May 2, 2024   11:16:30 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ขอคำแนะนำ ITV
 

passman
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1
วันที่: 11/04/2006 @ 16:20:34
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ผมลงไปอยู่ตจว. เข้ามาดูอีกทีเห็นข่าวก็ขายไม่ทันแล้ว
ติดอยู่สิบบาทกว่า อยากขอความเห็นจากผู้รู้ว่าจะทำอย่างไร
กับมันดีคับ หรือท่าทาง ITV จะแพ้คดีนี่เหรอคับถึงได้ไหล
ลงมาน่ากลัวขนาดนี้

 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#1 วันที่: 11/04/2006 @ 18:44:27 : re: ขอคำแนะนำ ITV
ตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ครับ
ได้ยินมาว่ากำลังล็อบบี้กันอยู่
ช่วงนี้เลยทุบไปก่ิอน
วันนี้ปิดตรงแนวรับพอดี
ถ้าไม่ทำนิวโลว์ก็ถือไปก่อน
รอผลตัดสิน 9 พค. ครับ
 กลับขึ้นบน
อาฟง
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
#2 วันที่: 12/04/2006 @ 06:46:30 : re: ขอคำแนะนำ ITV
ชาวหุ้นพิพากษา ITV
หวั่นจ่ายค่าสัมปทานอ่วม[/color:848309a551">


-KKS -CNS ฟันธงถ้า?แพ้คดี? มูลค่าพื้นฐานจะอยู่ที่ 4.37 บาทและ 2.04 บาท




นักลงทุนชิงพิพากษา ITV ก่อนศาลปกครอง รุมยำหุ้นเละคามือหลังศาลเลื่อนการตัดสินไปเป็น 9 พ.ค. เหตุเชื่อการเมืองพลิกผันอาจทำ ITV ต้องกลับไปจ่ายค่าสัมปทานให้ สปน.ในอัตราเดิมที่ปีละ 1 พันลบ.จากปัจจุบันที่จ่ายในอัตราปีละ 230 ลบ.ตามคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ ด้าน KKS ฟันธงทันควันหากศาลพิพากษาเพิกถอนคำตัดสินของอนุญาโตฯอาจทำให้ ?แพ้คดี? มูลค่าพื้นฐานจะอยู่ที่ 4.37 บาท แต่ถ้าศาลยืนตามอนุญาโตฯมูลค่าพื้นฐานจะอยู่ที่ 10.33 บาท ส่วน CNS ให้กรณีแพ้คดีไว้ที่ 2.04 บาท
การยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางให้เพิกถอนคำตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการ ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)ก่อนหน้านี้ ที่คณะอนุญาโตตุลาการตัดสินให้ บมจ.ไอทีวี ( ITV) ชำระค่าสัมปทานลดลงจากปีละประมาณ 1,000 ลบ. หรือร้อยละ 44 ของรายได้ แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะมากกว่า มาเป็นจ่ายเงินขั้นต่ำปีละ 230 ลบ. หรือร้อยละ 6.5 ของรายได้ แล้วแต่ว่าจำนวนใดจะมากกว่านั้น กลายเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจับตามองโดยเฉพาะนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้น ITV เนื่องจากเห็นว่า ผลการตัดสินที่จะออกมาจะมีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของ ITV อย่างมีนัยสำคัญ
โดยเฉพาะหากแพ้คดี ITV จะต้องกลับไปจ่ายค่าสัมปทานตามสัญญาเดิมประมาณ 1,000 ลบ./ปี และต้องจ่ายย้อนหลังตั้งแต่ปี 47-48 ที่บริษัทยึดคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ (อีกมูลค่าประมาณ 1,490 ลบ.) แต่กรณีที่ชนะคดี ITV ก็ยังต้องจ่ายเท่าเดิมในอัตราปัจจุบันที่ 230 ลบ./ปี
อย่างไรก็ตาม เมื่อศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาแล้ว คู่กรณีทั้งสองยังคงสามารถที่จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดให้วินิจฉัยชี้ขาดต่อไปได้ และคำตัดสินของศาลปกครองกลางจะยังไม่มีผลบังคับจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษา

- ผิดคาด! ศาลนัดตัดสิน ITV วันที่ 9 พ.ค.49
อย่างไรก็ดี ในวันนี้ (11 เม.ย.) เดิมมีการคาดการณ์กันว่าศาลปกครองกลางอาจจะมีการตัดสินชี้ขาดเรื่อง ITV ทำให้นักลงทุนมีการคาดการณ์สถานการณ์กันไปต่างๆ นานาแต่ปรากฏว่า ศาลปกครองกลางระบุว่ายังไม่ตัดสินชี้ขาดเรื่อง ITV แต่เป็นการเรียกคู่กรณีมาชี้แจงข้อมูลเป็นครั้งแรก โดยนายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองกลาง กล่าวว่า ศาลฯ พิจารณาให้มีการนัดฟังคำพิจารณาคดีดังกล่าวในวันที่ 9 พฤษภาคม 2549 เวลา 14.00 น. โดยศาลฯ เห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสืบพยานเพราะมีข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว

- นักลงทุนชิงพิพากษา ITV
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้ราคาหุ้น บมจ.ไอทีวี (ITV) ได้ปรับลดลงอย่างชัดเจนต่อเนื่องจากวานนี้อีกครั้ง หลังจากศาลปกครองกลางระบุจะตัดสิน ITV ในวันที่ 9 พ.ค.โดยไม่ต้องสืบพยานใหม่ เพราะเห็นว่ามีข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว
โดยหุ้น ITV เปิดตลาดที่ราคา 9.10 บาท ณ เวลา 12.29 น. อยู่ที่ราคา 7.90 บาท ลดลง 1.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 198.27 ล้านบาท และปิดตลาดที่ระดับราคา 7.70 บาท ลดลง 1.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 411.60 ลบ.
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นได้ตอบรับความรู้สึกดังกล่าวของนักลงทุนต่อเนื่องกันมาเป็นวันที่สามแล้ว โดยราคาหุ้น ITV ได้เริ่มปรับลดลงชัดเจนตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.โดยเปิดตลาดที่ระดับ 10.30 บาท และปิดที่ระดับ 10.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 52.15 ลบ.ส่วนวันที่ 10 เม.ย.เปิดตลาดที่ราคา 9.40 บาท ปิดตลาดที่ระดับ 9.10 บาท มูลค่าการซื้อขาย 211.72 ลบ.และวันนี้ (11 เม.ย.) เปิดตลาดที่ระดับราคา 9.10 บาท และปิดที่ระดับ 7.70 บาท ลดลง 1.40 บาทมูลค่าการซื้อขาย 411.60 ลบ.ดังกล่าว

- ITV รับหนักใจ เพราะคาดการณ์คำตัดสินของศาลไม่ได้
นายชัยวัช มะระพฤกษ์วรรณ ทนายความ บมจ.ไอทีวี (ITV) กล่าวว่า ยอมรับว่ารู้สึกหนักใจเพราะไม่สามารถคาดเดาผลการพิจารณาของศาลปกครองกลางได้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาของข้อกฎหมาย หากคำวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการบังคับไม่ได้ ก็จะต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่และอาจจะเกิดความเสียหายได้

- กูรูชี้ นลท.ถล่มทิ้ง ITV เพราะหวั่นต้องจ่ายสัมปทานปีละ 1 พันลบ.
นายอภิสิทธิ์ ลิมปธำรงกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เกียรตินาคิน เปิดเผยว่า สาเหตุที่นักลงทุนเทขายหุ้น ITV ออกมา เนื่องจากยังคงกังวลเกี่ยวกับกรณีที่ศาลปกครองกลาง ได้เลื่อนฟังคำพิจารณาคดี ของ ITV ออกไป เป็นวันที่ 9 พ.ค. 2549 และกังวลว่าคำตัดสินของศาลปกครอง จะมีผลต่อรายได้ของ ITV หากต้องกลับไปจ่ายค่าสัมปทานเดิมที่ปีละ 1 พันลบ.รวมทั้งหุ้น ITV ยังเป็นหุ้นที่มีความเกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งสถานการณ์การเมืองที่พลิกผันในปัจจุบันนักลงทุนเกรงว่าอาจมีผลเสียต่อ ITV มากกว่าผลดี ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวล และส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุน
ทั้งนี้ แนะนำทยอยขาย และหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้น ITV โดยให้แนวรับไว้ที่ 6 บาท และให้แนวต้านไว้ที่ 8.2 บาท อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น ITV มีโอกาสปรับลดลงได้มากกว่า 10% เนื่องจากทนาย ITV ระบุว่า หากศาลปกครองไม่รับคำตัดสินของอนุญาโตฯ ทำให้คดีต้องกลับนับ 1 ใหม่ที่อนุญาโตฯ และจะเกิดความเสียหายขึ้น

- KKS ฟันธงหาก ITV ?แพ้คดี? มูลค่าพื้นฐานจะอยู่ที่ 4.37 บาท
บล.เกียรตินาคิน (KKS) ได้ออกบทวิเคราะห์แสดงมุมมองที่มีต่อ ITV ทั้งในกรณีที่แพ้คดีและชนะคดีว่า KKS ได้ลองทำ Scenario ขึ้นมา 2 กรณี โดยหาก ITV ?ชนะคดี? มูลค่าพื้นฐานจะอยู่ที่ 10.33 บาท และหาก ?แพ้คดี? มูลค่าพื้นฐานจะอยู่ที่ 4.37 บาท
ในขณะเดียวกันไม่แนะนำให้เก็งกำไรประเด็นที่มีพันธมิตรสนใจเข้าถือหุ้นบริษัท เนื่องจากบริษัทยังมีความเสี่ยงจากการตัดสินคดีของศาลปกครอง คาดว่าคงไม่สามารถขายหุ้นในราคาที่มี Premium ได้
ส่วนกรณีประเด็นสัดส่วนการถือหุ้นจากผู้ถือหุ้นต่างด้าวของบริษัท ปัจจุบันยังคงไม่เกินสัดส่วนตามสัญญาสัมปทาน (จากการที่ถือว่า SHIN นั้นยังคงเป็นนิติบุคคลไทยอยู่)
นอกจากนั้น แม้ว่ามูลค่าพื้นฐาน (กรณีชนะคดี) จะสูงกว่าราคาปิดล่าสุดที่ 7.70 บาท แต่ยังไม่แนะนำซื้อ เนื่องจากบริษัทยังมีความเสี่ยงหากแพ้คดี
ทั้งนี้ KKS ได้แจกแจงในประเด็นต่างๆ ไว้ดังนี้ โดยในประเด็นมีผู้สนใจเข้าลงทุนในบริษัทอย่าง GRAMMY หรือ RS KKS ระบุว่า ปัจจุบัน ITV ยังคงมีความเสี่ยงจากการตัดสินคดีของศาลปกครองที่อาจจะกระทบกับผลการดำเนินงานของบริษัท KKS จึงมองว่าการเข้าลงทุนดังกล่าวอาจจะยังไม่เกิดในเร็วๆ นี้ หรือหากกรณีเกิดก่อนการตัดสินของศาลปกครอง (กรณีหากบริษัทมีปัญหาเรื่องสัดส่วนการถือหุ้น) ก็อาจจะทำให้บริษัทไม่สามารถขายหุ้นในราคาที่มี Premium ได้ เนื่องจากบริษัทยังคงมีความเสี่ยงจากกรณีดังกล่าวอยู่ จึงยังไม่ควรเข้าไปเก็งกำไรจากกรณีดังกล่าว
หรือจากประเด็นที่มีข่าวว่า MCOT อาจจะถูกสั่งให้เข้ามาซื้อบริษัท (ITV) (จาก นสพ.โพสต์ทูเดย์ 28 มี.ค. 49) มองว่า Deal นี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากบริษัทนั้นยังคงมีความเสี่ยงจากคดีสัมปทานอยู่ หรือหากเกิดขึ้นบริษัทก็คงไม่สามารถขายหุ้นในราคาที่มี Premium ได้เช่นกัน
ส่วนกรณีการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นต่างชาติยังคงไม่เกินข้อกำหนดตามสัญญาสัมปทาน นั้น KKS ระบุว่า ประเด็นจากสัญญาสัมปทานที่มีข้อกำหนดให้บริษัทต้องมีบุคคลสัญชาติไทยและหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวถือหุ้นไม่น้อยกว่า 75% ของทุนจดทะเบียน จากการสอบถามกับทางนักลงทุนสัมพันธ์ของบริษัทระบุว่าสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นต่างด้าวยังคงไม่เกินข้อกำหนดตามสัญญาสัมปทาน เนื่องจากถือว่า SHIN นั้นยังคงเป็นนิติบุคคลไทย (SHIN ถือ ITV ประมาณ 52.9%) (จากข้อมูล Set Smart ณ 8 มี.ค. 48 บริษัทมีผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยจำนวน 1,158.92 ล้านหุ้น คิดเป็น 96.12% ของทุนจดทะเบียน)
ทั้งนี้ KKS ประเมินมูลค่าพื้นฐานโดยใช้วิธี DCF โดยใช้ WACC ที่ 7.32% (ได้มูลค่าพื้นฐานเท่ากับ 9.77 บาท) และวิธี PER โดยใช้ P/E ที่ 16X (ได้มูลค่าพื้นฐานเท่ากับ 10.88 บาท) ได้มูลค่าพื้นฐานเฉลี่ยจากทั้ง 2 วิธีเท่ากับ 10.33 บาท (ภายใต้สมมติฐานบริษัทชนะคดี) ซึ่งแม้ราคาตลาดในปัจจุบันจะต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานแล้ว (กรณีบริษัทชนะคดี) แต่เรายัง ไม่แนะนำ ?ซื้อ? เนื่องจากบริษัทยังมีความเสี่ยงจากผลการตัดสินคดีสัมปทานซึ่งยังคงต้องติดตามข้อมูลการตัดสินต่อไป แต่อย่างไรก็ตามเราได้แนะนำให้ขายทำกำไรตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค. 49 แล้ว

- CNS ประเมินผลตัดสินของศาลฯ เป็นไปได้ทั้ง 2 กรณี
บล.พัฒนสิน (CNS) ได้แสดงความเห็นกรณี ITV ไว้ในบทวิเคราะห์ว่า ประเมินว่าผลคำตัดสินของศาลปกครองมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะทราบผลคำตัดสินในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากศาลปกครองเรียกไต่สวนคดีครั้งแรกในวันนี้ ( 11 เม.ย.49) และภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน คำตัดสินของศาลปกครองประเมินว่ามีความเป็นไปได้ทั้งสองกรณี
ดังนั้น CNS ไม่แนะนำให้เก็งกำไรในประเด็นดังกล่าว ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะคดีเนื่องจากมีความเสี่ยงสูงมากซึ่ง CNS ทำการประเมินมูลค่า DCF ภายใต้สมมติฐานแพ้คดีได้เท่ากับ 2.04 บาท (รวมจ่ายค่าชดเชยและดอกเบี้ยย้อนหลัง 2 ปี)
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com