May 3, 2024   5:08:40 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > APURE ส่งสัญญาณ "ก๊วนขาใหญ่" เตรียมก่อการ
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 07/04/2006 @ 22:16:36
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

พบแผนเด็ด ภูมิพัฒน์ ธนาวรพิทักษ์ ถ่ายหุ้นให้ ตัวแทน ก่อนปล่อยขาย (ต่อ) ให้กับ ขาใหญ่ ก๊วนดัง ส่งสัญญาณเตรียม ก่อการ กับหุ้น อกริเพียว โฮลดิ้งส์ ภายหลังจบดีลสร้าง สตอรี่ใหม่ เข้าซื้อหุ้นใหญ่ อลิอันซ์ ทูน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แล้วเสร็จ


ขณะนี้พบว่ามี นักเล่นหุ้น (เก็งกำไร) รายใหญ่ จำนวนมาก แห่เข้ามาเก็บหุ้น อกริเพียว โฮลดิ้งส์ (APURE) เข้าพอร์ต และใช้ ตัวแทน เข้ามาซื้อหุ้นอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งนักเล่นหุ้นกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่เคยเข้าไปลงทุนใน หุ้นร้อน หลายตัว ในช่วง 2 ปี (2547-2548) ที่ผ่านมา

โดยเฉพาะเป็นกลุ่มก๊วนเดียวกันกับที่เคยเข้าไปลงทุนใน หุ้น ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (PICNI) อีสเทิร์นไวร์ (EWC) และ อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจิเนียริง (IEC)

รายงานว่า ภายหลังเข้าตรวจสอบ โครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2549 พบรายชื่อนักลงทุนรายใหญ่ ที่มีพฤติกรรมเล่นหุ้นแบบเก็งกำไรระยะสั้น มีชื่อปรากฏอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างผิดปกติ

อาทิเช่น อดุลย์ บุญรอด นักเล่นหุ้นรายใหญ่ ที่เคยมีประวัติเข้าไปเทรดหุ้น ที.ซี.เจ.เอเซีย และหุ้น อีสเทิร์นไวร์ น.พ.สมเกียรติ ธนาพรสังสุทธิ์ เจ้าของคลีนิกเสริมความงามชื่อดัง คลีนิกหมอ จุฑามาศ ย่านสีลม ก่อนหน้านี้พบว่า เคยเข้าไปถือหุ้นใหญ่ใน บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย)

วรัตถ์ ซุยวัฒนา เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ ไออีซี ฉันทิดา กรินพงศ์ ก่อนหน้านี้เคยถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นนักเล่นหุ้นกลุ่มเดียวกันกับ พายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นนักเก็งกำไรรายใหญ่ ชื่อดังในรอบปี 2548

ไพบูลย์ ชอไชยทิศ เป็นก๊วนหุ้น ปิคนิค ในรุ่นแรกๆ ปัจจุบันยังมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อีสเทิร์นไวร์

วิบูลย์ เลาหพงศ์ชนะ เครือญาติ ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รักษาการ รมช.พาณิชย์ ก็มีรายชื่อเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ อีสเทิร์นไวร์ รวมอยู่ด้วย เช่นเดียวกับ สุภดิช อากาศฤกษ์ ศิริธัช โรจน์พฤกษ์ และ อรรถพร เสถียรวารี ซึ่งเป็นเครือญาติกับ รัตนา เสถียรวารี นักลงทุนรายใหญ่..ทั้งหมดเป็นก๊วนหุ้น ปิคนิค และ อีสเทิร์นไวร์ มาก่อน

นอกจากนี้ก็ยังพบชื่อ ลักษณา จริยวัฒน์สกุล เป็นบุคคลคนเดียวกันกับที่เข้าไปซื้อหุ้น ไออีซี แบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 10 ล้านหุ้น ที่ราคา 1.11 บาท เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2548 ส่วน ทวีศักดิ์ วัชรรัคคาวงศ์ ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ในอีกบทบาทก็เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่ชอบลงทุนแบบหวือหวา ถือว่าเป็นนักเล่นหุ้น ก๊วนปิคนิค อีกคน

ประเด็นที่ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกต ก็คือ ขณะนี้มีสัญญาณที่เด่นชัดว่า ภูมิพัฒน์ ธนาวรพิทักษ์ ประธานกรรมการ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ กำลังดำเนินแผนการ ปั้นหุ้น ของตัวเอง หลังจากผลักดันให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2549 มีมติเข้าเทคโอเวอร์ บริษัท อลิอันซ์ ทูน่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ATII) ซึ่งเป็นบริษัทที่ ภูมิพัฒน์ ถือหุ้นใหญ่-ทางอ้อม

โดยที่บริษัท ATII จัดตั้งขึ้น เมื่อเดือนกันยายน 2546 และเริ่มประกอบธุรกิจผลิต และส่งออกทูน่ากระป๋องในเดือนมีนาคม 2547 เขาพยายามใช้ ทางลัด เพื่อเติมรายได้ และกำไรให้กับ อกริเพียว โฮลดิ้งส์ ภายใต้คำถามต่างๆนานาว่า..นี่คือแผน ปั้นหุ้น เพื่อถอนทุนคืนใช่หรือไม่

เพราะก่อนที่ ภูมิพัฒน์ จะเดินแผนนี้ เขาได้ทยอยถ่ายโอนหุ้นให้กับ ตัวแทน ก่อนปล่อยขาย (ต่อ) ให้กับ ขาใหญ่ ก๊วนปิคนิค (ที่กล่าวมาแล้ว) นัยเพื่อส่งสัญญาณ เตรียมก่อการ กับหุ้น อกริเพียว โฮลดิ้งส์

นับตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2548 ถึงวันที่ 28 มีนาคม 2549 ภูมิพัฒน์ ใช้แผน โอนหุ้น ออกจากพอร์ตของตัวเอง ไปไว้ในพอร์ต ตัวแทน ถึง 13 ครั้ง (13 คน) รวมทั้งสิ้น 104.51 ล้านหุ้น หรือเท่ากับ 38.81% ทำให้ตัวเขาเหลือหุ้น APURE ล่าสุด จำนวนเพียง 32 ล้านหุ้น สัดส่วนแค่ 11.88% (จากเดิมที่เคยถือหุ้น APURE สูงสุด 136.51 ล้านหุ้น หรือ 50.69%)

การโอนหุ้นให้กับบุคคลภายนอก มีอย่างน้อย 2 คนที่สามารถเชื่อมโยงไปยังก๊วนหุ้น อีสเทิร์นไวร์ (EWC) และเชื่อมไปถึงกลุ่ม คิงเพาเวอร์ ของ วิชัย รักศรีอักษร

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโอนหุ้นขายให้กับ พล.ต.ต.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็น รองจเรตำรวจ เป็นเพื่อนสนิท และเล่นหุ้นก๊วนเดียวกับ วิชัย รักศรีอักษร เจ้าของ คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2548 พล.ต.ต.สมยศ ก็เคยเป็นอดีตกรรมการ บริษัท อีสเทิร์นไวร์ มาก่อนด้วย

ขณะที่ วิมลรัตน์ กุลดิลก เป็นอีกคนหนึ่งที่ ภูมิพัฒน์ โอนหุ้น(ขาย)ไปให้นั้น เคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปิคนิค และเพาเวอร์-พี และยังเป็นญาติสนิทกับ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก อดีตประธานกรรมการ บริษัท อีสเทิร์นไวร์ ที่เพิ่งลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อเร็วๆ นี้

ด้านประวัติของ ภูมิพัฒน์ ธนาวรพิทักษ์ ปัจจุบันอายุ 52 ปี เดิมเป็นอดีตกรรมการบริหาร บริษัท ซีวีดี อินเตอร์เนชั่นแนล (2529-2537) และเป็นผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ออนป้า อินเตอร์เนชั่นแนล (2538-2539) ภายหลังวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เขาได้เข้าไปลงทุนด้านอุตสาหกรรมอาหารทะเลบรรจุกระป๋อง ในประเทศฟิลิปปินส์ ปัจจุบันยังประธานกรรมการ และ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บริษัท อลิอันซ์ ฟิลิปปินาส อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้งส์ (API)

ภูมิพัฒน์ เข้ามาเทคโอเวอร์ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2548 โดยเข้าซื้อหุ้นล็อตใหญ่ จำนวน 136.51 ล้านหุ้น สัดส่วน 50.69% ในราคาหุ้นละ 1.40 บาท ต่อจากบริษัท อกริเพียว จำกัด และบริษัท ลอนดอน 8 จำกัด เขาใช้เงินลงทุนไปประมาณ 191 ล้านบาท

การเข้ามาลงทุนของ ภูมิพัฒน์ ทำให้ราคาหุ้น APURE ทะยานขึ้นอย่างรุนแรง ภายในระยะเวลาเพียงเดือนเศษ ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นจาก 1 บาทขึ้นไปสูงสุดที่หุ้นละ 9 บาท โดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ และไม่มีคำอธิบาย

ขณะที่ ภูมิพัฒน์ ก็ทยอย โอนหุ้น ออกจากพอร์ตของตัวเอง ครั้งละ 10 ล้านหุ้น เพื่อให้ ตัวแทน นำไปขายทำกำไร คาดว่าถอน(ต้น)ทุนคืนกลับมาแล้วทั้งหมด..ที่เหลือคือกำไรล้วนๆ

ทั้งนี้ ตัวแทน ที่ ภูมิพัฒน์ โอนหุ้นไปให้นั้น มีหลายคนเมื่อรับหุ้นไปแล้ว ก็ เทขาย หุ้นออกมาทันที เช่น อิสรีย์ สหัสรังสี สุทิน อิศรางกูร ณ อยุธยา เยาวภา อารีเอื้อ รับโอนหุ้นมาคนละ 10 ล้านหุ้น ล่าสุดไม่พบรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทแล้ว

หลังจากนั้นเขาก็มีแนวคิดที่จะนำ บริษัท อลิอันซ์ ทูน่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ATII) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท อลิอันซ์ ฟิลิปปินาส อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้งส์ (API) ที่ตัวเองถือหุ้น 99.99% ผนวกเข้ามาเป็นบริษัทย่อยของ อกริเพียว โฮลดิ้งส์ ที่ ภูมิพัฒน์ ก็ถือหุ้นใหญ่อีกขาหนึ่ง

นัยก็เพื่อนำเอารายได้จากธุรกิจทูน่า มารับรู้ให้กับ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นแผนเด็ดในการ ต่อยอด มูลค่าหุ้นให้กับตัวเองทางอ้อม

ไม่ต่างอะไรจากการ ยิงปืนนัดเดียว..ได้นกถึง 2 ตัว หรือ หวังผลถึง 2 เด้งด้วยกัน

ต่อแรก..ภูมิพัฒน์ ได้ผลประโยชน์เต็มๆ จากการขายหุ้น บริษัท อลิอันซ์ ทูน่า อินเตอร์เนชั่นแนล (ATII) ในสัดส่วน 78.81% ให้กับ บริษัท อกริเพียว โฮลดิ้งส์ ถอนทุนคืนไปทันที 178.23 ล้านบาท

ต่อที่สอง..ใช้ข่าวรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ที่มีอนาคตมากกว่า มาผลักดันมูลค่าหุ้น APURE ซึ่งตัวเองยังถือหุ้นใหญ่ผ่าน ตัวแทน จากนั้นก็(อาจจะ)ทยอยปล่อยหุ้น APURE ขายออกไปผ่าน ตัวแทน โดยไม่ต้องรายงานข้อมูลต่อ ก.ล.ต.และสาธารณชน

นี่คือแผนเหนือเมฆ ที่สามารถ กินรวบ และ กินเรียบ ได้ทั้งกระดาน

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com