????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 25/04/2006 @ 07:28:41 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต คลังเลื่อนเซ็นศูนย์ราชการ วันนี้สมคิดไม่เสนอครม.ขณะที่ธพส.มั่นใจซิโน-ไทย และITD ไม่ปรับเพิ่มราคาก่อสร้างแม้โครงการเลื่อนออกไป ด้านอัยการส่งหนังสือถึงคลังแล้วระบุสัญญาเช่าศูนย์ราชการกรุงเทพฯ 8.2 หมื่นล้านบาท รวมทั้งหุ้นกู้จำนวน 2.4 หมื่นล้านที่ออกโดยธพส. ไม่ถือเป็นหนี้สาธารณะ สามารถก่อหนี้ผูกพัน 30 ปีได้ทันที[/color:56b3327aa6">
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ส่งหนังสือชี้แจงมายังคลังแล้วตั้งแต่วันศุกร์ 21 เม.ย. โดยแจ้งมา 2 ประเด็นตามที่คณะรัฐมนตรีสงสัยเกี่ยวกับสัญญาเช่าศูนย์ราชการกรุงเทพ ถนนแจ้งวัฒนะ ที่ต้องก่องบผูกพันทั้งสิ้น8.2 หมื่นล้านบาท ภายในระยะเวลา 30 ปี รวมทั้งการออกหุ้นกู้จำนวน 2.4 หมื่นล้านบาทว่าถือเป็นหนี้สาธารณะหรือไม่
สำนักงานอัยการยื่นยันว่าทั้งสองกรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นหนี้สาธารณะ เพราะสัญญาเช่าไม่ถือว่าเป็นการกู้เงินตามพรบ.หนี้สาธารณะ ส่วนกรณีการออกหุ้นกู้ ได้ทำตามกฎเกณฑ์ของกลต.และการออกหุ้นดังกล่าวออกโดยบริษัทธนารักษ์พัฒนาที่ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานราชการดังนั้นจึงไม่ถือว่าเป็นหนี้สาธารณะแหล่งข่าว กล่าว
อย่างไรก็ตามวันนี้(25 เม.ย.) ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี อาจเลื่อนการเสนอโครงการศูนย์ราชการออกไปก่อน แม้ว่าปัญหาหนี้สาธารณะจะไม่มีแล้วก็ตาม เพื่อรอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาพิจารณา โดยปัจจุบันโครงการก่อสร้างได้คืบหน้าไปมากแล้ว อาทิ อาคารศาลปกครอง เป็นต้น
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานกรรมการบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์หรือธพส. กล่าวว่าการเสนอเรื่องก่องบผูกพันศูนย์ราชการอาจเข้าไม่ทันภายในสัปดาห์นี้ ตามที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
นายวิมล จันทร์จิราวุฒิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ หรือ ธพส.เชื่อว่าบริษัทซิโน-ไทย ผู้ชนะการประมูลงานก่อสร้างอาคาร A อาคารจอดรถ AและลานรอบอาคารA มูลค่า 3,395 ล้านบาท และ บมจ.อิตาเลียนไทย ผู้ชนะการประมูลงานก่อสร้างอาคาร B พร้อมลานรอบอาคาร B มูลค่า 6,877 ล้านบาท จะไม่ปรับราคาใหม่ แม้การลงนามอาจต้องเลื่อนออกไป เพราะตามร่างทีโออาร์ก็ไม่มีการระบุกำหนดเวลาว่าจะต้องเซ็นสัญญากันภายในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้แต่อย่างใด ส่วนจะมีการเจรจาราคากันใหม่หรือไม่นั้น คงไม่มี เพราะยังอยู่ภายใต้กรอบเวลาการก่อสร้างโครงการเดิมอยู่
ก่อนหน้านี้ประมาณการว่า บมจ. ซิโน-ไทย จะมีกำไรขั้นต้นประมาณ 5-7% จากมูลค่างาน 3 สัญญาในโครงการนี้) ส่วนบมจ.อิตาเลียนไทย คาดว่าจะมีอัตรากำไรจากโครงการนี้ประมาณ 2% ซึ่งหากโครงการต้องเลื่อนออกไปคงต้องกลับมาทบทวนกันประมาณการใหม่ เพราะราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การก่อสร้างในโครงการนี้ไม่มีการคิดค่า K หรือ เงินชดเชยจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการก่อสร้างให้กับผู้รับเหมา
ที่มา นสพ.ข่าวหุ้น[/color:56b3327aa6">
|
