ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 14 ต.ค.63 ปิดที่ 1,263.99 จุด ลดลง 9.44 จุด มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 51,802.58 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,665.36 ล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 936.55 ล้านบาท ขณะที่รายย่อย ซื้อสุทธิ 3,433.24 ล้านบาท และพอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 168.68 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด KBANK ปิด 72.25 บาท ลดลง 2.75 บาท, HANA ปิด 51 บาท บวก 6.25 บาท, PTT ปิด 33.25 บาท ลดลง 1 บาท, ILV ปิด 24.20 บาท บวก 0.20 บาท และ STGT ปิด 89.25 บาท บวก 0.25 บาท

หุ้นไทยโดนแรงกดดันจากสถานการณ์การชุมนุมการเมืองในประเทศ ที่ทำลายบรรยากาศการลงทุน ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศก็ปรับลง จากข่าวการระงับการทดลองวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19

ขณะที่มีข่าวจาก บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า จากการที่ได้เข้าร่วมงานประชุม Anyst meeting ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้ เศรษฐกิจไทยปี 2563 ธปท.คาดว่าจะหดตัว -7.8% yoy (เดิมคาด-8.1%) แต่ปี 64 คาดขยายตัวต่ำลงเหลือ 3.6% yoy (จากเดิมคาด 5%) แต่ประเด็นนี้มองว่าตลาดรับรู้ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ธปท.ยังไม่ได้ปิดโอกาสสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของเอเซียพลัส

ที่ยังคงมุมมองเดิมคือ การประชุม กนง.ที่เหลืออีก 2 ครั้งของปีนี้มีโอกาสที่ลดดอกเบี้ย 25bps มาอยู่ที่ 0.25%

สำหรับนโยบายการงดจ่ายปันผลระหว่างกาลของธนาคารพาณิชย์ ยังต้องติดตามผล stress test ของ ธปท. ช่วงปลาย ต.ค.-พ.ย.63 โดย ธปท. ยังไม่ผ่อนคลายมาตรการงดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลของธนาคารพาณิชย์ แม้เงินกองทุนจะสูง (รอผล Stress test อีกครั้ง จะรู้ในช่วง ต.ค.-พ.ย.)

ขณะที่โครงการพักชำระหนี้ ธปท.เผยว่า ลูกหนี้ที่เข้าร่วมสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติกว่า 60% หลังมาตรการสิ้นสุด ต.ค.63 ที่เหลืออีก 40% ยังต้องติดตามต่อ


โดยรวมจากประเด็นดังกล่าวเอเซียพลัสยังคงน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ “น้อยกว่าตลาด” Top pick กลุ่มเลือก BBL เด่นสุด!!

อินเด็กซ์ 51