*อาการตื่นตระหนกหลังมีข่าวคนไทยติดเชื้อโควิด-19 ทั้งที่ตอนอยู่ใน “สเตทควอรันทีน” ไม่พบเชื้อ แต่หลังจากออกมาใช้ชีวิตปกติกลับเริ่มแสดงอาการ กลายเป็นชนวนเหตุทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นทิ้งอุตลุด จนดัชนีทรุดตัวลงมายืนปิดที่ 1,308.67 จุด ลบไป 21.44 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.72 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก ๆ ในมุมของความมั่นคงทางเศรษฐกิจนะจะบอกให้

*ด้วยเหตุนี้ถึงต้องฟันธงลงไปเลยว่า แนวรับสำคัญบริเวณ 1,300 จุดจะสามารถต้านทานแรงขายไหวไหม ? เพราะเป็นจุดที่เคยมีแรงซื้อเข้ามารับหุ้นเป็นระยะ “โมนิก้า” ถึงต้องพอยต์ประเด็นไปที่ตรงนี้เป็นลำดับแรก ต่อจากนั้นค่อยมาดูหุ้นรายตัวที่เกาะกระแสไวรัสมรณะ เพื่อชี้ให้เห็นช่องทางลงทุนรอบใหม่ที่ให้ผลตอบแทนแจ่มแจ๋วเหมือนเดิม และตัวนักลงทุนจะได้มีเวลาในการจัดพอร์ตให้ยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าเดิมนะจ๊ะ

*ส่วนประเด็นการเมืองที่มีการเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญ “โมนิก้า” มองเป็นเพียงเกมประวิงเวลาไปเรื่อย ๆ เพื่อรอให้ทุกอย่างโรยรากันไปเอง เพราะเมื่อดูจากกรอบเวลาที่ต้องใช้สะสางทุกอย่างให้เสร็จ เดี๊ยนมองว่า บางคนอาจต้องเปลี่ยนที่นอนไปอยู่ใน…ก่อนกระมั้ง ! และไม่มีเหตุผลมากเพียงพอที่จะให้น้ำหนักเรื่องนี้ จึงขอโฟกัสไปที่เรื่องเศรษฐกิจแบบจัดหนักจัดเต็มไปเลยดีกว่าเจ้าค่ะ

*ท่ามกลางความสับสนอลหม่านเกี่ยวกับไวรัสมรณะปะทุรอบใหม่ กลับทำให้หุ้นถุงมือยาง STGT เปล่งรัศมีให้ชาวหุ้นได้เห็นอีกครั้ง พร้อมกับสวนกระแสตลาดหุ้นที่แดงเถือกขึ้นมาปิดบริเวณ 78.25 บาท บวกไป 3.25 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.37 พันล้านบาทแบบชิว ๆ พร้อมกับแสดงท่าทีไปต่อบนความเชื่อที่ว่า “วิกฤติคือโอกาส” จึงต้องไหลตามกระแสไปก่อนนะตัวเอง

*อีกรายที่เด้งรับข่าวอย่างรวดเร็ว “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่นายหน้าขายประกันอย่าง TQM เป็นรายถัดมา เพราะผลงานงวดก่อนที่ออกมาแจ่มสุด ๆ ก็มาจากการขายประกันโควิด-19 โตระเบิดระเบ้อ จึงทำให้เชื่อว่า การระบาดรอบใหม่จะทำให้ผลงานในงวดนี้โตขึ้นไปอีก วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 131 บาท บวกไป 11 บาท หรือขึ้นไป 9.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 583 ล้านบาทไงล่ะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ COM7 ก็เป็นอีกหนึ่งหุ้นที่สามารถบวกสวนตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง และอาการแข็งขืนที่เกิดขึ้นก็มาจากยอด “ขายไอแพด ขายคอมฯ” ในช่วงไตรมาส 2 เกลี้ยงทุกสโตร์ ทุกคนเลยเชื่อว่า หากไตรมาส 3 มีเรื่อง work from home เข้ามาเกี่ยวข้องอีกรอบ รับรองหุ้นไปไกลกว่านี้แน่ ๆ เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่หุ้นวิ่งขึ้นมารอข่าวด้วยการยืนปิดในระดับ 39.75 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 854 ล้านบาทนะจ๊ะ

*ส่วนรายที่ทำท่าจะคัมแบ็กอย่างเต็มรูปแบบ แต่ต้องฝันสลายภายในเวลาอันรวดเร็วอย่าง CRC ถือเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจมากในภาวะเช่นนี้ “โมนิก้า” เลยเข้าใจเหตุผลที่ราคาหุ้นลงมาปิด 29.75 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 2.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 766 ล้านบาท เพราะมันไม่มีสตอรี่ที่จะทำให้หุ้นไปต่อได้เลยจริง ๆ และการตัดขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง จึงเป็นทางออกที่ดีสุดไงล่ะค่ะ

*คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น ETC ที่กำลังเผชิญในเวลานี้ “โมนิก้า” ไม่มีความจำเป็นต้องไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ ก็ในเมื่อหุ้นไปไม่ไหวแล้วจริง ๆ การขายหุ้นทิ้งทุกราคาเลยเป็นเรื่องปกติ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการย่อตัวลงมาปิดที่ 2.32 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 14.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.09 พันล้านบาท มีอะไรซ่อนไว้อะป่าว ? เพราะนี่เป็นแหล่งชุมนุมเซียนหุ้นอย่างคับคั่ง เกมหุ้นคงไม่จบง่ายเพียงเท่านี้กระมั้ง !..อิอิอิ

*ส่วนรายที่จบรอบการขายฝันชัดเจน “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังหุ้นขออีกทีอย่าง MORE เพื่อชี้ให้เห็นการสาดหุ้นทิ้งอย่างหนักหน่วง 2 วันติดพร้อมด้วยวอลุ่มที่หนาแน่น มันมีความหมายในตัวของมันเองอยู่แล้ว แถมเมื่อย้อนดูจังหวะที่หุ้นขึ้นด้วยแรงซื้อหยุมหยิม แต่พอถึงบทลงกลับกลายเป็นคนละเรื่องกันเลย เดี๊ยนถึงอยากให้ขาลุยประเมินการลงมาปิดที่ 0.60 บาท ลบไป 0.07 บาท หรือลงไป 10.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 240 ล้านบาท ท่ามกลางตัวเลขขาดทุนแดงโร่แบบนี้..มันควรจะจบเกมไหมค่ะนายท่าน !