คณะรัฐมนตรีอนุมัติปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานใหม่ นำค่า FT เดิมมาบวกค่า
ไฟฟ้าฐาน ซึ่งต้องจับตาราคาก๊าซฯ หากปรับเพิ่มขึ้นเกินราคาฐาน FTงวดใหม่ (ต.ค.-
ม.ค.) ปรับขึ้นแน่นอน โดยคาดว่าน่าจะปรับเพิ่มสูงสุดประมาณ 4-5 สตางค์/หน่วย
นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ค.ร.ม.)
ได้อนุมัติให้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ หลังจากใช้มานานกว่า 5 ปี หรือใช้มาตั้งแต่
ปี 2543 เริ่มตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2548 โดยโครงสร้างใหม่นี้จะมีการปรับปรุงทุก 3 ปี และโครงสร้าง
ค่าไฟฟ้าใหม่ ประกอบไปด้วยโครงสร้างค่าไฟฟ้าฐาน และค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (FT) เช่น ในสูตร
ปัจจุบัน แต่ในส่วนของ FTจะมีการปรับเปลี่ยนทุก 4 เดือน แต่ปรับให้ดีกว่าสูตรเดิม โดยให้ปรับ
เปลี่ยนลอยตัวตามราคาเชื้อเพลิงเท่านั้น แล้วตัดเรื่องภาระอัตราแลกเปลี่ยนและเงินเฟ้อออกไป
ซึ่งนับว่าเป็นส่วนดีต่อผู้บริโภค
ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เนื่องจากการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าครั้งนี้ มาตรฐาน
การคำนวณปรับสูงขึ้นเนื่องจากปัจจัยเชื้อเพลิงและอื่นๆ ดังนั้น ค่าไฟฟ้าฐานใหม่ก็จะรวม FT
ปัจจุบันมาไว้ด้วยกัน ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าฐานใหม่ จะอยู่ที่ 2.72 บาทต่อหน่วยจากเดิม 2.25 บาท
ต่อหน่วยซึ่งใช้กันมาตั้งแต่ปี 2543 ส่วนราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นฐานคำนวณค่าไฟฟ้าจะเปลี่ยน
จากราคาเดิมที 115 บาทต่อล้าน BTU เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 165 บาทต่อล้าน BTU
ส่วนค่า FT ใหม่ที่เริ่มกำหนดจาก 0 ซึ่ง FT งวดใหม่ (ต.ค.-ม.ค.) จะมีการปรับขึ้นหรือ
ลงนั้นจะต้องรอดูราคาเชื้อเพลิงเฉลี่ยย้อนหลัง 4 เดือน (มิ.ย.-ก.ย.) ว่า จะปรับขึ้นหรือลงจากราคา
เชื้อเพลิงฐานหรือไม่ โดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นเชื้อเพลิงหลักผลิตกระแสไฟฟ้าที่
หากราคาเปลี่ยนแปลงจากราคาฐานที่ 165 บาท/ล้านBTU หากสูงกว่าฐาน ค่า FT ก็จะปรับเพิ่ม
หากต่ำกว่าค่า FT ก็จะติดลบ ทำให้ค่าไฟฟ้าถูกลงกว่า 2.25 บาท/หน่วย
นายไกรสีห์ กรรณสูต กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กฟผ. กล่าวถึงต้นทุนเชื้อเพลิง
ในการผลิตไฟฟ้า ว่า ปัจจุบันใช้ก๊าซธรรมชา เพื่อผลิตไฟฟ้าประมาณ 70 - 75% น้ำมันเตา 10 -
13% พลังงานน้ำ 5 - 6% และถ่านหินประมาณ 12 - 14%
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพลังงานว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้า FT ในงวดใหม่ (ตุลาคม-
มกราคม ) มีแนวโน้มปรับขึ้นแน่นอน เพราะ กฟผ. มีการใช้น้ำมันเตาเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียว
กันราคาก๊าซธรรมชาติ ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากราคาฐานที่ 165 บาท/ล้าน BTU โดยคาดว่าจะ
เพิ่มขึ้นประมาณ 7-8 บาท/ล้าน BTU ขณะที่ทุกๆ 1 บาท ของราคาก๊าซฯ ที่เปลี่ยนแปลง จะมีผล
ต่อค่าFTประมาณ 0.6 สตางค์/หน่วย โดยคาดว่า ค่า FT น่าจะปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดไม่เกิน 4.8-5
สตางค์/หน่วย ทั้งนี้ เนื่องจากต้นทุนสูตรคำนวณราคาก๊าซฯ นั้นประมาณ 30% นั้นผันแปรตาม
ราคาน้ำมันที่ในช่วง 1-2 ปีราคาสูงขึ้นโดยตลอด

ที่มา : น.ส.พ.กระแสหุ้น[/color:690ae1f5ed">

ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3