May 3, 2024   2:01:53 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > วัดใจผู้บริหาร-ผู้ถือหุ้นใหญ่ ขาย-ไม่ขายหลังหลุดไซเรนต์ฯ
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 11/04/2006 @ 07:16:06
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ภายในเดือนเมษายน 2549 จะมีหุ้นที่พ้นช่วงเวลาห้ามขายหุ้น( SILENT PERIOD)จำนวน 4 บริษัท โดยจะมีบริษัท เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ METROบริษัท อีซึ่น เพ้นท์ จำกัด(มหาชน)หรือEASON ซึ่งทั้ง 2 บริษัทนี้ หลุดไซเรนต์ พีเรียด ระยะแรก ( 6 เดือน)[/color:ea2598ff0a">

ส่วนบริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน)หรือSUPER และบริษัท โกลว์ พลังงานจำกัด(มหาชน)หรือGLOW จะหลุดไซเรนต์ พีเรียดระยะที่ 2 ( 1 ปี )
การถึงกำหนดระยะเวลาที่มีสิทธิขายหุ้นของผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้เกี่ยวข้องกับผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ ของบริษัทจดทะเบียนที่เพิ่งเข้าเทรดเมื่อปีที่ผ่านมา จะเป็นการแสดงให้เห็นว่า บุคคลที่ได้รับสิทธิจะเป็นพวกที่ตีหัวเข้าบ้านหรือไม่ ซึ่งถ้ามีการขายออกไปจริง หรือคิดจะกินครั้งเดียว อาจมีผลทำให้นักลงทุนที่ถือหุ้นอยู่เกิดความเสื่อมศรัทธาต่อบุคคลเหล่านั้นได้

ในทางกลับกันถ้าไม่มีขายหุ้น หรือโอนหุ้นออกมาให้เห็น ก็จะได้รับความชื่นชม และศรัทธาจากนักลงทุนที่จะมีกับหุ้นเหล่านั้นต่อไป และในอนาคต ถ้าบริษัทจะมีการระดมทุนเพิ่มเติม ก็จะได้รับอานิสงส์ที่จะมีการอุดหนุนอย่างอุ่นหนาฝาคลั่ง จากนักลงทุนโดยไม่มีเกิดอาการสาปส่งให้เห็น

เกมนี้เป็นเกมวัดใจผู้มีสิทธิทั้งหลายว่า จะเลือกเอาระหว่าง เงิน หรือชื่อเสียง

-ส่วนต่างหรือชื่อเสียง
สิทธิของผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นใหญ่ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ ของบริษัทจดทะเบียนที่เพิ่งผ่านพ้นช่วงเวลาห้ามขายหุ้น ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่บุคคลดังกล่าวสามารถจะทำอะไรก็ได้กับหุ้นที่ถืออยู่ในนามของตนเอง
นับตั้งแต่การขาย การโอนออก ซึ่งมีทั้งการโอนให้กับบุคคลที่มีนามสกุลเดียวกัน หรือคนในครอบครัวเดียวกัน โดยมักจะมีข้อแก้ต่างเสมอว่า เป็นการโอนให้ด้วยความพิศวาส ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่มีให้เห็นกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งบุคคลที่รับโอนหุ้นสามารถที่จะขายหุ้นได้โดยไม่ต้องแจ้งข้อมูลการขายหุ้นกับหน่วยงานใดๆ

โดยแน่นอนอยู่แล้วว่าการขายหุ้น หรือโอนออกเมื่อถึงกำหนดไซเรนต์ พีเรียด สามารถสร้างกำไรให้กับผู้ขายได้มาก เนื่องจากโดยมาก ต้นทุนราคาหุ้นที่ถืออยู่ส่วนใหญ่มักจะอยู่ที่ราคาพาร์ หรือต่ำกว่าราคาในกระดาน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทาย และล่อตา ล่อใจเมื่อเห็นราคาหุ้นในกระดานสูงกว่าต้นทุนที่ถืออยู่

การถือหุ้นเก็บไว้ โดยไม่ขายแม้จะมีสิทธิขายหุ้นก็ตาม เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่มีสปริตรที่จะไม่ขายหุ้นออกมา แม้มีโอกาส นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนรายย่อยเห็นว่าอัตราการเติบโตของบริษัทยังคงมีต่อไปในอนาคตเพราะผู้บริหารไม่ทิ้งหุ้นให้เห็น

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนเมษายน 2549 นี้ มีบริษัทจดทะเบียน 4 แห่งที่จะถึงกำหนดดังกล่าว มีทั้งครบกำหนดซเรนต์ฯทั้งรอบแรก และรอบ 2 โดยมี บริษัท เมโทรสตาร์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ METRO และบริษัท อีซึ่น เพ้นท์ จำกัด(มหาชน)หรือEASON ทั้ง 2 บริษัทนี้ จะหลุดไซเรนต์ พีเรียด ระยะแรก ( 6 เดือน) ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นใหญ่ และ ผู้เกี่ยวข้องกับผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ สามารถขายหุ้นได้ 25 % ของจำนวนหุ้นที่ถืออยู่

ส่วนบริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน)หรือSUPER และบริษัท โกลว์ พลังงานจำกัด(มหาชน)หรือGLOW จะหลุดไซเรนต์ พีเรียดระยะที่ 2 ( 1 ปี ) ซึ่งบุคคลที่ถูกห้ามขายหุ้นจะมีสิทธิขายได้ 50% ของจำนวนหุ้นที่ถืออยู่

โดยในรายผู้ที่มีสิทธิของ METRO และ EASON ยังไม่มีเคลื่อนไหวของการขาย-โอนหุ้นออกให้เห็นแต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่ครบกำหนดดังกล่าว แต่สำหรับGLOW ที่พ้นกำหนดห้ามขายหุ้นมาครั้งหนึ่งแล้ว จากการตรวจสอบพบว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมีการซื้อขายหุ้นบางเล็กน้อย โดยมีสัดส่วนการซื้อเข้ารวมทั้งหมด 307,200 หุ้น โดยขายออก 267,300หุ้น เมื่อคิดจากปริมาณการซื้อขายหุ้นของกลุ่มผู้บริหารและผู้บริหารของ GLOW การซื้อขายจำนวนดังกล่าวไม่มีนัยสำคัญอะไร

ส่วนที่มีนัยสำคัญคือ SUPER โดยล่าสุด เมื่อต้นเดือนเมษายน 2549 ที่ผ่านมาจอมทรัพย์ โลจายะ ผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ก็โอนหุ้นออกไปจำนวน 14ล้านหุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 5 % ซึ่งหุ้นที่ถูกโอนออกไปนั้น ไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้ว่ายังอยู่กับผู้ที่ได้รับโอนหรือไม่

การดูทิศทางลม และการจับตาพฤติกรรมของผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทที่นักลงทุนรายย่อยได้เข้าไปลงทุนนั้น ถือเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน เนื่องจากสามารถใช้เป็นฐานข้อมูลที่สามารถสร้างกำไรจากส่วนต่างได้ นอกเหนือจากการดูเพียงพื้นฐานของบริษัทเท่านั้น

เหมือนดังสุภาษิตจีนที่ถูกนำมาใช้อ้างอิงกันอยู่บ่อยๆ ที่ว่า รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง จะเป็นการดีที่สุด

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:ea2598ff0a">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com