????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 02/05/2006 @ 06:32:11 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต ตลาดเล็ง 10 บจ. หุ้นปั่นเจ้าเดิม ขาใหญ่เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ ส่งนอมินีถือหุ้นตรวจสอบได้ยาก ไม่เลิกเอาผิดนักลงทุนประวัติเสียแม้เปลี่ยนหุ้นเทรด ชี้ปัจจุบันมีหุ้นที่ต้องจับตาใกล้ชิด 10% ด้านวงในเชื่อหนีไม่พ้นหุ้นถูกห้ามเน็ต-มาร์จิ้น[/color:f9a610d849">
นายสุภกิจ จิระประดิษฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)กล่าวว่า ปัจจุบันนักลงทุนรายใหญ่หรือนักลงทุนที่ถูกตลาดหลักทรัพย์จับตาดูอย่างใกล้ชิดได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเก็งกำไรใหม่ โดยหันไปซื้อขายผ่านตัวแทนผู้ถือหุ้น(นอมินี)แทน หรือมีการเพิ่มจำนวนนอมินีให้มากขึ้น ทำให้การตรวจสอบการซื้อขายหุ้นที่เข้าข่ายผิดกฎหมายทำได้ยากขึ้น เพราะการเชื่อมโยงข้อมูลการซื้อขายระหว่างกันทำได้ยากขึ้น
อย่างไรก็ตามแม้กลุ่มนักลงทุนเหล่านี้จะปรับกลยุทธ์การปั้นราคาหุ้นใหม่ แต่เชื่อว่าไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบของตลาดหลักทรัพย์ และหากตรวจพบว่ามีการซื้อขายที่เข้าข่ายความผิดปกติขึ้น ตลาดหลักทรัพย์ก็จะลงไปตรวจสอบในหุ้นเหล่านี้ทันที
ที่ผ่านมาก็มีกลุ่มซึ่งเราจับตาดูเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนรายที่มีประวัติเข้าออกบริษัทที่มีปัญหา หรือมีราคาหุ้นที่เคลื่อนไหวหวือหวามาก่อน โดยกลุ่มผู้บริหารที่ถูกจับตาเป็นพิเศษนั้น ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียนที่ตลาดหลักทรัพย์จัดอยู่ในกลุ่มจับตาใกล้ชิดอยู่แล้ว โดยมีอยู่ประมาณ 10% ของจำนวน บจ. ทั้งหมดนายสุภกิจ กล่าว
ด้านแหล่งข่าวผู้บริหารโบรกเกอร์ กล่าวว่า สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะถูกตลาดหลักทรัพย์จับตาอย่างใกล้ชิดส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่ถูกห้ามการซื้อขายแบบเน็ต-และมาร์จิ้นเป็นประจำอาทิเช่น APURE APURE-W1 IEC ASL BNT PICNI MME EWC และ EWC-W1 เป็นต้นนอกจากนี้หากตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทเหล่านี้จะพบว่าบริษัทเหล่านี้มีผู้ถือหุ้นที่เชื่อมโยงถึงกัน และยังสังเกตได้ว่าโครงสร้างผู้ถือหุ้นประกอบไปด้วยนอมินีจำนวนมาก
นายสุภกิจ กล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจสอบการซื้อขายของนักลงทุนนั้น ตลาดหลักทรัพย์ จะดูพฤติกรรมในแต่ละกรณีเป็นหลัก ไม่ได้สนใจที่รายชื่อหรือนามสกุลของนักลงทุนว่ามีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มใด หรือเป็นเครือญาติของนักการเมืองหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าถ้านักลงทุนรายนั้นเป็นนักลงทุนมีประวัติหรือมีพฤติกรรมการซื้อขายที่เข้าข่ายผิดปกติอยู่แล้ว ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องเอาใจใส่มากกว่ารายอื่น
ฝ่ายตรวจสอบของเราจะแบ่งเจ้าหน้าที่เอาไว้ดูแลความเปลี่ยนแปลงของบริษัทจดทะเบียนในแต่ละกลุ่มอยู่แล้ว เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบเรื่องต่าง ๆ แต่ในกรณีที่ผู้บริหารที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ ย้ายจากบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มธุรกิจหนึ่ง ไปอยู่ในอีกธุรกิจหนึ่งก็ไม่เป็นปัญหา เพราะในภาพรวมการตรวจสอบก็อยู่ภายใต้ฝ่ายกำกับการซื้อขายอยู่แล้วนายสุภกิจ กล่าว
นายสุภกิจ กล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์(ประเทศไทย)หรือ TFEX จะมีทีมตรวจสอบอีกทีมหนึ่งแยกต่างหากจากทีมตรวจสอบการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากรูปแบบการลงทุนมีความแตกต่างกัน โดยในทฤษฎีแล้วการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ ก็สามารถสร้างราคาได้เหมือนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ในทางปฏิบัติเป็นเรื่องยาก
โดยเฉพาะสินค้าของตลาดอนุพันธ์ในตอนนี้ คือ ดัชนีเซ็ท 50 ฟิวเจอร์ส เป็นดัชนีที่อ้างอิงกับดัชนีเซ็ท 50 ในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งครอบคลุมหุ้นขนาดใหญ่ทั้งหมดของตลาด ทำให้การที่นักลงทุนจะผลักดันให้ดัชนีเซ็ท 50 เปลี่ยนแปลงไปตามดัชนีเซ็ท 50 ฟิวเจอร์ส ที่ซื้อเอาไว้ จึงเป็นไปได้ยาก เพราะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก
ขณะเดียวกัน ตลาดอนุพันธ์เป็นตลาดที่มีความคิดเห็นหลากหลายมาก หากนักลงทุนอีกกลุ่มหนึ่งมองว่าความเปลี่ยนแปลงของดัชนีเซ็ท 50 ฟิวเจอร์ส เปลี่ยนแปลงผิดความเป็นจริงมากเกินไป ก็สามารถลงทุนในทิศทางที่ตรงข้ามกันได้ ทำให้ความเคลื่อนไหวของดัชนีกลับมาอยู่ในจุดที่สมดุลได้
ที่มา ข่าวหุ้น[/color:f9a610d849">
|
