May 1, 2024   3:19:45 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > 7โบรกเล่นกันเอง TFEXเทรดวันแรก
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 28/04/2006 @ 06:50:33
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

วันนี้ได้ฤกษ์เปิดซื้อขายตลาดอนุพันธ์ เผย 7 โบรกเกอร์ส่งพอร์ตเล่นเอง เรียกลูกค้าทำให้คึกคัก สร้างสีสัน วงในชี้วันแรกอาจดูดีหลังจากนั้นซบเซา เพราะนักลงทุนรอดูภาพรวมตลาดฯ[/color:55f6fb31cd">


แหล่งข่าวผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์(บล.) กล่าวว่า ในวันนี้(28 เม.ย.)ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์จะมีบล.สมาชิกของตลาดอนุพันธ์จำนวนอย่างน้อย 6-7แห่ง เข้าไปซื้อขายสัญญาล่วงหน้าเอง โดยใช้เงินบางส่วนจากพอร์ตลงทุนของแต่ละบริษัทที่มีเฉลี่ยรายละประมาณ 300-400 ล้านบาท เพื่อสร้างสภาพคล่องหรือปริมาณ(วอลุ่ม)การซื้อขายจูงใจให้นักลงทุนสถาบันและรายย่อยเข้าลงทุนตาม


สำหรับบริษัทหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะส่งพอร์ตของตัวเองเข้าไปซื้อขายสัญญาล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์ ซึ่งส่วนใหญ่ต้องมีความพร้อมของระบบส่งคำสั่งการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ และมีใบอนุญาติ(ไลเซนส์) ประกอบด้วย บล.เคจีไอ จำกัด(มหาชน) บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) บล.ภัทร จำกัด(มหาชน) บล.เจพี มอร์แกน(ประเทศไทย) จำกัด บล.ซีแอลเอสเอ(ประเทศไทย) จำกัด บริษัททรีนีตี้ โพลาริส ฟิวเจอร์ส จำกัด และบริษัทอยุธยาดิริฟวทีฟ จำกัด

ตอนนี้ปัญหาที่ทุกฝ่ายกังวลคือสภาพคล่อง เพราะกลัวว่าหากเข้าไปลงทุนแล้วจะไม่สามารถออกมาได้ ทำให้ในช่วงแรกต้องมีโบรกเกอร์ส่งพอร์ตของตัวเองเข้าไปสร้างสภาพคล่องก่อน ทำหน้าที่เสมือนมาร์เก็ตเมกเกอร์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจหลักทรัพย์และถือเป็นหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้วแหล่งข่าว กล่าว

ด้านนายธนวัฒน์ พานิชเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจตัวแทนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า บล.เคจีไอ กล่าวว่าคาดว่าการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์วันแรกคงคึกคักในช่วงแรกแต่หลังจากนั้นน่าจะซบเซาประมาณ 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูภาพรวมของตลาดก่อน ประกอบกับภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นช่วงนี้ค่อนข้างดีอาจทำให้นักลงทุนยังไม่สนใจเข้ามาลงทุนในตลาดอนุพันธ์

สำหรับการซื้อขายในวันแรกยังไม่สามารถประเมินได้ว่านักลงทุนจะซื้อ(long)หรือขาย(short) เพราะแม้จะประเมินภาวะตลาดได้ว่าจะขึ้นหรือลงแต่ไม่สามารถประเมินได้ว่าคำสั่งซื้อขายที่เข้ามาจะถูกหรือแพง หรือซื้อกันที่ดัชนีระดับไหน ซึ่งโดยปกติคำสั่งซื้อขายเริ่มแรกมักจะสูงหรือต่ำกว่ากว่าดัชนีในตลาดจริง 1-2%
ทั้งนี้คาดว่านักลงทุนสถาบันน่าจะเป็นกลุ่มที่เข้ามาซื้อขายในวันแรก เนื่องจากมีความพร้อมและชำนาญมากกว่านักลงทุนรายย่อยที่น่าจะรอดูท่าทีไปก่อน

ด้านนางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการบริษัทตลาดอนุพันธ์ (ประเทศ) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX กล่าวว่าในวันนี้ถือเป็นวันแรกของการเปิดดำเนินการซื้อขายในส่วนของตลาดอนุพันธ์ โดยจะเปิดทำการซื้อขายดัชนี SET 50 Index Futures ซึ่งเป็นสินค้าตัวแรก และได้รับเกียรติจาก นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานเปิดงาน

สำหรับระบบการซื้อ-ขายในตลาดอนุพันธ์จะเป็นลักษณะเดียวกันกับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คือการที่ลูกค้าต้องการจะซื้อ-ขายต้องส่งคำสั่งซื้อ-ขายผ่านบริษัทโบรกเกอร์ โดยสินค้าที่ทำการซื้อ-ขายในตลาดอนุพันธ์ จะเป็นสินค้าประเภทสัญญาซื้อขายล่วงหน้าไม่ว่าจะเป็นซื้อขายหุ้นล่วงหน้า ดัชนีล่วงหน้าของตลาดหลักทรัพย์เฉพาะ 50 ตัวแรก
นอกจากนี้ในอนาคต จะมีการซื้อขายอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า ทองคำ

ล่วงหน้า และน้ำมันล่วงหน้าเหมือนกับในตลาดต่างประเทศ ซึ่งคล้ายกับตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแต่เป็นสินค้าคนละชนิดกัน ทั้งนี้การซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ล่วงหน้าถือเป็นเครื่องมือในการลดบริหารความเสี่ยงในการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ และยังส่งผลให้ไทยมีตลาดทุนอย่างครบวงจร

สำหรับช่วงเวลาของการซื้อ-ขายในตลาดอนุพันธ์ จะเปิดตลาดเร็วกว่าตลาดหุ้น 15นาทีในเวลา 09.45 น.และปิดหลังตลาดหุ้น 15 นาที ในเวลา 16.55 น. ซึ่งเป็นหลักสากลของตลาดอนุพันธ์ในประเทศอื่น ๆ ส่วนเรื่องภาษีในการซื้อ-ขายจะคล้ายกับตลาดหุ้นคือ บุคคลธรรมดาจะได้รับการยกเว้นภาษีกำไรจากการซื้อขาย ส่วนนิติบุคคลจจะนำกำไรไปคำนวณรวมกับรายได้

ทั้งนี้สินค้าที่จะเปิดให้มีการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์เป็นตัวแรกคือ สัญญาล่วงหน้าของดัชนี SET50 โดยสินค้าดังกล่าวเป็นสัญญาล่วงหน้าประเภทหนึ่ง ซึ่งมีสินค้าอ้างอิงเป็นดัชนี SET50 โดยผู้ซื้อผู้ขายตกลงราคากันในวันนี้ว่าจะซื้อขายกันในอนาคต เช่น 3เดือน 6 เดือน 9 เดือน และ 12 เดือนข้างหน้า แต่ด้วยดัชนีSET50 เป็นค่าของ ดัชนีไม่มีตัวตน ส่งมอบกันไม่ได้ การซื้อขายจึงออกมาในรูปของการจ่ายชำระเงินกำไรหรือขาดทุนที่เกิดจากส่วนต่างของราคา สัญญาล่วงหน้า

โดยกระบวนการคิดกำไรขาดทุนจะพิจารณาจากราคาดัชนี ณ สิ้นวันทำการเทียบกับราคาซื้อหรือขาย เช่น หากผู้ลงทุนเริ่มซื้อสัญญาล่วงหน้าที่ระดับดัชนี 520 จุด เมื่อดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นและปิดที่ระดับ 525 จุด วิธีการคิดกำไรเป็นดังนี้ 525-520 x 1,000 (ตัวคูณดัชนี) = 5,000 บาท หรือ 1 จุด = 1,000 บาท กำไร 5 จุด = 5,000 บาท ในทางกลับกันหากผู้ลงทุนซื้อสัญญาล่วงหน้าที่ระดับดัชนี 520 จุด เมื่อดัชนีปรับตัวลดลงและปิดที่ระดับ 505 จุด

ส่วนการคิดผลขาดทุนจะเป็นดังนี้ 505-520 x 1,000 = -15,000 บาท หรือ 1จุด = 1,000 บาท ขาดทุน 15 จุด = 15,000 บาท ซึ่งหากผลขาดทุนดังกล่าวส่งผลให้เงินประกันขั้นต้นลดลงต่ำกว่า เงินประกันขั้นต่ำผู้ลงทุนต้องมีหน้าที่เพิ่มเงินประกัน สิ่งที่นักลงทุนพึงระลึกไว้เสมอคือเมื่อทำสัญญาซื้อหรือขายไว้ ไม่จำเป็นต้องถือสัญญาไว้ จนครบวันที่สัญญาหมดอายุ ผู้ลงทุนสามารถล้างภาระผูกพันที่มีอยู่ได้ โดยเข้าไปซื้อหรือขายสัญญาล่วงหน้า ให้มีสถานะตรงข้ามกับสัญญาเดิมที่ทำไว้ในตอนแรก ซึ่งเรียกว่าการปิดสถานะหรือ การล้างภาระผูกพัน

ที่มา ข่าวหุ้น[/color:55f6fb31cd">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com