ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 16 พ.ย.63 ปิดที่ 1,351.06 จุด เพิ่มขึ้น 4.59 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 78,504 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 1,239.65 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด STGT ปิด 75 บาท ลบ 0.25 บาท, SCGP ปิด 39 บาท บวก 1.75 บาท, MINT ปิด 24.20 บาท บวก 1 บาท, KBANK ปิด 94.75 บาท บวก 0.50 บาท และ VGI ปิด 7.40 บาท บวก 0.45 บาท

หุ้นไทยปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค รับการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียนแปซิฟิก หรืออาร์เซ็ป ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 ออกมาติดลบ 6.4% จากงวดเดียวกันปีก่อน ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ว่าจะติดลบมากกว่านี้ และยังเป็นการติดลบหรือหดตัวในอัตรา

ที่ชะลอลงจากไตรมาสก่อน แต่ตลาดภาคบ่ายดัชนีอ่อนตัวลง เพราะนักลงทุนรอติดตามสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองวันที่ 17-18 พ.ย.นี้

มีข่าวสำนักงาน ก.ล.ต.เปิดเผยแบบรายงานการได้มาหุ้นของ ANAN โดย BTS ซึ่งเป็นการได้มาเมื่อวันที่ 11 พ.ย.63 จำนวน 7.5% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ขณะที่ “ชานนท์ เรืองกฤตยา” รายงานว่าได้ขายหุ้น ANAN จำนวน 249,975,000 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 1.33 บาท คิดเป็นมูลค่า 332.46 ล้านบาท

ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมามีรายการบิ๊กล็อต หุ้น VGI จำนวน 1,299 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 6 บาท ต่ำกว่ากระดาน คิดเป็นมูลค่ารวม 7.8 พันล้านบาท ซึ่งคาด BTS เป็นผู้ทำรายการขายหุ้นออกมาให้กลุ่มทุนบริษัทพลังงานและดิวตี้ฟรีเพื่อนำเงินไปเตรียมลุยลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในสนามบินอู่ตะเภาและการบิน

ปิดท้าย มีบทวิเคราะห์ จาก บล.เอเซียพลัสระบุว่า ผลจาก Analyst Meeting นักวิเคราะห์พบผู้บริหาร STGT โดยระบุว่าภาพรวมการประชุมเป็นในทิศทางบวก จาก Demand ถุงมือยางยังสูงต่อเนื่อง ทำให้ STGT สามารถปรับเพิ่มราคาขายถุงมือยางงวด 4Q63 ได้ถึง 50% qoq และคาดว่าจะใช้ราคาในงวด 4Q63 บวกต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นเป็นฐาน

สำหรับการเจรจาราคาขายถุงมือยางในปี 64 แม้มีข่าวพัฒนาการด้านวัคซีนแต่ STGT ประเมินว่า Demand ถุงมือยางยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง สะท้อนจากล่าสุดลูกค้ามีการสั่งซื้อถุงมือยางสังเคราะห์ล่วงหน้าเต็มจนถึงกลางปี 66 และสั่งซื้อถุงมือยางธรรมชาติเต็มจนถึงต้นปี 65 แล้ว และมีแผนปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 63-64 จากแนวโน้มราคาขายถุงมือยางที่สูงกว่าคาด และมีแผนปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานเช่นกัน ยังแนะนำซื้อให้ราคาพื้นฐานปี 63 ที่ 100 บาท!!

อินเด็กซ์ 51