*หากอ้างอิงข้อมูลจากสัญญาณเทคนิคเป็นหลักจะเห็นว่า ทิศทางของตลาดหุ้นไทยขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผู้เล่นที่มีต่อข่าวสารเป็นแบบไหน ? จึงเล่นหุ้นแบบแทงกั๊กต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพราะอยากดูแรงซื้อจากนักเล่นกลุ่มอื่นจะช่วยดันดัชนีวิ่งผ่านแนวต้าน 1,335 จุดได้หรือเปล่า ? ส่งผลให้ดัชนียังคงป้วนเปี้ยนไปมาที่บริเวณดังกล่าวต่อไปเช่นเดิม พร้อมกับเปิดโอกาสให้นักเล่นหมุนตัวเล่นไปเรื่อย ๆ พะยะค่ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,323.31 จุด ลบไป 3.50 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.46 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นเรื่องดีสำหรับการเล่นในสัปดาห์นี้ เพราะแสดงให้เห็นแรงซื้อยังมีเข้ามารับหุ้นไม่ขาดสาย จึงมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะเดินหน้าขึ้นไปทดสอบแนวต้านดังกล่าวอีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับซอยเท้าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเล่นหุ้นบลูชิพ หลังสตอรี่ดี ๆ เด่น ๆ ถูกโปรยออกมาไม่ขาดสายเจ้าค่ะ

*โดยเฉพาะแนวทางป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทยด้วยการมัดรวมหนี้ ต่อจากนั้นใช้เครื่องมือทางการเงินมายืดหนี้ ผสมผสานกับการคิดดอกเบี้ยต่ำ ๆ (MRR) เพื่อให้ลูกหนี้หายใจได้ทั่วท้องมากขึ้น ย่อมเป็นจุดที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจเริ่มเดินได้อีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงเชื่อในใจลึก ๆ ว่า สัปดาห์นี้มีลุ้นได้เห็นแฟนคลับเคาะขวากันแบบมัน ๆ นะจะบอกให้

*โดดเด่นมาแต่ไกล และขึ้นต่อเนื่องต้องยกให้น้องมิ้น MINT แต่เพียงผู้เดียวบนเวทีแห่งนี้ หลังข้อมูลชี้ชัดว่า หุ้นบวกต่อเนื่อง 6 วันติด และเมื่อรวมกับการขึ้นมาปิดที่ 23 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.24 พันล้านบาทเมื่อวันศุกร์ ก็เป็นการขึ้นต่อเนื่อง 7 วันติดแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องของการ follow buy แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะของมันแบเบอร์แล้วว่า เริ่มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ นะซี

*เช่นเดียวกับในรายของแบงก์ใบโพธิ์ SCB พยายามยกตัวเองขึ้นช้า ๆ 3 วันติด พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 73.75 บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.19 พันล้านบาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นช็อตของการไหลตามน้ำอีกเช่นกัน เพราะหุ้นกำลังพยายามยืนเหนือเส้นแนวต้าน 75 วันที่บริเวณ 73.50 บาท จึงอยากให้นักเล่นประเภทถึงไหนถึงกันติดตามดูให้ดี เพราะช็อตนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ นะจ๊ะ

*ส่วนหุ้นสายการบินสีแดงอย่าง AAV อาจวิ่งไม่ผ่านแนวต้านเก่าบริเวณ 2.10 บาทเป็นครั้งที่ 5 แต่เมื่อดูจากข่าวดีเรื่องซอฟต์โลนที่จะเข้ามาต่อท่อน้ำเลี้ยงให้กับธุรกิจ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นจุดที่นักเล่นยังพอมีหวังที่จะได้เห็นราคาหุ้นขยับตัวขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านดังกล่าว จึงอยากให้แฟนคลับรับรู้สถานการณ์ในวันนี้ว่าเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น รวมทั้งการที่หุ้นยืนปิด 2.02 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 155 ล้านบาท น่าจะทำให้นักเล่นพอเดาทางออกไงล่ะค่ะ

*ในเมื่อโมเมนตัมหลายอย่างดีขึ้น “โมนิก้า” ย่อมหันไปมองหุ้นนิคมอุสาหกรรมอย่าง WHA อย่างรวดเร็ว เพราะเมื่อดูตามท้องเรื่องที่เกิดขึ้น และทิศทางธุรกิจเริ่มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนเลยมั่นใจการยืนปิดที่ 3.26 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 0.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 81 ล้านบาท คือจังหวะของการช้อนหุ้นเพื่อลุ้นให้ดีดกลับสั้น ๆ จึงกลายเป็นหุ้นที่เหมาะต่อการเคาะสั้นเอามันเป็นหลักเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ICHI วิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 9.30 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 532 ล้านบาท ย่อมเป็นผลมาจากผลงานกระเตื้องขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผนวกกับในช่วงที่ผ่านมามีการเปิดตัวสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดมากขึ้น บรรดาเกจิอาจารย์ดังเลยเชื่อว่า ผลงานในครึ่งปีหลังน่าจะแจ่มสุด ๆ จึงเป็นที่มาของความพยายามไล่ราคาให้ผ่านแนวต้าน 9.50 บาทสักที (ติดอยู่แถวนี้ร่วมเดือนครึ่ง) นะจะบอกให้

*ส่วนรายที่มาเรื่อย ๆ ก่อนกระชากขึ้นพรวดเดียวอย่าง AU กลายเป็นช็อตที่นักเล่นเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น เพราะแรงซื้อหนาแน่นขึ้นทุกวัน จนล่าสุดขึ้นมายืนปิดที่ 10.10 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 6.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 243 ล้านบาท ก็มาจากความเชื่อที่ว่า ผลงานในครึ่งปีหลังฟื้นตัวอย่างแน่นอน ส่งผลให้ไม่มีใครสนใจการเทรดวันนี้จะอยู่บนค่า P/E 62 เท่า เพราะวันนี้ต้องมองไปที่อนาคตอย่างเดียว..อิอิอิ