May 4, 2024   10:08:00 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ถึงเวลาต้องเก็บหุ้นก่อสร้าง :ITDราคายั่วใจ NWRกำไรดีแต่ถูกเม
 

P_aud
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 531
วันที่: 01/05/2006 @ 22:08:11
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

ถึงเวลาทยอยไล่เก็บหุ้นก่อสร้างของดีราคาถูก ITD น่าซื้อสุดราคาใกล้แตะแนวรับ 6.80-7 บาท ขณะที่ STEC ลุ้นหนักครึ่งปีแรกมาร์จิ้นหด เหตุเหล็กพุ่ง-น้ำมันแพงรอรับที่ 8.50บาท ส่วน NWR ม้านอกสายผลประกอบการดี แต่นักลงทุนเมิน

หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างน่าจะทยอยช้อนเก็บ เพราะปัจจัยพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัวไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งจากงานในมือ (Backlog) และงานใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีปัจจัยลบเรื่องเลื่อนโครงการเมกะโปรเจ็กออกไป เพื่อรอให้รัฐบาลชุดใหม่มาสานต่อ ส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ปรับตัวลงมากก็ตาม

โดยหุ้นในกลุ่มนี้ที่น่าลงทุนมากที่สุด ได้แก่ บมจ.อิตาเลียนไทย (ITD) เพราะไม่เป็นหุ้นที่ไม่ค่อยรับข่าวจากการเลื่อนโครงการเมกะโปรเจ็กเท่าใดนัก ซึ่งต่างจากหุ้นบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ที่จะรับข่าวนี้ค่อนข้างมาก

นอกจากนี้ ITD ยังมีงานในมือสูงถึง 8 หมื่นล้านบาท ทำให้มีกระแสรายได้งานก่อสร้างที่มั่นคงในช่วง 2 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันยังเป็นผู้นำในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของไทย และคาดว่าจะมีโอกาสได้งานก่อสร้างโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น

ประเด็นดังกล่าวนักวิเคราะห์ฝ่ายเทคนิคจากบริษัทหลักทรัพย์เอเชีย พลัส เปิดเผยว่า นักลงทุนที่จะเข้าไปลงทุนในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างในช่วงนี้ให้เข้าไปซื้อได้ เพราะปัจจัยพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัวไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะหุ้น ITD ที่ราคาใกล้แตะแนวรับที่ 6.80-7 บาท ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีที่นักลงทุนจะได้ซื้อของดีราคาถูก

หุ้น STEC ที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงนี้เป็นการพักตัวในระยะสั้นๆ เท่านั้น เพราะที่ผ่านมาราคาลงไปแรง ดังนั้นรอรับที่ 8.50 บาท แนวต้านแรกที่ 9.10 บาท ซึ่งหากผ่านแนวต้านนี้มาได้จะทะลุไปที่ 9.50-10 บาท แต่อาจต้องใช้เวลานานถึง 2 สัปดาห์

สำหรับหุ้นบมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) เป็นหุ้นดาวรุ่งน่าจับตาในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เพราะผลประกอบการออกมาค่อนข้างดี และมีกำไร หลังได้ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้มาแล้ว แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังไม่ค่อยให้ความสนใจกับหุ้นดังกล่าวมากนักเนื่องจากยังจดจำภาพในอดีตเกี่ยวกับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา จนทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ ดังนั้นหลังออกจากแผนฟื้นฟูฯ ทำให้นักลงทุนยังไม่มีความมั่นใจว่าจะดีจริงหรือไม่ โดยให้แนวรับที่ 92-93 สตางค์ และแนวต้านที่ 98 สตางค์

นักวิเคราะห์กล่าวยอมรับว่า หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างได้รับผลกระทบจากวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นราคา เช่น เหล็ก และปูนซีเมนต์ ทำให้มาร์จิ้นปรับลดลงโดยเฉพาะ STECที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวอย่างมาก ขณะเดียวกันยังมีปัญหาในการเลื่อนเซ็นสัญญาทั้งจากโครงการ แอร์ พอร์ต เรลลิ้งค์ ศูนย์ราชการถนนแจ้งวัฒนะ และโรงไฟฟ้าบางปะกง และพระนครเหนือออกไปอีก ทำให้การบันทึกรายได้จากโครงการดังกล่าวต้องเลื่อนออกไปด้วย

จากการสอบถามไปยังผู้บริหารของ STEC ยอมรับว่า ราคาน้ำมันแพงและราคาเหล็กปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้มาร์จิ้นในครึ่งปีแรกลดลง แต่ในครึ่งปีหลังจากได้งานจากโครงการก่อสร้างไฟฟ้าที่มีมาร์จิ้นสูงมาชดเชยแทน ทำให้เราต้องปรับเป้าพื้นฐานใหม่ ล่าสุดอยู่ระหว่างการกำหนดเป้าหมายใหม่ ขณะที่ ITD ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากราคาเหล็กมากนัก เพราะมีโรงเหล็กเป็นของตัวเอง

ที่มา:
ข่าวหุ้น [/color:6dea39a804">[/size:6dea39a804">

 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com