????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 25/04/2006 @ 21:38:32 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต กูรูประสานเสียง ASL โฉมใหม่ ไม่น่าลงทุนเหมือนเดิม เหตุกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ยังเป็นกลุ่มเดิม ในขณะที่นโยบายขยายธุรกิจที่ยังถือว่ามีความเสี่ยง ยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะที่มาของรายได้ที่อิงลูกค้ารายย่อยเพียงกลุ่มเดียว และการลงทุนที่จุดคุ้มทุนยังอยู่อีกยาวไกล ดังนั้นหากเศรษฐกิจซบมีโอกาสทรุดตาม แนะจับตาครึ่งปีหลังหากเศรษฐกิจวูบตามพิษราคาน้ำมัน ASL จะมีทางออกเรื่องปั๊มรายได้อย่างไร [/color:a99b37bdf7">
หลังที่มีการจับตามองกันมานานเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นใน บล.บล.แอ๊ดคินซัน (ASL) ภายหลังการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิเพื่อซื้อหุ้นสามัญของ บล.แอ๊ดคินซัน (ASL-W4) ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจจะมีกลุ่มทุนใหม่เข้ามาถือหุ้นใหญ่แทนกลุ่ม คิ้วคชา ล่าสุดโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ ASL ก็ชัดเจน เมื่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้เปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ ณ วันปิดสมุดทะเบียนล่าสุด 7 เม.ย. 2549 ซึ่งปรากฏว่าตระกูลคิ้วคชา ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 อันดับแรกรวม 10.99% ในขณะที่ นายพายัพ ชินวัตร ซึ่งเคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ 2.41% เมื่อวันปิดสมุดทะเบียนครั้งก่อน (11 เม.ย. 48) ไม่เหลือสัดส่วนการถือหุ้นแล้วส่วนนายชนะชัย ลีนะบรรจง ที่เคยเข้ามาเก็บ ASL-W4 กว่า 10% มีสัดส่วนการถือหุ้น 1.60%
นอกจากนั้น ยังพบตระกูลเตชะอุบล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) (IEC) รวมทั้งบริษัทย่อยของ IEC เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย โดยนายเบน เตชะอุบล มีสัดส่วนถือหุ้น 1.02% นายสดาวุธ เตชะอุบล ถือหุ้น 0.95% นาง ชลิดา เตชะอุบล ถือหุ้น 0.55% และ บริษัท ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ส จำกัด ซึ่งมี IEC ถือหุ้นใหญ่ 100% มีสัดส่วนการถือหุ้น 1.47%
- ตระกูลเตชะอุบล ดอดถือหุ้นใหญ่ 5.59%
การประกาศรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ใน ASL พบว่า ตระกูลเตชะอุบล กลายเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่รองจากตระกูลคิ้วคชา ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 5.59% โดยนายบี เตชะอุบล กรรมการ บมจ. อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง (IEC) เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ถึงกรณีที่ตระกูลเตชะอุบล เข้ามาถือหุ้น ใน ASL จนติดอันดับผู้ถือหุ้นใหญ่ว่า เนื่องจากเห็นถึงแนวโน้มอัตราการเติบโตของธุรกิจ พร้อมยืนยันว่า หากพบว่าเข้าลงทุนแล้วได้รับผลตอบแทนที่ดี ก็คาดว่าน่าจะเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่ม
อย่างคุณเบน เตชะอุบล เป็นน้องชายผมเอง ซึ่งเขาคงเห็นว่า ASL มีแนวโน้มการเติบโตดีขึ้น จึงเข้าไปซื้อหุ้นซึ่งหากผลตอบแทนดีก็คาดว่าคงจะเข้าไปซื้อเพิ่ม นายบี กล่าวและว่าก่อนหน้านี้ นางสาวหลุยส์ เตชะอุบล ได้เข้ามานั่งเป็นกรรมการของ ASL ด้วย
ส่วนการเข้ามาลงทุนใน ASL ของบริษัท ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ IEC ถือหุ้น 100% นั้นเขาอธิบายว่าถือเป็นการลงทุนตามปกติ โดย ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ส เป็นหน่วยงานสำหรับการลงทุนของ IEC ที่มีการลงทุนในธุรกิจที่เห็นว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี ทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์
ส่วนนโยบายการลงทุนของ ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ส จะมีคณะกรรมการที่ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลโดยเฉพาะ ซึ่งการลงทุนใน ASL เป็นสัดส่วนไม่มาก จึงไม่ต้องขอมติคณะกรรมการของบริษัทแม่
บริษัท ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ส เป็นหน่วยงานลงทุน ที่มีการลงทุนทั้งในระยะสั้น,กลาง และยาว ทั้งในและนอกตลาดหลักทรัพย์ การลงทุนใน ASL ก็ถือเป็นการลงทุนตามปกติ ส่วนอนาคตจะมีธุรกิจอะไรร่วมกันหรือไม่คงยังตอบไม่ได้ นายบี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ IEC แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ระบุว่า บริษัท ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ส จำกัด ก่อตั้งเพื่อดำเนินธุรกิจครบวงจรด้าน ICT และให้บริการ Business Process Outsourcing ที่เกี่ยวเนื่องให้แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
ในขณะที่นายชนะชัย เตชะอุบล ออกมาระบุว่า การเข้ามาลงทุนใน ASL เป็นเพราะเห็นว่าเป็นหุ้นที่ดี มีเงินสดเยอะและมีนักลงทุนหลายรายอยากได้ไลเซนต์ธุรกิจหลักทรัพย์ของ ASL ซึ่งถ้ามีจังหวะก็อยากจะถือหุ้นเพิ่ม
- วงการชี้หลังเปิดโผผู้ถือหุ้นใหม่ ASL ยังไม่น่าลงทุนเหมือนเดิม
แหล่งข่าวจากวงการหลักทรัพย์แห่งหนึ่งกล่าวว่า หลังการเปิดโผผู้ถือหุ้นของ ASL ที่พบว่ากลุ่มคิ้วคชายังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ1-2 นั้น มองว่า ASL ยังแทบไม่มีความเปลี่ยนแปลง เพราะอำนาจการบริหารยังอยู่ในมือผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิม ดังนั้น จึงถือได้ว่า ASL เป็นหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ที่ยังไม่น่าลงทุนเหมือนเดิม
ถึงแม้คุณชนะชัย (นายชนะชัย เตชะอุบล) จะมองว่า ASL เป็นบริษัทที่น่าลงทุนเพราะมีกระแสเงินสดเป็นจำนวนมาก และมีไลเซนส์ธุรกิจหลักทรัพย์อยู่ในมือ แต่ถ้ามองจากปัจจัยด้านอื่นแล้ว ผมมองว่า ASL ก็ยังไม่น่าลงทุน เพราะอำนาจการบริหารยังอยู่ในกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม นโยบายหลายอย่างจึงยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยเฉพาะที่มาของรายได้ นโยบายการลงทุน และการขยายธุรกิจ
เขากล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการสร้างรายได้ของ ASL เมื่อเทียบกับการลงทุนพบว่ายังไม่มีความสมดุลนัก โดยที่เห็นได้ชัด คือ จำนวนบุคลากรที่อยู่ในส่วนสร้างรายได้มีสัดส่วนน้อยกว่าบุคลากรในกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่มีหน้าที่ในการหารายได้โดยตรง ซึ่ง ASL ถือเป็นบริษัทที่มีต้นทุนการดำเนินงานค่อนข้างสูง และพบว่าเป็นบริษัทที่ต้องแบกรับภาระต้นทุนสูงมากเมื่อเทียบกับบริษัทในกลุ่มเดียวกัน
ในขณะที่นโยบายการขยายสาขาบุกตลาดในส่วนภูมิภาคของ ASL แม้จะถือว่าเดินทางถูกทาง แต่พบว่าการลงทุนดังกล่าวยังมองไม่เห็นจุดคุ้มทุน เพราะเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง แม้ก่อนหน้านี้นางอาภา คิ้วคชา ประธานกรรมการบริหาร ASL จะออกมาระบุว่า
ปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าสร้างกำไรหลังได้กลุ่มเตชะอุบลเข้ามาเป็นพันธมิตรเกื้อหนุนธุรกิจ พร้อมเร่งผลักดันสาขา 60 แห่งทั่วประเทศให้ทำรายได้เพิ่มขึ้น แต่ทิศทางและนโยบายในการสร้างรายได้ยังไม่มีความชัดเจนนัก
ประการสำคัญ ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของ ASL ถือว่ายังมีความเสี่ยง เพราะรายได้ส่วนใหญ่จะมาจากค่าธรรมเนียมของลูกค้าที่เป็นกลุ่มนักลงทุนรายย่อย ไม่มีนักลงทุนกลุ่มสถาบันหรือต่างชาติเข้ามาถ่วงดุล ซึ่งต่างกับโบรกเกอร์รายอื่นที่มีผู้ร่วมทุนเป็นต่างชาติ จึงมีนักลงทุนกลุ่มต่างชาติหรือสถาบันมาเป็นตัวถ่วงดุล ดังนั้นหากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งลดการลงทุนลงก็ยังมีรายได้จากกลุ่มอื่นเข้ามาแทน
ถ้าดูจากลูกค้าของ ASL จะพบว่ามีความเสี่ยงมาก เพราะรายได้ยังอิงนักลงทุนรายย่อย เพราะถ้าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีรายย่อยติดหุ้นกันมาก ไม่มีการลงทุนต่อเนื่อง รายได้ก็จะหายไป ดังนั้นรายได้ของ ASL จะดีเฉพาะในช่วงที่ภาวะตลาดดี แต่ถ้าช่วงตลาดซึมก็จะได้รับผลกระทบ ซึ่งASL ถือว่ามีความเสี่ยงสูงเพราะ หลังจากนี้ผลกระทบจากราคาน้ำมันอาจทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นชะลอตัวลง ซึ่งอาจจะกระทบโดยตรงต่อ ASL ที่ยังต้องพึ่งพิงรายได้จากลูกค้าในกลุ่มรายย่อยเป็นหลัก ประกอบกับมองว่าการปรับโครงสร้างรายได้ของ ASL ยังเป็นไปได้ค่อนข้างลำบากเมื่อเทียบกับโบรกอื่นๆ จึงน่าจับตามองว่า ถ้าเป็นอย่างที่ว่าแล้ว ASL จะมีทางออกอย่างไร
เขากล่าวอีกว่า ถ้ามองหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ในปัจจุบันพบว่าความน่าลงทุนจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ทั้งการสร้างรายได้และจุดคุ้มทุน ที่สอดคล้องกับรายจ่าย โดยเฉพาะการกำหนดค่าคอมมิชชั่นในอนาคต ซึ่งที่ผ่านมาการกำหนดค่าคอมมิชชั่นคงที่ที่ระดับ 0.25% เป็นเวลา 3 ปี มองว่าโบรกเกอร์ที่มีจุดคุ้มทุนค่อนข้างต่ำจะถือเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งนักวิเคราะห์หลายรายมองไปในทิศทางเดียวกันว่ามองว่า PHATRA จะเป็นหุ้นที่รับผลดีที่ในการเลือกใช้คอมมิชชั่นดังกล่าว
ใ นขณะที่ในอนาคต หากค่าคอมมิชชั่นเปลี่ยนมาใช้แบบขั้นบันได โบรกเกอร์ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ก็จะเป็น BLS ASP KGI และหากมีการใช้ค่าคอมฯเสรีในอนาคต รายที่มีจุดคุ้มทุนต่ำหว่า 0.14% ก็จะได้รับประโยชน์ ซึ่งจะเห็นว่าที่กล่าวมาทั้งหมด ASL ยังไม่ได้อยู๋ในกลุ่มใด ดังนั้นจึงยังเห็นว่า ASL ยังเป็นหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ที่ยังไม่น่าลงทุนเหมือนเดิม
- กูรูชี้ หุ้นหลักทรัพย์ยังไม่น่าแตะ โดยเฉพาะที่ยังไม่เห็นแววการเติบโตของรายได้-มาร์เก็ตแชร์
นายศรัณย์ ถวิลย์หวัง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟาร์อีสท์ เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ ASLในครั้งนี้คงไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ยังคงมีผู้ถือหุ้นรายเดิมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ แต่ก็ควรติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิดเพราะอาจเป็นปัจจัยชี้นำและส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนได้
ก็คงต้องติดตามการประชุมผู้ถือหุ้นที่ทางแอ๊ดคินซันจะกำหนดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ว่าผู้ถือหุ้นจะมีแนวคิดอย่างไรบ้างแต่ในเบื้องต้นก็คงไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของแอ๊ดคินซันเพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ยังเป็นกลุ่มเดิม นายศรันย์กล่าวและว่าขณะนี้ไม่แนะนำให้ลงทุนในหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ เพราะมองว่าภาพรวมของหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์ในปัจจุบันยังคงได้รับผลกระทบด้านลบจากปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง
โดยเฉพาะในปัจจุบันภาวะตลาดหุ้นไทยมูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบางเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยส่งผลให้หุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ไม่มีความน่าสนใจดังนั้นนักลงทุนควรรอดูและหาจังหวะในการลงทุนที่ดีหากต้องการเข้าไปลงทุนในหุ้นกลุ่มหลักทรัพย์
ขณะที่นักวิเคราะห์อีกรายหนึ่งกล่าวว่า ผลกระทบจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงนี้และต่อเนื่องไปในครึ่งปีหลังน่าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ และอาจจะกระทบต่อเนื่องมายังการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ทำให้มูลค่าการซื้อขายเบาบางลงได้อีก
ดังนั้น กลุ่มหลักทรัพย์จึงไม่ใช่หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจลงทุน โดยเฉพาะรายที่ยังพึ่งพารายได้จากค่าธรรมเนียมจากนักลงทุนรายย่อยเป็นหลัก ไม่มีทิศทางสร้างรายได้ชัดเจน และยังมองไม่เห็นการเติบโตของส่วนแบ่งทางการตลาดในธุรกิจหลักทรัพย์หรือมาร์เก็ตแชร์ในอนาคต
โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ ASL ณ วันปิดสมุดทะเบียนล่าสุด 7 เม.ย. 2549
ผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้น %การถือหุ้น
1 นาย อำนาจ คิ้วคชา 25,299,915 6.03
2 นาย ฤทธิ์ คิ้วคชา 20,800,000 4.96
3 DEUTSCHE BANK 19,023,900 4.53
4 MERRILL LYNCH, 17,137,600 4.08
5 KIM ENG SECURITIES 13,721,600 3.27
6 น.ส. ลักษณา จริยวัฒน์สกุล 9,184,400 2.19
7 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 9,107,001 2.17
8 ม.ล. ศานติดิศ ดิศกุล 7,220,000 1.72
9 นาง เพ็ญพิมล สุรวุฒิพงศ์ 6,981,000 1.66
10 นาย ชนะชัย ลีนะบรรจง 6,711,800 1.60
11 GOLDMAN SACHS 6,223,900 1.48
12 นาย วิชาญ โชติอุดมพันธ์ 6,110,000 1.46
13 HSBC BANK PLC 5,750,000 1.37
14 THE BANK OF NEW YORK 5,229,500 1.25
15 นาย เบน เตชะอุบล 4,300,000 1.02
16 UBS AG SINGAPORE, 4,000,000 0.95
17 นาย จำนอง ฉิมพันธ์ 4,000,000 0.95
18 บริษัท ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ส 4,000,000 0.95
19 นาง อาภา โพธิ์พันธุ์ 4,000,000 0.95
20 นาย สดาวุธ เตชะอุบล 4,000,000 0.95
21 น.ส. ฉัตร์สุดา เบ็ญจนิรัตน์ 3,788,400 0.90
22 บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ 3,696,220 0.88
23 นาย มานะ มาลัยศิริรัตน์ 3,637,300 0.87
24 นาย อภิชญา บุรานนท์ 3,550,000 0.85
25 นาย วิกร ศรีวิกรม์ 3,000,000 0.71
26 นาย เฉลิมพันธ์ ศรีวิกรม์ 3,000,000 0.71
27 น.ส. โศรยา ชูวาณิชย์ 2,670,000 0.64
28 บง. ไทยฟูจิ จำกัด 2,313,375 0.55
29 นาง ทิพวัน เรืองบุณย์ 2,300,500 0.55
30 นาง ชลิดา เตชะอุบล 2,300,000 0.55
31 น.ส. มารยาท ตรีวิมล 2,230,000 0.53
32 นาย จิรศักดิ์ ผ่องหทัยกุล 2,200,000 0.52
33 บริษัท ไออีซี บิซิเนส พาร์ทเนอร์ส 2,200,000 0.52
34 น.ส. ปณา เอื้ออภิญญกุล 2,197,400 0.52
35 บริษัท ภูเก็ตแฟนตาซี จำกัด 2,127,300 0.51
โครงสร้างผู้ถือหุ้น ASL ณ วันปิดสมุดทะเบียนวันที่ 11 เม.ย. 2548
ผู้ถือหุ้น จำนวนหุ้น %การถือหุ้น
1 นาย อำนาจ คิ้วคชา 25,299,915 7.85
2 นาย ฤทธิ์ คิ้วคชา 20,800,000 6.45
3 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ 12,590,213 3.91
4 นาย สมศักดิ์ คุปตเมธี 8,726,100 2.71
5 นาย พายัพ ชินวัตร 7,774,400 2.41
6 นาย ประยุทธ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ 7,682,900 2.38
7 นาย วิชาญ โชติอุดมพันธ์ 5,110,000 1.59
8 นาย อำนวย กาญจโนภาศ 5,042,900 1.56
9 บล.ยูไนเต็ด 4,685,000 1.45
10 นาง สุภา สุพรรณธะริดา 3,716,200 1.15
11 นาย สนิท ดุษฎีโหนด 3,491,700 1.08
12 นาย สม ปริยวัต 3,250,000 1.01
13 นาย สมศักดิ์ วรรณสินธพ 3,100,000 0.96
14 นาย อิทธิชัย เลิศสิริมงคลชัย 2,774,000 0.86
15 นาย สัญญา หลีกุล 2,737,140 0.85
16 บล. ไซรัส 2,573,000 0.80
17 นาย สุรวุฒิ เชิดชัย 2,400,000 0.74
18 บง.ไทย ฟูจิ จำกัด 2,283,375 0.71
19 นาย กรีธา เตชะรัตนไชย 2,180,145 0.68
20 บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ 1,929,484 0.60
21 นาย วศิน เตชะรัตนไชย 1,913,269 0.59
22 นาย ไพวรรณ ชาติพิทักษ์ 1,881,960 0.58
23 GERLACH&CO-DIMENSIONAL 1,753,500 0.54
24 นาย สุรศักดิ์ เทวอักษร 1,750,000 0.54
ที่มา efinancethai.com[/color:a99b37bdf7">
|
