๐ตลาดหุ้นไทยวันที่ 14 มีนาคม 2549 วันที่กลุ่มพลังประชาชนนับแสนคน จากเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนพลบุกประชิดประตูทำเนียบรัฐบาล กดดันขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้ลุกออกจากเก้าอี้ แต่ตลาดหุ้นของเราก็อยู่ในแดนบวก และปิดตลาดแบบนิ่มๆ ที่ 738.63 จุด เพิ่มขึ้น 5.75 จุด มูลค่าการซื้อขาย 11,023 ล้านบาท

๐เมื่อมั่งมี มากมาย มิตรหมายมอง

เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา
เมื่อไม่มี มิตรเมิน ไม่มองมา
เมื่อมอดม้วย หมูหมา ไม่มามอง

หวังว่าสุภาษิตก่อนนอนบทนี้จะปลอบใจลูกผู้ชาย ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ผู้ที่กำลังตกเก้าอี้ได้เป็นอย่างดี เพราะตอนนี้มองไปทางไหนคงหาคำว่า มิตรแท้ ได้ยากเต็มที คนที่เคยสมประโยชน์ร่วมกันก็พากันยี้ พัดลมยังส่ายหน้าหนี ออกอาการไม่รู้จักเสียดื้อๆ อย่างรายล่าสุด วิชัย ทองแตง ทนายความผู้มีส่วนสำคัญยิ่งทำให้ ทักษิณ ได้นั่งเก้าอี้ สร.1 เมื่อปี 2544 ก็ยังออกตัวปกป้องธุรกิจโรงพยาบาลพญาไท เป็นของครอบครัว ทองแตง ไม่เกี่ยวกับครอบครัว ชินวัตร ทราบแล้วเปลี่ยน

๐จุมพล เตชะไกรศรี แห่ง ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม (TKT) ที่ห่างหายจากหน้าข่าวไปพักใหญ่ ถือโอกาสบอกข่าวดีผ่านเวทีบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุนวานนี้ ตั้งเป้าจะเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น จาก 16.52% เป็น 20% จากเดิมที่ 16.52% ซึ่งเพิ่มตามยอดขายแม่พิมพ์ ที่จะได้รับผลบวกจากการขยายโรงงานผลิตแม่พิมพ์แหล่งที่ 3 ที่ จ.ฉะเชิงเทรา และหวังรายได้ในปีนี้จะขยายตัว 10% ?ปีนี้โจทย์หลักเราคือการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น แม่พิมพ์จะเป็นคำตอบที่ดี เพราะมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 20-25% ส่วนข่าวความร่วมมือทางเทคโนโลยีการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์ร่วมกับบริษัทจากประเทศญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ตอนนี้อยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้าย ขอให้ผู้ถือหุ้นใจเย็นๆ ยังไงเดือนเมษายนนี้มีการเซ็นสัญญาแน่นอน

๐จับทางไม่ถูกว่าหุ้นเซรามิคมาแรงเพราะอะไร จะว่าเกาะกระแสอสังหาริมทรัพย์ก็ไม่ใช่ เพราะปีนี้อสังหาฯก็ไม่ได้โตมากมาย แต่กระสั้น หุ้น ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี (TGCI) ก็กระโดดขึ้นมาได้ 23.64% โดยปิดการซื้อขายที่ 2.72 บาท เพิ่มขึ้น 0.52 บาท มูลค่าการซื้อขาย 117 ล้านบาท ถามนักวิเคราะห์ว่าแนะนำยังไงก็ได้รับคำยืนยันว่า ถ้านักลงทุนสนใจหุ้น(ปูพื้น)ฐานแล้วล่ะก็ .. ไดนาสตี้เซรามิค(DCC) โดดเด่นที่สุดเพราะจ่ายปันผลทุกไตรมาส ส่วนหุ้น TGCI นี้ นอนยันว่าราคาไปเกินปัจจัยพื้นฐานไปแล้วเจ้าค่ะ

๐หุ้น ไมด้า เมดดาลิสท์ เอ็นเธอร์เทนเม้นท์(MME) วิ่งฉิวอย่างกับติดเทอร์โบอีกแล้ว ล่าสุดวานนี้ บอกเพิ่มอีก 4.95 บาท หรือ 21.24% มาที่ 28.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 140.2 ล้านบาท ร้องถึงเสี่ย กมล เอี้ยวศิวิกูล ประธานใหญ่ MME ต้องออกมาแจง ไม่รู้สาเหตุที่ราคาพุ่ง เป็นไปตามกลไกตลาด มีผู้ซื้อก็ต้องมีผู้ขาย แถมใจดีเตือนซะด้วยว่า การลงทุนมีความเสี่ยง... เอ้า! นักลงทุนทั้งหลายที่ถือหุ้นนี้อยู่ก็รับฟังคำเตือนไว้บ้าง เกิดวันไหนหุ้นลงฮวบฮาบจะได้ไม่โทษเสี่ยงเค้า เพราะเสี่ยเตือนแล้วนะว่ามันเสี่ยง ...เอิ๊ก!

๐หุ้น แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ (CAWOW) แอบซ่อนอะไรไว้ในโรงยิมรึเปล่าไม่รู้....เพราะอยู่ดีๆก็มีการโยนบิ๊กล็อตก้อนโต โดยจับมือใครดมไม่ได้ มีบิ๊กล๊อตทั้งหุ้นสามัญและหุ้นในกระดานต่างประเทศ....ผ่านกระดานบิ๊กล็อต 2.68 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 6.40 บาทมูลค่ารวม 17.15 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานต่างประเทศ 8.76 ล้านหุ้น มูลค่า 56.06 ล้านบาท ราคาหุ้นละ 6.40 บาท ฮั่นแน่! หรือว่าโยนไว้ล่อให้คิดว่าจะมีข่าวดีมาบอกวันนี้(15มี.ค.) ในงานพบนักลงทุนหวังให้หุ้นขึ้นแล้วค่อยขายทีหลังกันแน่ ....น่าสงสัยสุดๆ


---------------------------------------------------------------------

๐ จังหวะนี้ ปิคนิค กำลังเข้ามุมอับ เพราะภายในเดือน เมษายน นี้ ถ้าเจรจา ยืดหนี้ และ เพิ่มทุน ไม่สำเร็จ ก็มีโอกาสถูก เจ้าหนี้ ฟ้องเละ...๐ เกมตอนนี้ ลาภวิสุทธิสิน ต้องสลับร่าง รีเทิร์น ออกมาจาก มุมมืด เพื่อมา คุมเกม เอง โดยสลับเอา (2 ร่างทรง) วัชรกิติ วัชโรทัย และ นิรันดร์ ฟูกาญจนานนท์ ออกไป แล้วส่ง พ.ต.ท.พงษ์เทพ ลาภวิสุทธิสิน และ วราวุฒิ ลาภวิสุทธิสิน เข้ามาเสียบแทน


๐ ส่วน ผู้ถือหุ้น ตอนนี้ ขวัญกระเจิง กันหมด (นาน) แล้ว แผน เพิ่มทุน ขาย รายย่อย 1,477.67 (หุ้นละ 1 บาท) มีสิทธิ เหลวเป๋ว เหลือแผนเดียว คือ ไปหา เจ้ามือ-รายใหญ่ มารับหุ้นไว้ (ชั่วคราว) แล้วตกลงแบ่ง กำไร จาก ราคาหุ้น กันทีหลัง ๐ รายย่อย อย่าลืมไปร่วม ซักฟอก ผู้บริหาร ได้วันที่ 21 มี.ค.2549 ในวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ที่ รร.รอยัล ปริ๊นเซส ศรีนครินทร์

๐ ตอบแทน รายใหญ่ ในรังกัน โจ้งๆ สำหรับ วรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ นายใหญ่ ฟินันซ่า กรณีขาย หุ้นกู้ด้อยสิทธิแปลงสภาพ ของ บล.บีฟิท มูลค่า 298.5 ล้านบาท ๐ ความซับซ้อนมันอยู่ตรงที่ บล.บีฟิท กำลังยื่นเข้า ตลาดหุ้น ส่วนผู้ที่เข้ามารับซื้อ ก็ล้วนเป็น เซียนหุ้น ในรัง บล.ฟินันซ่า และ บล.บีฟิท ได้แก่ ยืนยง พันธุ์วงศ์กล่อม (พี่น้อง ท.พ.ยรรยง) สมเกียรติ วงศ์คุณทรัพย์ (เสี่ยแตงโม-หาดใหญ่) ยุพา การชฎิล และ ชาตรี มหัทธนาดุลย์ (เจ้าของบ.ซีฮอร์ส)

๐ หลังจากเอาหุ้น บล.บีฟิท เข้าตลาดเสร็จ ทั้ง 4 คนนี้ก็จะนำ หุ้นกู้ ไป แปลงสภาพ เป็น หุ้นสามัญ ก็จะกลายเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่ (หลัง IPO) รวมกัน 25% ทันที ลองนึกเกมต่อไปก็แล้วกันว่า..อะไรจะเกิดขึ้นกับ หุ้นโบรกฯ ตัวนี้

๐ ยืนยันมาแล้วจาก 2 บิ๊กแบงก์ (ธ.ไทยพาณิชย์-ธ.กรุงเทพ) ว่า เทมาเส็ก ได้เบิกเงินกู้ไปซื้อหุ้น ชินคอร์ป เรียบร้อยแล้ว แสดงว่าเงินสด 7.33 หมื่นล้าน นั้น ครอบครัว นายกฯทักษิณ รับไปแล้ว แต่เงินก้อนนี้ยังเคลื่อนย้ายไม่ได้ จนกว่าจะครบ 90 วัน (ขบวนการซื้อ-ขายเสร็จสมบูรณ์) ๐ ส่วน คนใกล้ชิด มีข่าวว่า เริ่ม หิ้วเงิน (ขึ้นเครื่อง) ออกไป สิงคโปร์ แล้วหลายกระเป๋า มีคน เห็นจะจะ แต่ไม่มีใครกล้า..แตะต้อง

๐ ยิ่งหุ้นตก โอเล่ย์ ไทเก้น ก็ยิ่งไล่เก็บหุ้น ไรมอนแลนด์ (RAIMON) เข้าพอร์ต โอเล่ย์ คนเดียวกวาดหุ้นไปได้แล้ว 279.87 ล้านหุ้น (20.74%) ส่วน โฟรเด้ ไทเก้น ย่องเก็บมาก่อน 249.23 ล้านหุ้น (18.47%) ตอนนี้ 2 พี่น้อง-ไทเก้น รวบหุ้น RAIMON มาได้แล้ว 529 ล้านหุ้น รวมกันเฉียด 40%

๐ ตอนนี้ หม่อมปืน ม.ล.ชโยทิต กฤดากร เอ็มดี บล.ไทยพาณิชย์ ที่ปรึกษาทางการเงิน ขายหุ้น ชินคอร์ป สั่งลูกน้องทุกหน่วยงาน เย็บปาก ห้ามให้ข่าว เป็นการด่วน ๐ ก่อนหน้านั้นไป กดดัน (เช็คบิล) ลูกน้อง 2 คน (ม้านอกและเด็กนอกกรอบ) ที่เขียนหนังสือ 25 คำถาม เบื้องหลังดีลเทคโอเวอร์ชินคอร์ป จนต้อง ลาออก จากบริษัทไปแล้ว

------------------------------