ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 17 ก.ย.63 ปิดที่ 1,284.40 จุด ลดลง 9.08 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 46,006.90 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,112.24 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด TASCO ปิด 16.50 บาท บวก 0.50 บาท, KBANK ปิด 78.50 บาท ลบ 1.25 บาท, AOT ปิด 60.25 บาท ลบ 1.25 บาท, KCE ปิด 31.25 บาท บวก 1 บาท และ PTT ปิด 35.75 บาท บวก 0.50 บาท

หุ้นไทยปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะที่มีแรงกดดันจากสถานการณ์การเมืองในประเทศ ที่จะมีการชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย.นี้

หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่มีสัดส่วนรายได้จากโครงการคอนโด ปรับตัวขึ้นโดดเด่น คาดว่าจะตอบรับเชิงบวก หากภาครัฐฯปรับเกณฑ์ให้ต่างชาติมีโอกาสลงทุนได้เพิ่มขึ้น มีแนวทางการดำเนินการที่สำคัญ คือการพิจารณาเพิ่มประเภทคำขอเพื่อเข้ามาลงทุนซื้ออาคารชุดและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ตามมูลค่าที่กำหนด โดยห้ามจำนอง จำหน่าย โอน ภายในเวลา 5 ปี รวมทั้งยกเว้นเกณฑ์การกำหนดเวลาการพำนักในไทยไม่น้อยกว่า 3 ปีก่อนยื่นคำขอ

โดย บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า เป็นบวกต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ที่เน้นทำคอนโด จากการที่จะช่วยให้ต่างชาติที่อยู่ในเมืองไทยหรือสนใจเข้ามาอยู่เมืองไทยเข้ามาอยู่อาศัยในระยะยาวได้และหันมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยมากขึ้น เป็นบวกต่อผู้ประกอบการคอนโดที่ต่างชาติสามารถเข้ามาถือครองเป็นเจ้าของได้ โดยประเมินหุ้นที่จะได้ประโยชน์มากสุด ได้แก่ ANAN, ORI AP, SPALI

โดยหุ้น top pick ได้แก่ ORI (ซื้อ/เป้า 9.70 บาท) จากผลการดำเนินงานปี 63-64 ที่จะมีทิศทางที่ดีกว่ากลุ่ม ขณะที่ valuation ยังต่ำกว่ากลุ่ม โดยเทรด 2563 PER ที่ 5.9 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ 8.5 เท่า

ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เลือกหุ้น NOBLE, ORI, ANAN เด่น โดย ANAN มี Opp day คาดตลาดตอบสนองเชิงบวก เนื่องจากผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ราคาหุ้นยังอยู่ในโซนต่ำ

ขณะที่ บล.เอเซียพลัส ระบุข่าวกระทรวงศุลกากรของจีน (GACC) ได้สั่งระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกจากโรงงานของโอเค ฟู้ดส์ ในสหรัฐฯ เมืองฟอร์ตสมิธ รัฐอาร์คันซอ หลังพบคนงานติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 200 คน ทำให้ไม่สามารถส่งออกสินค้าไปยังจีนได้อีก เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 ก.ย.เป็นต้นไป

ถือเป็น Sentiment บวกต่อ ผู้ส่งออกไก่ ได้แก่ GFPT, TFG, CPF โดยฝ่ายวิจัยชอบ TFG (BUY:FV @ 6.0), CPF (BUY:FV @ 41.00)

อินเด็กซ์ 51