May 6, 2024   12:56:06 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ** บทความดี ลองเข้ามาอ่านดูละกันครับ (การเมืองนิดๆๆ) **
 

tummeng
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 18
วันที่: 17/03/2006 @ 17:22:09
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

คอลัมน์ มองมุมใหม่
ดร. พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
Pichit@econ.tu.ac.th

การต่อสู้ทางชนชั้นในสังคมไทย
ความขัดแย้งครั้งใหญ่ในสังคมไทยขณะนี้ นอกจากจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างรัฐบาลที่ต้องการปฏิรูปสังคมไทยตามแนวทางทุนนิยมโลกาภิวัตน์ กับกลุ่มแนวร่วมต่อต้านโลกาภิวัตน์แล้ว ยังมีมิติทางชนชั้นอันแหลมคมคือ เป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญระหว่างชนชั้นล่างในเมืองและชนบทที่สนับสนุนผู้นำรัฐบาลและระบอบประชาธิปไตยกับชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมือง ที่ต้องการขับไล่ผู้นำรัฐบาลและฉีกรัฐธรรมนูญ

ชนชั้นล่างในเมืองและชนบทประกอบด้วย ประชาชนระดับรากหญ้าที่ตั้งแต่เกิดจนตายมีชีวิตยากจน ลำบากยากแค้น ไม่แน่นอน ไม่มีการศึกษา ขาดเงินทุน มีแต่หนี้สินและโรคภัยไข้เจ็บ ยาเสพติดในละแวกบ้าน อิทธิพลเถื่อนในพื้นที่ การข่มเหงรังแกของเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากผู้ใด ไม่มีปากมีเสียง ถูกละเลยผ่านพ้นรัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัย

พวกเขามีข้อได้เปรียบเพียงประการเดียวคือ มีจำนวนคนมากนับสิบล้านคนทั่วประเทศและระบบการเมืองที่พอจะเปิดโอกาสให้พวกเขาได้มีปากมีเสียงบ้างก็คือ ระบอบประชาธิปไตย เพราะเป็นระบอบที่ทุกคนมี หนึ่งเสียงเท่ากัน ไม่ว่ายากดีมีจน การศึกษาสูงหรือต่ำ และยังเป็นระบบเดียวที่ทำให้พวกเขาพอจะส่งอิทธิพลไปยังนักการเมืองได้บ้าง

พวกเขาสนับสนุนผู้นำรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง ก็เพราะนี่เป็นรัฐบาลแรกที่หยิบยื่นผลประโยชน์รูปธรรมเฉพาะหน้าให้กับพวกเขาได้จริงผ่านโครงการประชานิยมต่างๆ เช่น หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ พักชำระหนี้ กองทุนหมู่บ้าน 30 บาทรักษาทุกโรค บ้านเอื้ออาทร หมู่บ้านเอสเอ็มแอล ขจัดปัญหายาเสพติด ลดอิทธิพลเถื่อนในพื้นที่ แปลงหนี้นอกระบบเป็นหนี้ในระบบ ฯลฯ

ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองไม่เคยเข้าใจสิ่งเหล่านี้ เพราะพวกเขาไม่ต้องเผชิญกับปัญหาสารพัดที่ชนชั้นล่างต้องประสบตลอดชีวิต ชนชั้นกลางมีเงิน การศึกษา ตำแหน่งงาน บ้าน รถยนต์ มีช่องทางเข้าถึงเงินทุนและเงินกู้ในระบบ เจ็บป่วยก็มีเงินรักษา ไม่มีปัญหายาเสพติดในละแวกบ้าน ไม่เคยถูกเจ้าหน้าที่รัฐและอำนาจเถื่อนรังแก ไม่ต้องพึ่งรัฐบาลและนักการเมืองท้องถิ่น พวกเขาจึงมองชนชั้นล่างอย่างดูถูกดูแคลน ว่า ถูกซื้อ โดยรัฐบาล

พวกเขาต้องการโค่นล้มผู้นำรัฐบาลและเรียกร้อง รัฐบาลพระราชทาน ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้งก็เพราะในระยะเวลา 5 ปีมานี้ พวกเขาได้สูญเสีย สวรรค์ของอภิสิทธิ์ชน ของตนไปเรื่อยๆ

กลุ่มทุนเก่าที่ผูกขาดระบบเศรษฐกิจไทยมาหลายสิบปี กำลังสูญเสียอำนาจทางเศรษฐกิจไปอย่างรวดเร็ว เพราะการเปิดเสรีการค้าและการลงทุนของรัฐบาล พวกเขาจึงต้องโค่นล้มรัฐบาลเพื่อยุตินโยบายดังกล่าว และฉุดรั้งให้เศรษฐกิจไทยถอยหลังไปสู่ระบบทุนนิยมอุปถัมภ์ดังเดิม

ผู้นำแรงงานรัฐวิสาหกิจต้องการขับไล่รัฐบาล เพราะสูญเสียประโยชน์และสถานภาพจากการแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจให้เป็นบริษัทมหาชน องค์กรพัฒนาเอกชนที่ต่อต้านทุนนิยมต้องการโค่นล้มรัฐบาล เพราะปฏิเสธการพัฒนาเศรษฐกิจให้ทันสมัย ปฏิเสธการค้าการลงทุนจากต่างประเทศ ต้องการฉุดรั้งให้เศรษฐกิจไทยถอยหลังไปเป็นสังคมเกษตรกรรมหมู่บ้านบุพกาลตามลัทธิชุมชนอนาธิปไตยของพวกตน

ข้าราชการเทคโนแครตไม่ต้องการรัฐบาลและรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพราะทำให้พวกเขาสูญเสียอำนาจ เกียรติภูมิและสถานภาพ จากเดิมที่เป็นผู้บริหารประเทศตัวจริงและมีอิทธิพลเหนือรัฐมนตรี นักการเมือง แต่วันนี้ พวกเขาเป็นเพียงคนรับคำสั่งของนักการเมือง

กลุ่มก๊วนการเมืองต้องการฉีกรัฐธรรมนูญ เพราะทำให้พวกตนไม่มีอำนาจต่อรอง ต้องผูกติดกับระบบพรรค ไม่สามารถข่มขู่รัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีให้แบ่งปันผลประโยชน์แก่พวกตนได้เหมือนในอดีต

นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย ราษฎรอาวุโสแม้จะเกลียดชังความไม่โปร่งใสในทรัพย์สินของผู้นำรัฐบาล แต่ภูมิหลังคือ พวกเขาเป็นอนุรักษ์นิยม ไม่ต้องการโลกาภิวัฒน์ แล้วยังสูญเสียสถานภาพและความน่าเชื่อถือตลอด 5 ปีมานี้ เพราะรัฐบาลไทยรักไทยเป็นรัฐบาลที่ไม่สนใจนักวิชาการและอาจารย์มหาวิทยาลัย ไม่ให้คุณค่าความสำคัญแก่ราษฎรอาวุโส อีกทั้งยังคอยกล่าวตอบโต้รุนแรงอยู่เสมอ

นักวิชาการและราษฎรอาวุโสเหล่านี้ปากพูดว่า ต้องการประชาธิปไตย แต่วันนี้ กำลังเรียกร้อง รัฐบาลพระราชทาน ให้ฉีกรัฐธรรมนูญ เอาระบบจารีตนิยมเข้ามากุมอำนาจรัฐ บางคนเรียกร้องอย่างเปิดเผยให้ฝ่ายทหารก่อรัฐประหารยึดอำนาจ เอาเผด็จการทหารกลับคืนมา ทั้งหมดนี้เพื่อโค่นล้มผู้นำรัฐาลเพียงคนเดียว ที่น่าสังเวชคือ นักวิชาการเหล่านี้บางคนปากอ้างมาตลอดชีวิตว่า เป็นทายาททางคุณธรรมของนายป๋วย อึ้งภากรณ์

แม้แต่อดีตฝ่ายซ้ายและนักต่อสู้กับเผด็จการทหารในอดีต มาวันนี้กลับขึ้นเวทีร้องเพลงเพื่อชีวิต วิงวอนร้องขอ รัฐบาลพระราชทาน ให้ฉีกรัฐธรรมนูญ ฟื้นระบอบจารีตนิยม

แม้เฉพาะหน้าจะเป็นประเด็นความไม่โปร่งใสของผู้นำรัฐบาล แต่พื้นฐานความขัดแย้งคือ รัฐธรรมนูญฉบับนี้และผู้นำรัฐบาลทำให้ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองสูญเสียประโยชน์และสถานภาพอภิสิทธิ์ ทำให้ชนชั้นล่างทั้งในมืองและชนบทได้มีสิทธิมีเสียงทัดเทียมกัน

แม้คำขวัญเบื้องหน้าคือ กู้ชาติ ปฏิรูปการเมือง และชื่อกลุ่มลงท้ายด้วยคำว่า เพื่อประชาธิปไตย แต่เนื้อแท้คือ ต้องการฉีกรัฐธรรมนูญและทำลายระบอบประชาธิปไตยที่แบ่งอำนาจให้กับชนชั้นล่างมากเกินไป และเปิดช่องให้มีการปฏิรูปทุนนิยมโลกาภิวัฒน์ ฉะนั้นวาระของพวกเขาจึงเป็นปฏิกิริยาและถอยหลังเข้าคลอง

สิ่งที่ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองต้องการไม่ใช่ประชาธิปไตย ที่หนึ่งคนหนึ่งเสียงเท่ากัน แต่เป็นระบอบคณาธิปไตยที่ชนชั้นนำและชนชั้นกลางในเมืองมีอำนาจอภิสิทธิ์ และมีเสียงเหนือชนชั้นล่าง เป็นระบอบที่คนส่วนน้อยในเมืองจำนวนหนึ่งมีเสียงเหนือกว่า สามารถ สั่ง และขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญด้วยคะแนนเสียงข้างมากของประชาชนชั้นล่างนับสิบล้านคนได้

ประชาธิปไตยไทย จึงไม่มีวันเป็น ประชาธิปไตย ไปได้ เป็นได้แค่คณาธิปไตยจารีตนิยม

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 17/03/2006 @ 22:30:23 : re: ** บทความดี ลองเข้ามาอ่านดูละกันครับ (การเมืองนิดๆๆ) **
บทความนี้ดีจริงๆ หนับหนุน
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#2 วันที่: 20/03/2006 @ 09:56:48 : re: ** บทความดี ลองเข้ามาอ่านดูละกันครับ (การเมืองนิดๆๆ) **
น่าคิดนะว่าตอนนี้กำลังทำอะไรกันอยู่


คนธรรมดาอย่างเราตอนนี้รู้ว่าประเทศกำลังเสียโอกาส
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#3 วันที่: 20/03/2006 @ 10:03:51 : re: ** บทความดี ลองเข้ามาอ่านดูละกันครับ (การเมืองนิดๆๆ) **
ผมว่าไม่ใช่ว่าเขาไม่ยอมรับโลกาภิวัตหรอกคับ คุณมองแง่เดียวเกินไป
แน่นอนสิ่งที่คุณพยายามจะบอกเป็นเรื่องที่ดีผมก็ยอมรับว่ามันก็ดีมากๆ
สิ่งที่ไม่ดีก็มีเยอะทุกอย่ามีเงื่อนงำ แล้วเขาก็ไม่ได้พยายามที่จะล้มล้าง
รัฐธรรมนูญ เขาต้องการให้รัฐธรรมนูญมีช่องโหว่น้อยลง
อย่างที่นายกกำลังใช้ช่องโหว่ตรงนี้ มาอ้างว่าเป็นกติกาที่ฟังดูแล้ว
มันก็ถูกน่ะ แต่มันขัดกันน่ะผมว่า
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#4 วันที่: 21/03/2006 @ 11:38:58 : re: ** บทความดี ลองเข้ามาอ่านดูละกันครับ (การเมืองนิดๆๆ) **
คุณ nilja ครับ การอ้างว่ากติกามีช่องโหว่ แล้วขอไม่ทำตามกติกาน่ะ เป็นข้ออ้างที่โหล ของพวกที่ไม่คิดทำตามกติกาอยู่แล้วครับ เพราะในโลกนี้ไม่ว่ากติกาไหน ก็อ้างอย่างนี้ได้ทั้งนั้น ดังนั้นจะนับกันที่ถูกหรือผิด อย่างแรกให้ดูว่าใครเริ่มไม่ทำตามกติกาก่อนเลยครับ
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com