???? สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 1,238 | วันที่: 22/03/2006 @ 05:11:27 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ก๊วนการเมืองเล็งเขย่าหุ้น PICNI อีกรอบ ตั้งเป้ารอเสียบหลังผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิเพิ่มทุนเชื่อพันธมิตรใหม่สัมพันธ์ลึกสุริยา-สุริยะหวั่นพฤติกรรมเดิมอ่อยเหยื่อให้ติดกับก่อนขายทิ้งขณะที่ผู้บริหารตอบไม่เคลียร์เงินเพิ่มทุนครั้งก่อนหายไปไหนบ้าง[/color:4d90b34341">
วานนี้(21 มี.ค.)บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ PICNI ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/49 เพื่อขออนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน 1,477,673,297บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 2,975,676,673 บาท เป็น 4,453,349,970 บาท โดยจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ มูลค่าตราไว้หุ้นละ 1 บาท
พ.ต.ท.พงษ์เทพ ลาภวิสุทธิสิน ประธานกรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ PICNI เปิดเผยว่า กลุ่มตระกูลลาภวิสุทธิสินและพันธมิตร พร้อมจะซื้อหุ้นเพิ่มทุน หากเหลือจากการเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม โดยได้เตรียมเงินไว้พร้อมแล้ว แต่จะใช้สิทธิอัตราเท่าไรต้องรอดูก่อนว่าผู้ถือหุ้นเดิม จะแจ้งการใช้สิทธิเข้ามาเท่าไร อย่างไรก็ดีเชื่อว่ารายย่อยจะไม่ใช้สิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนทั้งหมด เพราะราคาหุ้นเพิ่มทุนสูงกว่าราคากระดาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันธมิตรที่ถือหุ้นร่วมกับตระกูลลาภวิสุทธิสิน อาจเป็นกลุ่มที่สนิทกับนายสุริยา ลาภวิสุทธิสิน และตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ โดยอาจเข้ามาถือหุ้นในบริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัดที่ปัจจุบันอยู่ประมาณ 2.82% หรือถือหุ้นในนามนอมินี การที่เข้ามาถือหุ้นลักษณะดังกล่าว เมื่อราคาหุ้นปรับตัวสูงเกิน 1 บาทก็จะขายทำกำไรและถือเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ PICNI ในอดีตมาแล้ว
โดยเบื้องต้นเชื่อว่ารายย่อยจะไม่เข้ามาใช้สิทธิทั้งหมด แม้ว่ากลุ่มลาภวิสุทธิสิน จะยืนยันว่าจะไม่ทิ้งบริษัทและจะรับซื้อหากขายไม่หมดก็ตาม เพราะหากหุ้นเพิ่มทุนขายไม่หมดจริงต้องติดตามดูกลุ่มดังกล่าวต่อไป
นายศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ หนึ่งในผู้ถือหุ้นPICNI ได้ลุกซักถามผู้บริหารเกี่ยวกับการการชำระตั๋วแลกเงินระยะสั้น (B/E) จำนวน 510 ล้านบาทว่า บริษัทหลักทรัพย์ 3 แห่งสนใจจะแปลงหนี้เป็นทุนในกรณีที่บริษัท ไม่สามารถขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับนักลงทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP)ได้หรือไม่
โดยผู้บริหาร ยอมรับว่าการแปลงหนี้เป็นทุนจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะดำเนินการล่าสุดบริษัทได้เสนอทางเลือกดังกล่าว ให้กับกลุ่มเจ้าหนี้แล้ว เจ้าหนี้ก็รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาแล้วด้วย โดยจะขอรอดูการใช้สิทธิของนักลงทุนรายย่อยเสียก่อน
นอกจากนี้ยังซักถามว่าทำไมบริษัทจึงกำหนดราคาหุ้นเพิ่มทุนสูงกว่าราคาในกระดานผู้บริหารก็ชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 27 ม.ค.48 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาเรื่องเพิ่มทุน เบื้องต้นจะขายหุ้นสัดส่วน 1 ต่อ 1 ราคา 0.50 บาท แต่เห็นว่าจะเกิดไดลูทถึง50% จึงตัดสินใจขายหุ้นสัดส่วน 2 ต่อ 1 ราคา 1 บาทเพื่อไม่ให้รายย่อยเสียเปรียบ
รวมถึงถามว่าบริษัทมีสิทธิย้ายไปอยู่ในหมวดรีแฮปโก้หรือไม่เพราะเห็นว่าบริษัทมีผลขาดทุนค่อนข้างสูง ผู้บริหารตอบว่าการที่จะเข้าไปอยู่ในหมวดดังกล่าวบริษัทต้องมีส่วนผู้ถือหุ้นติดลบ แต่ปัจจุบันส่วนผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท จึงถือว่าบริษัทยังไม่เข้าหลักเกณฑ์
นายศิริวัฒน์ กล่าวว่า มั่นใจว่ารายย่อยจะไม่ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวทั้งหมดแม้ว่า ผู้บริหารจะให้ความมั่นใจแผนการดำเนินงานในอนาคตก็ตาม เพราะเห็นว่าราคาขายสูงกว่าในกระดานที่ซื้อขายอยู่ในระดับ 0.60 บาทต่อหุ้น แต่อาจเข้าไปช้อนซื้อในกระดานหลังจากนั้นก็จะขายทำกำไร เมื่อราคาปรับตัวเพิ่มสูงกว่าต้นทุนที่ซื้อมา
นายณัฐชัย อร่ามรัศมีวาณิชย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)หรือ PICNI เปิดเผยว่า บริษัทอาจได้เงินเพิ่มทุนเข้ามาช่วงเดือนพ.ค.นี้โดยจะนำไปชำระตั๋ว B/E ทำให้ลดภาระดอกเบี้ยได้ประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี ปัจจุบันบริษัทมีหนี้ระยะสั้น 1,597 ล้านบาทและหนี้ระยะยาวที่อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างหนี้ประมาณ 1,267 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีบริษัทอาจได้รับประโยชน์ หากช่วงกลางปีนี้ รัฐบาลประกาศลอยตัวแก๊สหุงต้ม ส่งผลให้ราคาขายปลีกขยับขึ้นอีก 3 บาท จากปัจจุบันที่อยู่ประมาณ 16-17 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้มาร์จิ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นจากที่อยู่ในระดับ 1.50 บาทต่อกิโลกรัม
ขณะที่มาร์จิ้นประเทศเวียดนาม อยู่ที่ 2-3 บาทต่อกิโลกรัม แต่เนื่องจากราคาขายในตลาดโลกยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นสินค้าในสต็อกอาจมีความเสี่ยงแต่หากมีการวางแผนที่ดีก็จะมีกำไร ปัจจุบันราคาขายแก็สหุงต้มอยู่ในระดับ 30 บาทต่อกิโลกรัม
ที่มา ข่าวหุ้นธุรกิจ[/color:4d90b34341">
|