ศาลปกครองกลางดับฝัน ITV เพิกถอนคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ ส่งผลต้องกลับไปจ่ายค่าสัมปทานในอัตราเดิมที่ปีละกว่า 1 พันลบ.แถมผังรายการต้องอยู่ในกรอบ ส่งผลอาจขาดทุนติดต่อกัน 3 ปีซ้อน กูรูฟันธงงานนี้ราคาเหมาะสมเหลือแค่ 4 บาท ขณะITV ยันยื่นฟ้องศาลปกครองสูงสุดต่อใน 30 วัน แต่นักลงทุนไม่สนชิงเทกระจาดจนหุ้นรูดเกือบแตะฟลอร์ เหตุคาดการณ์ล่วงหน้าศาลปกครองสูงสุดอาจยืนคำตัดสินศาลปกครองกลาง

วานนี้ (9 พฤษภาคม 49) ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาในคดีระหว่างสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ สปน.และ บมจ.ไอทีวี (ITV) ที่ สปน.ยื่นฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ซึ่งศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการทั้งหมด โดยระบุว่าคำชี้ขาดดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากเป็นคำชี้ขาดที่ไม่อยู่ในขอบเขตของสัญญาอนุญาโตตุลาการและเกินขอบเขตแห่งข้อตกลงในการเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการ

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ คณะอนุญาโตตุลาการมีคำชี้ขาด ให้ สปน. ชดเชยความเสียหายแก่ ITV ดังนี้

คือ
1. ชำระเงินคืนแก่บริษัทฯ จำนวน 20 ล้านบาท,
2. ให้ปรับลดผลประโยชน์ตอบแทนตามสัญญาเข้าร่วมการงานฯ ข้อ 5 วรรค 1 ในส่วนจำนวนเงินรับประกันผลประโยชน์ขั้นต่ำจากเดิมลดลงเหลือปีละ 230 ล้านบาท โดยไม่ต้องชำระเงินขั้นต่ำในส่วนที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีอีก
3. ปรับลดผลประโยชน์ตอบแทนเป็นอัตราร้อยละจากเดิมลงเหลือร้อยละ 6.5 ของรายได้ก่อนหักค่าใช้จ่ายและภาษีอากร โดยเปรียบเทียบกับเงินประกันผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำปีละ 230 ล้านบาท จำนวนใดมากกว่าให้ชำระตามจำนวนที่มากกว่านั้น ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2545 เป็นต้นไปจนสิ้นสุดสัญญา
4. ให้ สปน. คืนเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่บริษัทฯ ได้ชำระเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2546 ในส่วนที่เกินจากข้อ 3 เป็นเงิน 570 ล้านบาท และ 5. ให้บริษัทฯ สามารถออกอากาศ Prime Time คือ ระหว่างเวลา 19.00-21.30 น. โดยไม่ถูกจำกัดประเภทของรายการ ทั้งนี้ ให้บริษัทฯ เสนอรายการข่าว สารคดี และสารประโยชน์ในสัดส่วนเวลาทั้งหมดเพียงร้อยละ 50

อย่างไรก็ดี เนื่องจาก สปน.เห็นว่าคำชี้ขาดดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายเนื่องจากเป็นคำชี้ขาดที่ไม่อยู่ในขอบเขตของสัญญาอนุญาโตตุลาการและเกินขอบเขตแห่งข้อตกลงในการเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการ เป็นคำชี้ขาดที่เกี่ยวกับข้อพิพาทที่ไม่สามารถระงับโดยอนุญาโตตุลาการ และการที่จะยอมรับหรือบังคับตามคำชี้ขาดนั้นจะเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมของประชาชนจึงยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลางเพิกถอนคำชี้ขาดดังกล่าว

ทั้งนี้ การตัดสินของศาลปกครองกลางดังกล่าวทำให้ ITV ต้องดำเนินการตามสัญญาสัมปทานเดิม คือ ต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาสัมปทาน ปีละกว่า 1,000 ล้านบาท จากปัจจุบันที่จ่ายค่าสัมปทาน 230 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่ผังรายการต้องมีสัดส่วนข่าว 70% และบันเทิง 30% ซึ่งจะมีผลต่อรายได้และกำไรของ ITV อย่างมีนัยสำคัญ

- ทนาย ITV จะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองภายใน 30 วัน
นายชัยวัธ มะระพฤกษ์วรรณ ทนายความ ITV เปิดเผยภายหลังศาลปกครองกลางตัดสินเพิกถอนคำสั่งชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการไม่ชอบด้วยกฎหมายว่า บริษัทฯ เตรียมที่จะยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการรวบรวมข้อมูลประมาณ 1
สัปดาห์
ทั้งนี้ ในส่วนของการเพิกถอนนั้นมี 3 ประเด็น คือ การชดเชยค่าเสียหายจำนวน 20 ล้านบาทในกรณีที่กรมประชาสัมพันธ์อนุญาตให้ช่อง 11 มีโฆษณา ประเด็นที่ 2 ในเรื่องการจ่ายค่าสัมปทานให้กับสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) อาจจะต้องกลับไปจ่ายในอัตราเดิมที่ประมาณหลักพันล้านบาทต่อปี และประเด็นที่ 3 สัดส่วนรายการของไอทีวีที่ตามอนุญาโตตุลาการได้ตัดสินให้สัดส่วนในช่วงไพร์มไทมคือ รายการข่าวอัตรา 50% และรายการบันเทิง 50% จากเดิมที่จะต้องมีสัดส่วนรายการข่าว 70% และรายการบันเทิง 30%
นายชัยวัธ กล่าวว่า สำหรับความคาดหวังในเรื่องผลการตัดสินมองว่าพลิกความคาดหมาย เนื่องจากไม่คิดว่าจะแพ้ถึงขนาดนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะชนะในร้อยเปอร์เซ็นต์

- บิ๊ก ITV เผยยอมรับคำตัดสินศาลปกครองกลาง แต่จะใช้สิทธิอุทธรณ์ตามกม.
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ประธานกรรมการบริหาร ITV เปิดเผยว่า เคารพต่อคำตัดสินของศาลปกครองกลาง และจะขอไปศึกษารายละเอียดคำพิพากษา พร้อมกับจะขอใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์ตามกฎหมายต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป ส่วนเรื่องที่จะทำความเข้าใจกับผู้ถือหุ้น รวมทั้งการตั้งสำรอง ยังคงเป็นเรื่องเร็วเกินไปที่จะพูดตอนนี้
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวต่อว่า หลังคำตัดสินของศาลปกครองกลางในวันนี้ ITV ยังมีเวลาพอที่จะปรับปรุงและเตรียมพร้อมในทุกๆ ด้าน และ ITV ยังคงดำเนินการตามปกติ จนกว่าบริษัทฯ ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด และรอว่าจะมีคำตัดสินอย่างไร
โดยเฉพาะด้านผังรายการโทรทัศน์ ซึ่งทุกวันนี้ ITV มีรายการด้านสาระ ข่าว 65% และบันเทิง 35% ซึ่งถือว่าไม่มากนัก และหากศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนยันตามศาลปกครองกลาง ITV ก็พร้อมที่จะปรับผังรายการ
ส่วนอนาคตของ ITV คงต้องฝากไว้กับศาลปกครองสูงสุด ที่ ITV จะยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วันนับจากนี้ ส่วนในประเด็นอะไรบ้างนั้น คงไม่เหมาะสมที่จะพูดตอนนี้
สำหรับพันธมิตรร่วมทุนของ ITV เองนั้น ยังคงไม่มีการเจรจาร่วมกัน รวมทั้งผู้บริหารของ ITV เนื่องจากเรื่องคำตัดสินของศาลปกครองกลาง เป็นเรื่องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งออกมาอย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ITV ได้ยึดมั่นมาโดยตลอด ที่จะทำให้สถานีโทรทัศน์ ITV เป็นสถานีที่ดีที่สุด ทั้งข่าวสาร สาระ และบันเทิง

- สปน.เผยเตรียมนำข้อเท็จจริงประเมินเพื่อสู้คดีต่อ
ด้านนายจุลยุทธ หิรัญสิทธิ์ รองปลัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของไอทีวีจะต้องจ่ายค่าสัมปทานในอัตรา 230 ล้านบาทต่อปี จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ส่วนการปรับผังรายการสัดส่วนรายการจะขึ้นอยู่กับทางไอทีวีจะเป็นผู้พิจารณาเอง
ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าทาง สปน.จะประชุมเพื่อนำข้อเท็จจริงมาประเมินอีกครั้งเพื่อต่อสู้กับคดีต่อไป ส่วนมูลค่าที่ไอทีวีจะต้องจ่ายย้อนหลังนั้นตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากรายละเอียดบางข้อนั้นอาจจะต้องมีการคิดคำนวณดอกเบี้ยเข้ามาด้วย

- ซีมิโก้ประเมิน ราคาเหมาะสม ITV เหลือแค่ 4 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO ประเมินสถานการณ์หุ้น ITV ว่าศาลปกครองกลางเพิกถอนคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ ตามการร้องขอของ สปน. จะทำให้ ITV กลับมาจ่ายค่าสัมปทานเท่าเดิม คือ ปีละกว่า 1 พันล้านบาท และถูกจำกัดด้านการจัดผังรายการ จะทำให้ราคาหุ้นที่เหมาะสมลดลงเหลือ 4 บาท อย่างไรก็ตาม ITV ได้เตรียมอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไปแล้ว

- ซิกโก้ ระบุขาดทุนทันที 3 ปีซ้อนแนะขายลดความเสี่ยง
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซิกโก้กล่าวว่า หลังจากศาลปกครองกลางมีคำสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการกรณี ITV คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของ ITV ซึ่งประเมินว่าหากทาง ITV ต้องจ่ายส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาสัมปทานปีละ 1,000 กว่าล้านบาทจริง จะส่งผลให้ ITV ขาดทุนเป็นเวลาติดต่อกันถึง 3 ปี
ทั้งนี้ ประเมินว่าคำตัดสินดังกล่าวยังไม่มีผลชัดเจนในขณะนี้ เนื่องจากทาง ITV คงต้องมีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดเพื่อพิจารณาตัดสินชี้ขาดอีกครั้ง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าต้อง ใช้เวลาสักระยะ และยังไม่น่าสรุปผลได้ในปีนี้
เรื่องยังไม่จบ เพราะคดียังไม่สิ้นสุด ต้องรอยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดให้พิจารณาซึ่งหากศาลปกครองสูงสุดตัดสินชี้ขาดเป็นเช่นใดก็เป็นไปตามนั้น ซึ่งหากต้องจ่ายค่าสัมปทานปีละ 1 พันล้านบาทและต้องเสียค่าสัมปทานย้อนหลังอีกประมาณ 1,500 ล้านบาท จะทำให้ ITVพลิกจากกำไรเป็นขาดทุนทันที ซึ่งแน่นอนว่ากรณีที่เกิดขึ้นส่งผลให้ราคาหุ้น ITV เคลื่อนไหวไม่ค่อยดีนัก
อย่างไรก็ตาม ประมาณการผลประกอบการปีนี้มีรายได้ 2,574 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 799 ล้านบาท โดยแนะนำนักลงทุนขายลดความเสี่ยง

- KESTคาดถ้าศาลสูงสุดตัดสินยืนตามศาลปกครองกลางกำไรปีนี้ 750 ล้านบาท ต้องพลิกเป็นขาดทุน 700 ลบ.
นางสาวสุทธาทิพย์ พีรทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย)กล่าวว่าการที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการกรณี ITV อาจส่งผลให้ทาง ITV ต้องจ่ายค่าสัมปทานตามเดิมปีละ 1,000 ล้านบาทซึ่งจะสะท้อนให้กำไรสุทธิลดลงจนมีผลเป็นขาดทุน
แต่ทั้งนี้ คงต้องรอผลการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดอีกครั้งว่ามีผลเป็นเช่นใด หลังจากทาง ITV เตรียมยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน โดยหากศาลปกครองยืนยันคำตัดสินตามศาลปกครองกลางก็ส่งผลให้ผลประกอบการปีนี้ขาดทุนทันที จากปัจจุบันที่ประมาณการรายได้รวมไว้ที่ 2.5 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 750 ล้านบาท
ผลประกอบการมีแนวโน้มพลิกเป็นขาดทุนหากศาลปกครองสูงสุดพิจารณาเสร็จทันปีนี้และยืนยันตามศาลปกครองกลางโดยจากเดิมที่คาดกำไรปีนี้ 750 ล้านบาท ต้องขาดทุนเป็น 700 ล้านบาทแทนซึ่งต้องขาดทุนติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 3ปีโดยประมาณ
อย่างไรก็ดี ขณะนี้คงราคาเหมาะสมของ ITV ไว้ที่ 14.50 บาท แต่หากศาลปกครองสูงสุดยืนยันเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการตามศาลปกครองกลางต้องปรับลดราคาเหมาะสมของ ITV เหลือ 5.20 บาท

- ฟาร์อีสท์ คาดคำตัดสินของศาลปกครองสูงสุดเป็นเป็นทิศทางเดียวกับศาลปกครองกลาง
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟาร์อีสท์ กล่าวว่าการตัดสินของศาลปกครองกลางกรณีให้ ITV ต้องจ่ายค่าสัมปทานย้อนหลัง รวมถึงจ่ายค่าสัมปทานปีละ 1,000 กว่าล้านบาทยังไม่ถือเป็นผลชี้ขาด เนื่องจากขณะนี้ทาง ITV ยังจ่ายค่าสัมปทานในอัตราเดิมที่ขั้นต่ำ 230 ล้านบาท โดยขณะนี้ต้องรอผลการตัดสินของศาลปกครองสูงสุดว่าเป็นเช่นใด แต่จากผลตัดสินของศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการก็ถือเป็นสัญญาณที่ศาลปกครองสูงสุดจะตัดสินในทิศทางเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ประเมินราคาเหมาะสมอยู่ที่ 20 บาท และหากศาลปกครองสูงสุดสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ
ประเมินราคาเหมาะสมจะลดลงเหลือ 6.95 บาท และหากคำนวณรวมกับอัตราดอกเบี้ยค้างจ่ายย้อนหลังอาจต้องปรับลดประมาณการราคาเหมาะสมลงอีก

-ITV พังพาบติดฟลอร์ หลังศาลปกครองมีคำสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้น ITV ราคาปรับตัวลงแรงเกือบติดฟลอร์ หลังจากศาลปกครองกลางมีคำสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการกรณีสัมปทาน โดย ณ เวลาประมาณ 14.43 น. ราคาหุ้นอยู่ที่ 6.80 บาท ลดลง 2.55 บาท หรือ 27.27% มูลค่าการซื้อขาย 979.97 ล้านบาท โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปต่ำสุดที่ 6.65 บาท ลดลงกว่า 28% จากนั้นได้ปิดตลาดที่ระดับ 6.55 บาท ลดลง 2.80 บาท หรือ 29.95%มูลค่าการซื้อขาย 1,737.68 ลบ.

- วงการชี้ นลท.แห่เทกระจาดเพราะหวั่นศาลปกครองสูงสุดตัดสินยืนตามศาลปกครองกลาง
แหล่งข่าวจากวงการหลักทรัพย์ กล่าวว่า การรุมเทขายหลักทรัพย์ ITV ของนักลงทุนวันนี้ เป็นเพราะเห็นว่ารายได้และกำไรของ ITV จะได้รับผลกระทบจากผลการตัดสินของศาลอย่างชัดเจน ประกอบกับคาดการณ์ว่าศาลปกครองสูงสุดจะตัดสินยืนไปในทิศทางเดียวกับศาลปกครองกลาง นอกจากนั้น นักวิเคราะห์หลายสำนักได้พากับปรับลดราคาเหมาะสมลงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ ในกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดตัดสินยืนตามศาลปกครองกลาง จึงส่งผลให้นักลงทุนชิงเทขายหุ้นออกมาก่อนเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากผลกระทบดังกล่าว


ที่มา efinancethai.com[/color:372c182555">