Kuririn สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 26 | วันที่: 25/08/2005 @ 08:34:21 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ASK มั่นใจเต็ม100% ราคาเหนือจอง 8.90 บาท ชูของดี 7 ประการโดนใจนักลงทุน ทั้งนโยบายปันผล 40%-70% ของกำไรสุทธิ กำไรโตต่อเนื่องครึ่งปีแรก 47 ทำได้ 70ล้านบาท เศรษฐกิจชะลอ น้ำมันแพงไม่กระทบ เหตุสินค้าหลากหลาย เจาะตลาดแตกต่างจากอุตสาหกรรม ขณะที่โบรเกอร์ประเมินเป้าหมายสูงสุด 14.50 บาท
เจมส์ โล กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ASKกล่าวว่า ราคาหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์หมวดเงินทุนหลักทรัพย์วันนี้(25ส.ค.)จะปรับขึ้นเหนือจอง ด้วยพื้นฐานที่ดีของบริษัท ราคาจึงน่าสะท้อนปัจจัยเหล่านี้ออกมา นอกจากนี้ราคาเสนอขายให้ประชาชนครั้งแรก หรือ ไอพีโอ และอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น หรือพี/อี ถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำ
เจมส์ กล่าวว่า จุดเด่น 7 ประการของบริษัทที่เชื่อว่า จะช่วยกระตุ้นความสนใจของนักลงทุน ได้แก่ 1.บริษัทมีนโยบายปันผลที่แน่ชัดอย่างน้อย 40% ของกำไรสุทธิ และสูงสุด70% เรื่องนี้คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาหลังจากหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดแล้ว 2.การดำเนินธุรกิจตลอด 21 ปีถือว่าเติบโต และมีกำไรต่อเนื่องย้อนหลัง 4 ปีมีกำไรสุทธิ 75.36ล้านบาท 98.20 ล้านบาท 127.91 ล้านบาท และ 150.48 ล้านบาท ตามลำดับ และล่าสุดกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 2548 อยู่ที่ 70 ล้านบาท
3.การมีสินค้าที่ครบวงจร ทั้งธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เก่า-ใหม่ รถตู้ รถกระบะรถบรรทุก ธุรกิจสินเชื่อลีสซิ่งประเภทเครื่องจักรและยานพาหนะ ธุรกิจแฟคตอริ่งทั้งในและต่างประเทศ และบริการอื่นๆ อาทิ สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อแก่ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์
เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อครึ่งปีหลังยังเติบโตเหมือนเดิม ในระดับใกล้เคียงกับปีแรกที่เติบโต 15% การแข่งขันที่รุนแรง และราคาน้ำมันไม่กระทบการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากเรามีธุรกิจที่หลากหลาย ทำให้เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงไม่ได้กระทบกับกับทุกเซ็กเตอร์
4.ผู้ให้การสนับสนุนในเรื่องการเงินขนาดใหญ่อย่างกลุ่มคูจากไต้หวัน และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ที่ถือหุ้นในบริษัทสัดส่วน 63.72% และ 10.06% ตามลำดับ
5.บริษัทมีส่วนต่างดอกเบี้ยรับอยู่ในระดับสูงประมาณ 5.5%ซึ่งถือว่าสูงสุดในจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจให้สินเชื่อ 6.มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลต่ำเพียง 0.4%และ7.ระบบ และบุคลากรที่ดี ส่งผลให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพ
เจมส์ กล่าวว่า สาเหตุที่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากต้องการระดมทุน 204.7 ล้านบาทเนื่องจากส่วนหนึ่ง 150 ล้านบาท จะให้รองรับการปล่อยสินเชื่อ และอีก 50ล้านบาทใช้พัฒนาระบบสารสนเทศ เพื่อเพิ่มคุณภาพด้านการแข่งขัน
ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท ภายหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดทำให้ช่องทางการระดมเงินทุนของเรามีหลากหลายมากขึ้น ซึ่งทำให้พอร์ตของเราโตขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนหรือD/E จะลดลงจากปัจจุบันอยู่ที่ 9 เท่าเหลือเพียง 7 เท่านายเจมส์ กล่าว
เทียนทวี สระตันติ์ ผู้จัดการทั่วไปบริษัทเอเซียเสริมกิจ กล่าวว่า ภาวะตลาดในช่วงนี้ถือว่าไม่น่ากลัว จึงเชื่อว่าราคาหุ้นของ ASK น่าจะไปได้ดี ถ้าถามว่าทำไมถึงเลือกเข้าตลาดช่วงนี้ เรามองที่ผลประโยชน์ที่ได้รับเป็นหลัก โดยได้ลดการเสียภาษี 5% เป็นเวลา5 ปี ซึ่งจุดนี้ถือว่ามีค่ามหาศาล โดยเงินดังกล่าวจะนำกลับมาบริหาร เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้
เทียนทวี ยอมรับว่า ธุรกิจลิสซิ่งถือว่าแข่งขันกันรุนแรงมากช่วง 2 ปีหลัง แต่ตลาดยังเติบโตได้จากธุรกิจรถยนต์ที่เติบโตเช่นกัน และการที่บริษัทกระจายปล่อยสินเชื่อในหลากรูปแบบ ซึ่งไม่มีบริษัทอื่นเข้ามารุกตรงนี้ จึงถือเป็นความแตกต่างที่เอื้อให้ ASK เดินหน้าได้ต่อไป
เราพอใจอยู่ในตลาดที่ไม่มีการแข่งขันมาก ถึงแม้ความต้องการจะมีไม่มาก แต่ถือว่าอยู่ได้
บริษัทเอเซียเสริมกิจ ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 575 ล้านบาท เป็นทุนชำระแล้ว 460ล้านบาท ได้เสนอขายไอพีโอระหว่าง 16-18 ส.ค.ที่ผ่านมาจำนวน 23 ล้านหุ้น รวมกรีนชู3.45 ล้านหุ้น รวม 26.45 ล้านหุ้น ราคาจองซื้อ 8.90 บาทพาร์ 5 บาท มูลค่าระดมทุน204.70 ล้านบาท ส่งผลให้ทุนจดทะเบียนชำระเพิ่มขึ้นเป็น 575 ล้านบาท
บรรดาโบรกเกอร์มั่นใจในทิศทางเดียวกับผู้บริหารว่า ราคา ASK วันนี้จะยืนเหนือจองได้สำเร็จ และแนะนำซื้อ โดยบริษัทหลักทรัพย์(บล.)บัวหลวงประเมินมูลค่าพื้นฐานให้ASK ไว้ 11.50-14.50 บาท ด้านบล.ซีมิโก้ให้ไว้ 12.10-13.40 บาท บล.เคจีไอให้ไว้11.70 บาท บล.ฟินันซ่า ให้ไว้ 8.10-10.50 บาท และ 11.10 บาท เป็นราคาเป้าหมายของบล.ฟาร์อีสท์
ทีมา ข่าวหุ้น
|