April 29, 2024   4:59:30 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > PTT-PTTEP-TOP รับบทพระเอก
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 18/04/2006 @ 21:57:25
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

5 กูรูแนะนักลงทุนช่วงน้ำมันทะยานไม่หยุด ต้องเหยียบคันเร่งเดินหน้าลุยหุ้นพลังงาน 3 ตัวเด็ด PTT-PTTEP-TOP ต้องซื้อ แต่แนะแตะเบรกหุ้นขนส่งโดยเฉพาะการบินไทยโดนหนักว่าใคร ส่วนกลุ่มรับเหมาก่อสร้างก็ไม่น้อยหน้าต้องแบกภาระหลังแอ่น[/color:e208e44ec6">

นายอมเรศ สิงห์ณรงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์บล.แอ๊ดคินซัน กล่าวถึง ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นสูง กลุ่มผู้ประกอบการที่จะได้รับประโยชน์มองในกลุ่มพลังงาน อาทิ PTTEP-TOP ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนหุ้น PTTEP แนะเก็งกำไร เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับมาสูงกว่าราคาพื้นฐานแล้ว ส่วน TOP แนะซื้อเนื่องจากราคาหุ้นที่ต่ำกว่าราคาเหมาะสมที่ให้ไว้ 86 บาท

ส่วนกลุ่มที่น่าจะได้รับผลกระทบมาก คงเป็นกลุ่มขนส่ง , กลุ่มวัสดุก่อสร้าง แต่ยังไม่มีการปรับลดประมาณการรายได้ลงในขณะนี้ เนื่องจากต้องรอดูว่า ราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในระดับสูงระยะเวลานานเท่าใด ซึ่งราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นนี้ น่าจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อาทิ ภาวะเงินเฟ้อ , แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ย แต่ อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังมีปัจจัยดีในเรื่องของค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งค่า ทำให้ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นไม่กระทบดุลบัญชีการค้า, ดุลบัญชีเดินสะพัด

นางสาวสุภากร สุจิรัตนวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทีเอสอีซี เปิดเผยว่า จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นในวันนี้ คาดว่าหุ้นกลุ่มขนส่ง ส่งออกและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์คงจะได้รับผลกระทบในด้านลบ เนื่องจากภาระต้นทุนการผลิตจะต้องเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บมจ.การบินไทย (THAI)มีผลกระทบมากที่สุด เมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่นในกลุ่มเดียวกัน

ถ้าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างนี้ก็คงส่งผลลบกับหุ้นตัวอื่นๆ ในตลาดหลักทรัพย์เกือบทุกตัวแต่จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของการดำเนินธุรกิจของแต่ละบริษัทว่าจะเกี่ยวข้องและมีต้นทุนเกี่ยวกับน้ำมันมากน้อยเพียงใด

สาวสุภากร กล่าวต่อว่าหุ้นที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น คือกลุ่มพลังงาน ได้แก่ PTT- PTTEP -TOP โดยแนะนำซื้อ อย่างไรก็ตามให้ชะลอการลงทุนในหุ้นกลุ่มขนส่ง ส่งออกและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในระยะนี้

นายศรันย์ ถวิลย์หวัง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์บล.ฟาร์อีสท์ เปิดเผยถึงกรณีเดียวกันว่า หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงเช่นนี้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์คงจะได้รับผลกระทบเกือบทุกตัว นอกจากนี้ยังจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของระบบเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลงได้แต่หุ้นในกลุ่มพลังงานยังเป็นหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น

ก็คงทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจชะลอลงบ้างซึ่งถ้าราคาน้ำมันยังทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่องกันระดับนี้ก็จะส่งผลลบต่อจีดีพีทำให้ต้นทุนการผลิตของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะขนส่งก็จะได้รับผลลบมากหน่อยนายศรันย์ กล่าว

นายเกียรติก้อง เดโช ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์บล.ซิกโก้ กล่าวถึง ภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ปรับขึ้นสูงกว่า 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มองว่ากลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด อาทิ กลุ่มขนส่ง , กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง , กลุ่มผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่, ผู้ประกอบการผลิตไฟฟ้า , ผู้ประกอบการผลิตเหล็ก ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงในการผลิต
ขณะเดียวกันมองว่า ปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นสูงนี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในภาพรวม หรือ มหภาคด้วย เนื่องจากเมื่อราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันภายในประเทศต้องปรับขึ้นตามด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังราคาสินค้า ค่าใช้จ่ายต่างๆรวมถึง ทำให้เกิดเงินเฟ้อ จนถึง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ส่วนกลุ่มที่ประเมินว่าน่าจะได้ประโยชน์จากปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นน่าจะเป็นกลุ่มประกอบการโรงกลั่นน้ำมัน อาทิ TOP-PTT-PTTEP แต่ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นกลุ่มนี้ได้ปรับเพิ่มขึ้นมาก TOP, PTT ใกล้ราคาเป้าหมายที่ให้ไว้แล้ว ส่วน PTTEP แนะนำขาย

ทั้งนี้ มองว่าราคาน้ำมันยังน่าจะผันผวนในระดับสูงและยังไม่สามารถคาดได้ว่าจะปรับขึ้นสูงถึง 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือไม่ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นนี้ แต่เชื่อว่าราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นครั้งนี้ซึ่งเกิดจากปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศ น่าจะส่งผลกระทบมากกว่าราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นครั้งที่ผ่านที่ขึ้นเนื่องจากเหตุพายุแคทารีน่าเนื่องจากในช่วงดังกล่าวยังไม่มีการเมือง และภาวะเศรษฐกิจที่ยังแข็งแกร่ง

ขณะที่ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไซรัส กล่าวถึงราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นในขณะนี้ มองว่า กลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มน้ำมันน่าจะได้ประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากมีความสัมพันธ์โดยตรงกับราคาน้ำมันโดยเฉพะอย่างยิ่ง หุ้นกลุ่มน้ำมันที่น่าสนใจ ได้แก่ PTT โดยฝ่ายวิจัยแนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 280 บาท และ PTTEP แนะเก็งกำไรเนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับขึ้นรับข่าวราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นและข่าวการแตกพาร์ที่คาดว่าจะน่าจะเกิดขึ้น 1- 2 สัปดาห์ข้างหน้า

สำหรับ กลุ่มขนส่ง, กลุ่มรับเหมาก่อสร้างถือว่าเป็นกลุ่มอุตสาหรรมที่ได้รับผลกระทบในแง่ลบจากสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงเนื่องจาก ต้องใช้น้ำมันเป็นต้นทุนในการประกอบธุรกิจ ในแง่ผลประกอบการกลุ่มนี้ที่จะลดลงหรือไม่นั้น คงต้องรอดูเป็นรายไตรมาส ซึ่งเชื่อว่า ไตรมาส 2/49 น่าจะเห็นถึงผลกระทบจากปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นนี้ชัดเจนขึ้น ขณะที่ราคาน้ำมันจะปรับขึ้นระดับ 80 ดอลลาร์หรือไม่นั้น เป็นเรื่องคาดเดายาก เนื่องจากเป็นความกังวลในเรื่องที่ควบคุมไม่ได้


ที่มา efinancethai.com[/color:e208e44ec6">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com