นักลงทุนต่างหลบลี้หนีหน้าหายไปจากตลาดหุ้น
แต่ผู้บริหารของ SMIT กลับเดินหน้าเข้ามาเก็บหุ้นเข้าพอร์ตตัวเองอย่างไม่ลดละ
นับตั้งแต่ต้นปี 2549 นะจะบอกให้

*โดยช่วงที่ผ่านมา ชัยศิลป์ แต้มศิริชัย กรรมการผู้จัดการ และ ปิยะนุชแต้มศิริชัย ลูกสาว ทยอยเก็บหุ้นไปแล้ว 2.5 แสนหุ้น
ในขณะที่ ปรางทิพย์ ศิวรักษ์ผู้บริหารสาวสวย แถมน่ารักอีกต่างหาก
ควักเงินซื้อหุ้นเก็บเข้าพอร์ตไปรวมเบ็ดเสร็จ4 แสนหุ้น
รวมถึง ธนา เสนาวัฒนกุล 313,400 หุ้น ไม่รู้ว่ามีอะไรดีถึงได้พร้อมใจกันขนาดนี้

*แต่เท่าที่รู้มา เป็นเพราะราคาหุ้นต่ำกว่าพื้นฐานเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชีปัจจุบันอยู่ที่ 2.21 บาท
ถือว่าอยู่สูงกว่าราคาหุ้นในกระดานอยู่หลายอัฐ
งานนี้ไม่มีใครเห็นของดีราคาถูกนอกจากผู้บริหารอีกแล้ว

*ทั้งนี้ได้ข่าวแววมาว่า ชัยศิลป์ แต้มศิริชัย เอ็มดีหนวดงาม เพิ่งจะกลับจากไปสโรวีเนีย มาแบบสดๆ ร้อนๆ ไม่
โดยการไปครั้งนี้เพื่อไปดูเครื่องจักรใหม่ๆ แต่ไม่รู้ว่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือมาหรือปล่าว
อันนี้ โมนิก้า ไม่ขอยืนยันคะ แต่เท่าที่รู้ถ้าลองให้เอ็มดีหนวดงามคนนี้
ขยับสนใจอะไรแล้วละก้อ รับรองเป็นต้องมีข่าวดีมาฝากนักลงทุนอย่างแน่นอนคะ

*เท่าที่รู้ข่าวดีของ SMIT ที่กำลังจะคลอดคือ เรื่องโรงชุบที่ใกล้จะเริ่มสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้แล้ว
โดยล่าสุดมีความคืบหน้าไปแล้วไม่ต่ำกว่า 90 % และคาดว่าประมาณปลายเดือนมิถุนายน นี้เห็นได้แน่นอนคะ
และจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2549 เป็นต้นไปคะ

*สำหรับกระทาชายที่ชื่อ บรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการ ของ PHATRA
ที่ล่าสุดก็ขายหุ้นให้ใครก็ไม่รู้ 1,487,736 หุ้น อันนี้คงไม่น่าแปลกเท่าไร
เพราะพี่ท่านขายมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
แต่เรื่องที่แปลกก็คือ ราคาหุ้นที่ขายยกล็อตนั้น ทำมาย ทำไม ถึงขายที่ราคาเพียง 6.49 บาทเท่านั้น
ทั้งๆ ที่ราคาหุ้นในกระดานอยู่สูงกว่า 40 บาทต่อหุ้น อันนี้อยากจะให้ชี้แจงว่าเพราะอะไร โมนิก้า เปิดสายรออยู่นะคะ
จะได้รู้ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไง ล่าสุดราคาหุ้นปิดที่ 43 บาท ลบไป 1.75 บาท

*สำหรับ CSP ศูนย์บริการเหล็กครบวงจร ที่ปรับตัวขึ้นอย่างไม่เกรงอก เกรงใจคนอื่นๆ ที่ติดตัวแดงกันทั้งตลาดแบบนี้
แสดงให้เห็นว่าตอนนี้นักลงทุนรายย่อยต้องการข่าวดีสำหรับการเก็งกำไร
เพื่อมาผลักดันให้ราคาหุ้นพุ่งในช่วงที่หุ้นพื้นฐานทั้งหลายกำลังปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง

*โดยล่าสุดผู้บริหารของบริษัทก็ให้ข่าวดีออกมาว่าไตรมาส 2/49 นี้จะดีกว่าไตรมาส1/49 อย่างแน่นอน
โดยเฉพาะอัตรากำไรขั้นตอนที่จะเพิ่มจากตัวเลขหลักเดียว เพิ่มขึ้นเป็นสองหลักให้เห็นจากปีที่แล้ว
ถือเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันอย่างเห็นได้ชัด ส่วนจะทำได้หรือไม่ได้นั้น เป็นเรื่องของอนาคต
แต่เท่าที่รู้ ในระหว่างวันราคาหุ้นก็พุ่งขึ้นไปสูงที่ 3.72 บาทก่อนจะมาปิดที่ 3.38 บาท บวกไป 0.14 บาท
งานนี้คงต้องมีใครบ้างคนต้องเจ็บตัวแน่....

*ส่วนในรายของ MME ที่ปรับตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงติดฟลอร์ หลุด 10 บาทมาแล้ว
คงต้องพิจารณาให้ดีนะคะ สำหรับคนที่จะเข้าไปร่วมวงไพบูลย์
เพราะราคาหุ้นที่ปรับตัววานนี้ถือเป็นการรีบาวนด์ธรรมดาคะ ไม่มีเหตุผลอื่น
เพราะพรุ่งนี้ (8 มิ.ย.) หุ้นจำนวน 25% ของผู้ถือหุ้นใหญ่จะหลุดไซเรนต์ พีเรียด อย่างไงก็ระวังให้ดีนะคะ

* โมนิก้า เดาเกมนี้(แบบบ้าระห่ำ) กลุ่มของเสี่ยกมล เอี้ยวศิวิกุล คงยังไม่เทขายออกมาแน่ๆ
เพราะต้องดันก่อนทิ้ง แถมประกาศว่า ตนเองมีสิทธิที่จะขายอยู่แล้ว
อาจทำให้นักลงทุนเชื่อว่า งวดนี้ต้องมีทิ้งแน่ๆ
แต่ถ้ามองในความเป็นจริง หากเสี่ยต้องการทำจริง คงต้องออกมาบอกว่า
ผมคงไม่ทิ้งหรอก เพราะยังไม่จำเป็นต้องใช้เงิน

*เดี๊ยนเลยไม่อยากให้ใช้การคาดเดาของเดี๊ยนเป็นบรรทัดฐานในการลงทุนครั้งนี้
เพราะโลกของตลาดทุนก็เปรียบเสมือนหนังชีวิตเรื่อง
เพื่อรักหักเหลี่ยมโหด ซึ่งไม่มีใครไว้ใจได้สักรายนะจะบอกให้เด็กโง่