???? สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร โพสต์: 1,238 | วันที่: 29/03/2006 @ 18:42:45 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต บิ๊กแค็ปกอดคอร่วงระนาว
* ผลพวง สนธิ-จำลอง ปักหลักพารากอน
ม็อบพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสำแดงเดช พิฆาตหุ้นไทยตายเรียบ สอยบิ๊กแค็ปร่วงระนาว ทั้ง PTT, KTB, BBL, SCC, SHIN, AOT, LH, SCB, EGCOMP ผลพวงจากการประกาศนำกลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักประท้วงหน้าสยามพารากอนของ สนธิ และ จำลอง[/color:b6668dcd7a">
ตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบโดยตรงจากความร้อนแรงทางการเมืองอีกครั้งในวานนี้ (29 มี.ค.) หลังจากแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อ
ประชาธิปไตย โดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ได้ประกาศเดินหน้านำทัพเดินทางไปปักหลักประท้วงหน้าสยามพารากอน ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ติดอันดับต้นๆ ในเอเชีย และบริเวณดังกล่าวยังเป็นแหล่งธุรกิจที่สำคัญของประเทศ
โดยในช่วงเช้า ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังสามารถเดินในแดนบวกได้แต่ในช่วงบ่ายเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมฯ เริ่มรวมตัวกันหน้าสนามกีฬาศุภชลาศัยทำให้ตลาดหุ้นไทยเริ่มปรับลดลง และได้ร่วงสู่แดนลบ เมื่อใกล้เวลา 15.00 น. ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มเดินทางไปหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
และในที่สุด ดัชนีตลาดหุ้นไทย ได้ปิดที่ระดับ 724.87 จุด ลดลง 4.37 จุด หรือ 0.6% มูลค่าการซื้อขาย 16,088.89 ล้านบาท โดยหุ้นบิ๊กแค็ปต่างปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า ทั้ง PTT, KTB, BBL, SCC, SHIN, AOT, LH, SCB, EGCOMP ฯลฯ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,196.44 ล้านบาท
สำหรับ KTB และ BBL ได้รับผลกระทบโดยตรงตั้งแต่ช่วงเช้า เมื่อมีกลุ่มผู้ชุมนุมได้มาเดินหน้ามาบริเวณหน้าที่ทำการสำนักงานใหญ่ ทำให้ราคาหุ้นปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
โดยแรงเทขายหุ้น KTB เริ่มมีออกมา หลังจากมีข่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเครือ
ข่ายหนี้สินเกษตกร ได้ปิดล้อมแบงก์กรุงไทยสำนักงานใหญ่ ซึ่งการชุมนุมดังกล่าว เกิดจากการทวงถามกรณีที่ทางธนาคารนำที่ดินของกลุ่มเกษตรกรที่จำนำไว้ไปขายทอดตลาด
ส่วน BBL เริ่มมีแรงเทขายเข้ามาเช่นเดียวกัน และเริ่มชัดเจนเรื่อยๆ โดย
เฉพาะเมื่อถึงเวลา 14.00 น. ธนาคารได้หยุดให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้า
เนื่องจากมีม็อบเกษตรกรได้มาเรียกร้องเรื่องการตัดหนี้เสียของเกษตรกร โดยเกษตรกรที่มาชุมนุมมีประมาณ 2,000 คน
และในเย็นวันเดียวกันนี้ นายสุรพงษ์ วิญาวงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้
อำนวยการบริหารสินเชื่อพิเศษและผู้อำนวยการบริหารสินเชื่อพิเศษต่างจังหวัดของ BBL ได้เปิดเผยว่า ธนาคารไม่ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับผู้แทนสมาชิกเครือค่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย แต่ยินดีที่จะขายสินทรัพย์ที่เป็นหลักประกันแห่งหนี้ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนหนี้กับสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรในวันที่ 30 มิถุนายน 2548
รวมทั้งยินดีที่จะขายสินทรัพย์ที่เป็นหลักประกันแห่งหนี้ของเกษตรกรใน
อัตรา 50% ของเงินต้นคงค้างโดยตัดดอกเบี้ยค่าปรับทั้งหมดโดยไม่จำกัดวงเงินที่เป็นหนี้
ทั้งนี้ ธนาคารยินยอมถอนการดำเนินคดีการยึดทรัพย์การบังคับคดีขาย
ทอดตลาดและยุติการขายทรัพย์ของเกษตรกรไปยังบุคคลที่ 3 จนกว่าการซื้อขายทรัพย์สินของหน่วยงานทั้ง 2 จะดำเนินการแล้วเสร็จ
ส่วนทรัพย์ที่ธนาคารรับซื้อธนาคารก็ยินดีที่จะขายในอัตรา 50% ของยอดเงินต้นคงค้าง นอกจากนี้สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒราเกษตรกรจะเร่งดำเนินการซื้อสินทรัพย์ในบัญชีรายชื่อของเกษตรกรที่ผ่านการรับรองให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว รวมทั้งทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันแห่งหนี้และได้ขึ้นทะเบียนหนี้แล้วหากมีการขายให้กับบุคคลภายนอกธนาคารก็จะเจรจาซื้อกลับมาเพื่อขายให้กองทุนในอัตรา 50% ของยอดเงินต้นคงค้าง
ขณะที่ พลตรีจำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อระชา
ธิปไตย ยืนยันว่าจะไม่มีการชุมนุมยืดเยื้อที่หน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนอย่างแน่นอน แต่จะปักหลักนานเท่าใดนั้นก็คงต้องประเมินเป็นวันต่อวันอีกครั้ง
ผู้ชุมนุมที่มาวันนี้ถือว่ามาเกินคาดเพราะเราบอกไปก่อนหน้าที่จะมาชุมนุเพียง 2-3 วันเท่านั้น ซึ่งตลอดทางผู้คนก็เห็นด้วยว่าให้นายกรัฐมนตรีลาออก
และขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้างร้านใหญ่ๆ ยังมีการสนับสนุนบริการน้ำดื่มด้วย ซึ่งเป็นตัวชี้ได้ว่าผู้คนเห็นด้วยกับการชุมนุมครั้งนี้ พลตรีจำลอง กล่าว
พลตรีจำลอง กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีต้องลาออกก่อนวันเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 เมษายน 2549 ไม่เช่นนั้น ชาติก็ต้องสูญเสียงบประมาณไปกับการเลือกตั้งถึง 2.2 พันล้านบาท และหากนายกฯ ลาออกไปวันนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมจะกลับบ้านทันที
การเดินหน้าเข้าชุมนุมที่หน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ได้ถูกกล่าวถึงในวงกว้าง ถึงความไม่เหมาะสมในกรณีที่เลือกสถานที่ชุมนุมเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ และค่อนข้างจะมีปัญหาด้านการจราจรเป็นปกติอยู่แล้ว
โดยมีกลุ่มประชาชนเริ่มแสดงความไม่เห็นด้วยผ่านเวบไซต์ต่างๆ เช่น
pantip.com และ greenbull.net โดยกล่าวว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมของม็อบในครั้งนี้ และทำให้เกิดแรงกดดันให้ต้องกาเบอร์ 2 เพราะไม่เช่นนั้น อาจทำให้ม็อบมีข้ออ้างเพิ่มเติม ให้ชุมนุมหาเรื่องและดำเนินการนอกระบบต่อไป
ด้านนายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย รองผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน กล่าวถึง ทิศทางดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในวันนี้ (30 มี.ค.) ว่า มีแนวโน้มจะปรับลดลง โดยปัจจัยที่ยังคงกดดันตลาดยังเป็นเรื่องปัจจัยทางการเมืองการชุมนุม ขณะที่การทำ Window Dressing หรือการทำราคาหุ้นเพื่อปิดงวดบัญชี เริ่มที่จะลดลงแล้วซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะทำให้มีแรงขายหุ้นออกมา ซึ่งกลยุทธ์การลงทุน แนะนำขาย โดยให้แนวรับที่ 718 จุด แนวต้าน 730 จุด
ที่มา efinancethai.com[/color:b6668dcd7a">
|