|
| |
|
????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 31/10/2005 @ 17:30:03 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ดัชนีตลาดปิดที่ 682.62 จุด เพิ่มขึ้น 0.37 จุด
มูลค่าการซื้อขาย 7,467.15 ล้านบาท
...........................................................
กลุ่ม -- ซื้อ(ขาย)สุทธิ
สถาบัน 167.27
ต่างประเทศ (428.44) [/color:b59d7bb1c0">
ลูกค้าทั่วไป 261.16
หน่วย (ล้านบาท)
|
| | กลับขึ้นบน |
อาฟง
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 | #1 วันที่: 31/10/2005 @ 17:41:00 : re: สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 428.44 ล แอ๊ดคินซัน ชี้วันนี้ข่าวดีหมดน้ำยาไม่มีแรงดัน SET Index เพราะแรงขายฝรั่งกด
ดัน ทำนักลงทุนไม่มั่นใจซื้อคืน เชื่อพรุ่งนี้ยังเคลื่อนไหวไม่แตกต่าง เพราะ นลท.ต้องดูความ
ชัดเจนของแรงขายก่อนต่อเนื่องอีก 2-3 วัน โดยให้กรอบความเคลื่อนไหวที่ 680-686 จุด[/color:4b86fd71da">
ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดที่ระดับ 682.62 จุด เพิ่มขึ้น 0.37 จุด มูลค่าซื้อขาย
7,467.15 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 167.27 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ
424.44 ล้านบาท และลูกค้ารายย่อยซื้อสุทธิ 261.16 ล้านบาท
สำหรับ 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
1.PTT ปิดที่ 220 บาท ลดลง 2 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,015 ล้านบาท
2.ADVANC ปิดที่ 100 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 416.55 ล้านบาท
3.PTTEP ปิดที่ 420 บาท ลดลง 4 บาท มูลค่าซื้อขาย 307.53 ล้านบาท
4.KBANK ปิดที่ 60.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 278.72 ล้านบาท
5.TOP ปิดที่ 70.50 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 3258.2716.58 ล้านบาท
นายอมเรศ สิงห์ณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บล.แอ๊ดคินซัน
กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในวันนี้ว่า ยังเคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัว
แคบๆ ตั้งแต่ช่วงเปิดตลาด เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลในแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ทำให้ยัง
ไม่กล้าเข้าลงทุนอย่างเต็มตัวในช่วงนี้ แม้ว่าในช่วงบ่ายจะมีข่าวดีออกมาจากธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) ในเรื่องการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดและดุลการค้าในเดือนกันยายน แต่ก็ยัง
ไม่สามารถทำให้นักลงทุนคลายความกังวลลงได้
เชื่อว่าวันนี้นักลงทุนยังกังวลเรื่องแรงขายต่างชาติ ทำให้ยังไม่มีใครกล้าเข้าไปลงทุน
โดยเฉพาะในวันนี้มีช่วงหนึ่งที่ดัชนีหลุดลงไปแตะ 680 จุด จึงทำให้ยิ่งไม่มั่นใจว่าดัชนีฯจะปรับลด
ลงรอบใหม่หรือเปล่า เพราะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแม้แรงขายสุทธิของต่างชาติจะน้อยลงเมื่อเทียบ
กับการขายก่อนหน้านี้ แต่เมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อขายของตลาดฯที่ค่อนข้างเบาบางทำให้
เปอร์เซ็นต์ของการขายสุทธิค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ จึงทำให้ในช่วงบ่ายแม้จะมีข่าวดี
ออกมาจากแบงก์ชาติก็ทำให้ดัชนีฯปรับขึ้นไปได้เพียงช่วงสั้นๆ และลดลงมาใหม่ด้วยแรงขายที่รอ
อยู่
เขากล่าวอีกว่า ประกอบกับนักลงทุนบางส่วนยังรอความชัดเจนของการประกาศ
นโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 พ.ย.แม้ว่าจะมีการคาดการณ์
ไว้แล้วว่าอัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่น่าจะแตกต่างจากครั้งก่อนๆ ซึ่งเชื่อว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ของเฟดในครั้งนี้อาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย จากการไหลออกของเม็ดเงินลงทุนแม้ว่า
มูลค่าการลงทุนในตลาดฯลดลง เนื่องจากเม็ดเงินอาจจะไหลไปในตลาดเงินชั่วคราวเท่านั้น แต่
ไม่ได้ไหลออกนอกประเทศ ซึ่งจะเห็นได้จากค่าเงินบาทที่ไม่ได้เคลื่อนไหวผันผวนและยังเดินใน
ด้านแข็งค่า
ส่วนทิศทางความเคลื่อนไหวของดัชนีฯในวันพรุ่งนี้ มองว่ายังไม่น่าจะแตกต่างจาก
วันนี้มากนัก โดยจะยังเคลื่อนไหวแบบแกว่งตัวในกรอบ 680-686 จุด เนื่องจากนักลงทุนยังรอ
ความชัดเจนของแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งหากขายน้อยลงนักลงทุนก็อาจจะรอดูความ
ชัดเจนต่อไปอีกสักระยะจึงจะเข้าลงทุนใหม่ ยกเว้นจะมีการจุดพลุใช้ข่าวดีเข้ามาหนุนให้ราคาหุ้น
และดัชนีฯปรับเพิ่มขึ้นชัดเจน แต่ที่ผ่านมามักทำได้เพียงช่วงสั้นๆ เพราะยังมีแรงขายออกมาเพิ่ม
ทำให้ดัชนีฯและราคาหุ้นวิ่งได้ไม่ไกลนัก ทั้งนี้ เขาให้แนวรับวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 680 จุด และแนวต้าน
ที่ 686 จุด |
| | กลับขึ้นบน |
อาฟง
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 | #2 วันที่: 31/10/2005 @ 17:53:32 : re: สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 428.44 ล ค่าเงินบาทปิดตลาดเย็นที่ระดับ 40.73 ? 40.78 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ[/color:1ba9b894c5">
ค่าเงินบาทปิดตลาดเย็นวันนี้ที่ระดับ 40.73 ? 40.78 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่า
ขึ้นเล็กน้อยผลจากทิศทางของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ดีลเลอร์คาดกรอบการเคลื่อนไหวระยะนี้
อยู่ที่ระดับ 40.70 ? 40.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
นักค้าเงินธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง กล่าวว่า ค่าเงินบาทปิดตลาดเย็นวันนี้ที่ระดับ
40.73 ?40.78 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับเปิดเช้าที่ 40.76 ?
40.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากการที่ยังไม่มีปัจจัยอื่นกระตุ้นตลาดนอกเหนือจากทิศทางอัตรา
ดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น
ทั้งนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ซึ่งไม่มีทิศทางขึ้นของอัตราดอกเบี้ย แต่
ไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากมีทิศทางดอกเบี้ยอยู่ใน
ช่วงขาขึ้นเช่นกัน
ด้านการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในวันนี้ ซึ่งออกมาในทิศ
ทางดี โดยเฉพาะตัวเลขดุลการค้าที่เกินดุลเป็นครั้งแรกในรอบปีนั้นมองว่าคงไม่ใช่ปัจจัยที่จะส่ง
ผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นในระยะนี้ส่วนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ที่คาดว่าจะมี
การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตลาดได้รับรู้ปัจจัยนี้ไปนานแล้วจึงคงไม่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทเช่น
กัน
ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทระหว่างวันเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดที่ 40.73
บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนค่าสุดที่ 40.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยกรอบการเคลื่อนไหวช่วง
นี้น่าจะอยู่ที่ 40.70 ? 40.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ |
| | กลับขึ้นบน |
| |
