ก.ค.63

  "ไตรมาส 3/63 เริ่มกลับมาดีขึ้นซึ่งจะไม่เห็นผลขาดทุนแน่นอน แต่จะให้กลับเป็นจุดดำเนินการปกติคงเห็นชัดเจนในช่วงต้นปี 64 โดยปีนี้แผนการลงทุนอะไรใหม่ที่ใหญ่ๆ เพิ่มเติมคงไม่เห็น จะเห็นแค่การขยายของเดิมคือกลุ่มโฆษณาใน 7-11 และป้ายรถเมล์อัจฉริยะเท่านั้น " นางสาวรตินันทน์กล่าว

  ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) คาดว่า PLANB จะพลิกเป็นขาดทุนสุทธิ 128 ล้านบาท ในไตรมาส 2/63 จากที่มีกำไรสุทธิ 180 ล้านบาท ในไตรมาส 2/62 และ 84 ล้านบาท ในไตรมาส1/63 เนื่องจากอัตราการใช้สื่อโฆษณาของบริษัทลดลงในช่วงที่มีการใช้มาตรการ lockdown ซึ่งไตรมาสนี้เป็นจุดต่ำสุด

  โดยคาดว่าผลประกอบการจะค่อยๆ ดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/63 เป็นต้นไป หลังมีการผ่อนคลายมาตรการ lockdown เพิ่มขึ้น โดยปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 63-64 โดยปี 63 ลง 68% เหลือ 135 ล้านบาท (-82% YoY) และปี 64 ลดลง 14% เหลือ 736 ล้านบาท (+445% YoY) เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการที่อ่อนแอครึ่งแรกปี63 แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 64 ที่ 6.70 บาท

  ทั้งนี้ เวลา 15.05 น. ราคาหุ้น PLANB อยู่ที่ 5.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 4.72% มีมูลค่าการซื้อขาย 143.87 ล้านบาท