May 3, 2024   12:26:24 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > POWER กับดีลพิสดาร จงใจหรือไร้เดียงสา????
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 29/05/2006 @ 08:07:57
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯออกมาสั่งให้บริษัท เพาเวอร์-พี จำกัด(มหาชน)หรือPOWERชี้แจงข้อมูลงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2549 ซึ่งผู้สอบบัญชีไม่อาจสรุปผลการสอบทานได้ ทำให้เห็นประเด็นข้อสงสัยที่ไม่ชอบมาพากลดังนี้

1.ทำไม POWER ต้องจ่ายเงินงวดแรกจำนวน 60 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้นบริษัท แอล.วี.ซี.ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด หรือ LVCD ทั้งที่ยังไม่มีการเข้าไปทำการตรวจสอบรายละเอียด(Financial Due Diligent)เลย
2.ทำไม POWER ยังจ่ายเงิน(งวดที่ 2) จำนวน 35 ล้านบาท ให้กับLVCD ทั้งๆ ที่รู้ว่ามูลค่าของ LVCD อยู่ต่ำกว่าราคาซื้อขายในครั้งนี้ ซึ่งมีสิทธิที่จะถูกยกเลิกดีลดังกล่าวได้ตลอดเวลา

3. ทำไม POWER จึงตีเงินค่าหุ้นที่จ่ายไปก่อนรวม 95 ล้านบาท ให้กลายเป็นลักษณะของเงินกู้ยืม ทั้งๆที่บุคคลที่รับเงินไป(ลูกหนี้) คือกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มตระกูลวิศวธีระนนท์หาใช่ LVCD ไม่ทั้งนี้การลงบัญชีงบการเงินของ LVCD จะไม่สามารถบันทึกมูลเหตุแห่งหนี้ว่าได้กู้ยืมมาจากPOWER จริง เพราะในเมื่อเงินจำนวนดังกล่าวไม่ได้เข้าบริษัท

4.ความเสี่ยงจากข้อที่ 3 ที่มีการแปลงเงินค่าหุ้นให้กลายเป็นเงินกู้(หวังกินดอกเบี้ย)มีความชัดเจนมากขึ้นว่า เงินจำนวน 95 ล้านบาท เป็นเงินกู้ที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงสูง(มาก)ประเด็นนี้ผู้บริหารPOWER จะตอบคำถามนี้กับผู้ถือหุ้นและตลาดหลักทรัพย์ว่าอย่างไร
5.ทำไม POWER ถึงให้กลุ่มตระกูลวิศวธีระนนท์ ในฐานะผู้ขายหุ้น LVCD มีการผ่อนชำระคืนที่นานข้ามปี(12 งวด ตั้งแต่ 30 มิ.ย.49 - 11พ.ค. 50) ทั้งที่ตอนแรก POWERได้จ่ายเงินให้ในลักษณะที่เป็นเงินก้อนโต
6.ในกรณีที่กลุ่มตระกูลวิศวธีระนนท์ ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ผู้บริหารPOWERจะตีเป็นหนี้สูญหรือไม่

อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่สำนักงานก.ล.ต.จะลงมาดูและเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง โดยสามารถใช้อำนาจที่มีอยู่ตรวจสอบเส้นทางการเงินของเม็ดเงินจำนวนดังกล่าวว่ารอไว้ก่อน ว่า ไปโผล่อยู่ในบัญชีของใคร

-จุดเริ่มของดีลประหลาด
การที่บมจ.เพาเวอร์-พี หรือPOWER สนใจเข้าไปซื้อหุ้นบริษัท แอล.วี.ซี.ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัดหรือLVCD ในสัดส่วน 99.99 % คิดเป็นเม็ดเงินจำนวน 119.99ล้านบาท ถูกเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 27ตุลาคม 2548 โดยมีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มตระกูลวิศวธีระนนท์เป็นผู้เสนอขาย

วัตถุประสงค์ของการลงทุนครั้งนี้เพื่อขยายขอบเขตการให้บริการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของบริษัทฯ โดยมีการกำหนดราคา และตกลงซื้อขายที่ราคาพาร์ (หุ้นละ 1,000 บาท) เนื่องจากเป็นราคาพื้นฐานเบื้องต้นที่ตกลงและพอใจของคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย

โดยเป็นราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ1,033.50 บาทต่อหุ้น และเป็นราคาที่มีความเหมาะสม เนื่องจากมูลค่าตามบัญชีสุทธิของLVCD ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 มี จำนวนเท่ากับ 124.02 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าราคาจ่ายซื้อ ประกอบกับLVCD เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานราชการ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงานมูลค่าประมาณ 674.72 ล้านบาท

สำหรับเหตุการณ์ที่POWER เข้าไปถือหุ้นใน LVCD เกิดขึ้นจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่งเป็นตัวกลางในการติดต่อ โดยในช่วงที่ผ่านมาทาง POWER มีความประสงค์ต้องการหาบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดเล็กที่มีมูลค่างานในมือ(backlog) จำนวนมาก ซึ่งประจวบเหมาะกับที่นาย เลี้ยง วิศวธีระนนท์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ LVCD ต้องการที่จะขายกิจการทั้งหมดเนื่องจากมีอายุมากแล้ว รวมถึงลูกหลานก็ไม่มีใครต้องการดำเนินธุรกิจต่อ จึงทำให้เกิดการพบกัน และดีลการซื้อหุ้นก็เกิดขึ้น

ทั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงที่ POWER ต้องการหาบริษัทที่มีมูลค่างานในมือเยอะ เพื่อมาเป็นสตอรี่ที่จะส่งผลดีต่อราคาหุ้น ประกอบกับต้องการนำบริษัทดังกล่าวมาอุดรอยรั่ว ของบริษัทเองที่มีผลประกอบการที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก ซึ่งถ้าดีลการเจรจาดังกล่าวเป็นผลสำเร็จมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ผลประกอบการในไตรมาส 1/2549 ดีกว่าที่เป็นอยู่
ในเมื่อการเจรจาซื้อหุ้น LVCD ไม่สำเร็จ อะไรคือผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับ POWER ???

-ดีลแห่งความแคบแคลง
ภายหลังจากที่ บมจ. เพาเวอร์-พี ได้นำส่งงบการเงินสิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2549 ทำให้ผู้สอบบัญชีไม่อาจสรุปผลการสอบทานได้ ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ฯชี้แจงให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่การเจรจาซื้อหุ้นLVCD ไม่สำเร็จ ให้ละเอียดมากกว่านี้

โดยเฉพาะช่วงที่ POWER จ่ายเงินค่าหุ้นงวดแรกจำนวน 60 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้นบริษัทแอล.วี.ซี.ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด(LVCD) วันที่ 31 ตุลาคม 2548 ซึ่งห่างจากวันที่มีประชุมคณะกรรมการของ POWER เพียง 5 วันเท่านั้น(26ต.ค.) ขณะที่แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯในวันถัดมา(27 ต.ค.)
การตัดสินใจชำระเงินจำนวน 60 ล้านบาท เป็นค่าหุ้นงวดแรกนั้น ในระยะเวลาที่รวดเร็วนั้น ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการเข้าไปทำการตรวจสอบรายละเอียด (Financial DueDiligent)เลย

ในขณะที่รายละเอียดของการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ มีเงื่อนไขว่า
บริษัทขอสงวนสิทธิการเปลี่ยนแปลงราคาซื้อขาย /ยกเลิก ในกรณีที่มูลค่ายุติธรรมของLVC ตามรายงานการทำการตรวจสอบรายละเอียด (Financial Due Diligent) มีมูลค่าต่ำกว่าราคาซื้อขายในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือนนับจากวันลงนามในสัญญาจะซื้อจะขาย
อะไรคือสิ่งที่ทำให้การตรวจสอบรายละเอียด (Due Diligent) ก่อนที่จะลงทุนครั้งนี้ ถึงถูกละเลยจากผู้บริหารของ POWER

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่เชื่อมต่อจากการชำระค่าหุ้นงวดแรก ซึ่งการจ่ายเงินงวดที่2 จำนวน 35 ล้านบาท จะไม่เกิดขึ้นอีกเลย ถ้ามีการตรวจสอบภายหลังจากที่ทำสัญญาซื้อขายไปแล้ว 1 เดือนอย่างที่บริษัทเคยชี้แจงไว้ เพราะดีลการจ่ายเงินครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2549

อะไรคือสิ่งจูงใจที่ทำให้POWER จ่ายค่าหุ้นงวดที่ 2 ทั้งๆ ที่รู้ว่ามูลค่าของ LVCDอยู่ต่ำกว่าราคาซื้อขายในครั้งนี้ ซึ่งในกรณีนี้ผู้บริหารPOWER ก็รู้อยู่เต็มอกแล้วว่าไม่เกิดประโยชน์แน่นอน

ความผิดพลาดครั้งแรกในการจ่ายค่าหุ้นยังพอทำเนา แต่ในกรณีที่ยังจ่ายเงินซ้ำอีกเป็นงวดที่ 2 อย่างนี้ คงจะอ้างเป็นประเด็นอื่นไม่ได้แล้วกระมัง???

อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์การชำระเงินงวดที่ 2 เสร็จสิ้น ก็เกิดการล้มดีลซื้อหุ้นเมื่อผู้ตรวจสอบบัญชีพบความผิดปกติบางอย่าง ทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้นว่า ทำไม POWERจึงตีเงินค่าหุ้นที่จ่ายไปก่อนเป็นเงินกู้ยืมของ LVCD

ความไม่ชอบมาพากลนี้แสดงให้เห็นว่า บุคคลที่รับเงินไป(ลูกหนี้) คือกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มตระกูลวิศวธีระนนท์ หาใช่ตัวบริษัทไม่ แถมยังมีการชี้แจงว่าLVCD จะเป็นลูกหนี้ของบริษัท

การลงบัญชีของ LVCD ที่ผู้บริหาร POWER อ้างว่าจะแปลงค่าหุ้นเป็นเงินกู้ยืม จะทำได้อย่างไร เพราะในเมื่อถึงเวลาการลงบัญชีงบการเงินดังกล่าวตามกฎของมาตรฐานทางบัญชี ไม่สามารถบันทึกมูลเหตุแห่งหนี้ได้ว่า LVCD ได้กู้ยืมมาจากPOWER จริง เนื่องจากในความเป็นจริงแล้วเงินจำนวนดังกล่าวไม่ได้เข้าบริษัท แต่กลับจ่ายให้กับผู้ถือหุ้น

นอกจากนี้ถ้าเงินจำนวนดังกล่าวถูกแปลงเป็นเงินกู้จริง ประโยชน์ที่POWER จะได้รับในฐานะผู้ปล่อยกู้ คือ ดอกเบี้ย ที่กลุ่มวิศวธีระนนท์จะต้องจ่าย แต่ในขณะเดียวกันถือว่ามีความเสี่ยงมาก เนื่องจากเงินกู้ยืมดังกล่าวเปรียบได้กับเงินกู้ที่ไม่มีหลักประกัน ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงสูง(มาก) ยิ่งภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ การปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ในแต่ละครั้งคงต้องมีการตรวจสอบแล้ว ตรวจสอบอีกว่ามีหลักประกันใดที่จะมาสร้างความมั่นใจได้ว่าจะได้เงินคืนครบตามกำหนด

สำหรับประเด็นความน่าสงสัยต่อมา มีอยู่ว่า ทำไม POWER ถึงมีการผ่อนปรนให้กลุ่มตระกูลวิศวธีระนนท์ สามารถชำระคืนได้นาน 12 งวด โดยให้เวลาตั้งแต่วันที่ 30มิถุนายน 2549 - 11 พฤษภาคม 2550 ทำไมผู้บริหารPOWER จึงไม่ให้กลุ่มตระกูลวิศวธีระนนท์ คืนเงินกลับมาทั้งหมดทันที เพราะถึงขนาดแค่การคืนครึ่งหนึ่งก่อน ก็ถือว่าแย่พอแล้วสำหรับผู้ถือหุ้นPOWER แต่กรณีนี้กลับยึดนานออกไปเกือบ 1 ปีเต็ม

สิ่งที่เป็นเหตุผลทำให้กลุ่มตระกูลวิศวธีระนนท์ ไม่สามารถคืนเงินกลับมาได้ทันที ทั้งๆที่ตอนแรก POWER ได้จ่ายเงินให้ในลักษณะที่เป็นเงินก้อนโต (คงจะเป็นไปได้ยากที่เงินจำนวนเกือบ 100 ล้านบาท ได้หายไป)
ตลาดหลักทรัพย์ฯมีสิทธิที่จะขอเหตุผลของกลุ่มตระกูลวิศวธีระนนท์ ในกรณีที่ไม่สามารถคืนเงินค่าหุ้นได้ โดยไม่ต้องรอนานถึงข้ามปี

ทั้งนี้ในกรณีที่แย่ที่สุด กลุ่มตระกูลวิศวธีระนนท์ ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ผู้บริหารPOWER จะตีเป็นหนี้สูญหรือไม่ และถ้าเกิดผู้ถือหุ้นของLVCD ไม่อยู่ในประเทศ แล้วอย่างนี้ใครจะรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใดที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะส่งซิกให้สำนักงานก.ล.ต.มาช่วยดูแลและตรวจสอบอะไรไปพลางๆ ก่อน เพราะถ้าเกิดกลุ่มผู้ถือหุ้นของLVCD ไม่สามารถที่จะชำระเงินคืนได้ตามกำหนด ก็สามารถนำหลักฐานที่ได้มาใช้เป็นข้อมูลได้ทันที

เพราะอำนาจของตลาดหลักทรัพย์ฯที่มียังอาจไม่สามารถอืมไปถึงได้ ในขณะที่ ก.ล.ต.สามารถใช้อำนาจที่มีอยู่ในการตรวจสอบเส้นทางการเงินของเม็ดเงินจำนวนดังกล่าวว่าตอนนี้เงินจำนวน 95 ล้านบาท ได้เข้าไปอยู่ในบัญชีของใครแล้ว (หวังว่าคงไม่ซ้ำรอยกับกรณีถังแก๊ส )


ที่มา ข่าวหุ้น[/color:f90a6caad6">

 กลับขึ้นบน
am
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 123
#1 วันที่: 29/05/2006 @ 09:39:14 : re: POWER กับดีลพิสดาร จงใจหรือไร้เดียงสา????
.0005 .0000 ฟฟฟฟ3
 กลับขึ้นบน
lookwa
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 397
#2 วันที่: 29/05/2006 @ 21:18:31 : re: POWER กับดีลพิสดาร จงใจหรือไร้เดียงสา????
อืมส์...แล้วราคาที่น่าเข้าน่ะเท่าไรคะอาฟง-ฟันธงหน่อยจิ .000b .000b [/color:391f63ded2">[/size:391f63ded2">
 กลับขึ้นบน
NIKKEI
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 146
#3 วันที่: 29/05/2006 @ 21:41:35 : Re: re: POWER กับดีลพิสดาร จงใจหรือไร้เดียงสา????
[quote:590f9f6e62=lookwa"> อืมส์...แล้วราคาที่น่าเข้าน่ะเท่าไรคะอาฟง-ฟันธงหน่อยจิ .000b .000b [/color:590f9f6e62">[/size:590f9f6e62">[/quote:590f9f6e62">


.0008 คัสไป 7.15 บาท แล้วไม่เข็ด .0008
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#4 วันที่: 29/05/2006 @ 22:14:49 : Re: re: POWER กับดีลพิสดาร จงใจหรือไร้เดียงสา????
[quote:e3342d696d=lookwa"> อืมส์...แล้วราคาที่น่าเข้าน่ะเท่าไรคะอาฟง-ฟันธงหน่อยจิ .000b .000b [/color:e3342d696d">[/size:e3342d696d">[/quote:e3342d696d">

.0008 .0008 ว่าแต่ส่งธงไปให้ท่านอาฟงฟันรึยังล่ะคะ....

เด๋วถ้าได้ยินเสียง ชั๊วะๆๆ แล้วห้ามตกใจ น๊า... ๆ ๆ ขอบอกๆๆๆ.... .0003[/color:e3342d696d">[/size:e3342d696d">
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com