* ล่าสุด สภาพัฒน์ เผยจีดีพี ไตรมาสแรก ขยายตัวถึงร้อยละ 6
และเชื่อว่าทั้งปีอัตราการขยายตัวจะอยู่ที่ร้อยละ 4.6
เหตุผลหลักคือ เศรษฐกิจไทยแข็งแกร่งเกินคาดแม้ว่าจะเผชิญปัญหาหนัก หลายเรื่องพร้อมกัน

* สิ่งที่น่ากังวลสำคัญของเศรษฐกิจไทยก็เหลือเพียง ภาวะการเมืองที่ยังอยู่ในสภาพตีบตัน
เพราะไร้รัฐบาลที่แท้จริง มีแต่รัฐบาลรักษาการณ์ไปจนถึงเกือบสิ้นปี
เท่ากับโครงการลงทุนใหม่จะเกิดขึ้นไม่ได้ เป็นการเสียโอกาส

* สิ่งที่น่าชื่นชมก็หนีไม่พ้น ภาคเอกชนไทย
ที่แข็งแกร่งเสียจนกระทั่งไม่ต้องรอพึ่งพาอำนาจรัฐเข้ามาหนุนช่วยเป็นหลักเหมือนในอดีต
แก้ปัญหาของตนเองไปได้อย่างราบรื่นด้วยความสามารถในการบริหาร

* อาจจะเป็นเรื่องนี้กระมัง ที่ทำให้ผลสำรวจความสามารถทางการแข่งขันล่าสุดของสำนักต่างชาติ บอกว่า
ไทยเหนือกว่ามาเลเซียเป็นปีแรก เล่นเอานายกฯมาเลเซีย อับดุลลาห์ บาดาวี หนวดกระดิกไปเลย
ต้องลงแส้แมวอ้วนในประเทศกันยกใหญ่ในเวลานี้
เพื่อทวงความเหนือกว่าไทยกลับคืนมาให้ได้โดยเร็ว ก่อนที่จะแพ้จนชิน

*สิ่งที่ย่ำแย่ตอนนี้ก็เห็นจะมีตลาดหุ้นไทยนี่แหละ ที่ยามนี้ ที่ล่าสุดวานนี้ปิดที่ดัชนี702.04 จุด
เพราะฤทธิ์ของราคาน้ำมัน บวกดอกเบี้ยในอเมริกาทำท่าขยับ โอกาสหลุด700 จุดมีให้เห็น
แต่ก็ยืนยันได้ว่า จะไม่ต่ำกว่า 690 จุดอย่างแน่นอน เชื่อขนมกินได้เลยเพราะเข้าเขตขายมากเกินแล้ว

* สาเหตุสำคัญอยู่ที่ต่างชาติยังคงกระหน่ำขายต่อเนื่อง
สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ขายไปแล้ว 3.7 หมื่นล้านบาทแล้ว แต่เม็ดเงินยังเหลืออีกนับแสนล้าน
ส่วนสาเหตุรองลงไป นักลงทุนรายย่อยหันไปสนใจเดิมพันรับบรรยากาศฟุตบอลโลกที่จะเริ่มงานวันที่ 9 มิ.ย.นี้เป็นต้นไป

* สำนักวิจัย 2 ราย รวมทั้ง เอแบคโพลล์ พูดตรงกันว่า พนันบอลโลกปีนี้ จะมีเงินสะพัดแน่นอน
ตัวเลขต่างกันระหว่า 1.4 - 2.5 หมื่นล้านบาท แต่ไม่ว่าจะตัวเลขไหน ก็น่าตื่นใจเท่ากัน
นี่ ขนาดฟุตบอลไทยไม่เคยติดกับเขาสักครั้งยังขนาดนี้ จะแพ้ก็แค่เวียดนามเท่านั้น

* เกียรติก้องแม้จะไม่ใช่เซียนเดิมพันบอล และไม่ได้ดูบอลจนติด แถมไม่มีทีมประจำตัว
ก็ยังอดคึกคักกับใครๆเขาด้วย มันช่วยไม่ได้จริงๆ

* บรรยากาศซึมเซาของตลาดหุ้นยามนี้ ขอบอกให้รู้ว่า เหมาะสำหรับการซุ่มซื้อหุ้นเข้าเก็บในพอร์ตอย่างยิ่ง
ตัวใหญ่หนึ่งที่มองเห็นชัดๆ หนีไม่พ้น PTTEP ที่ตอนนี้ ยืนปักหลักแน่นอยู่ที่ 110 บาท ไม่ยอมลงอีกแล้ว
สัญญาณทางเทคนิกแจ่มแจ๋ว รอขั้นอย่างเดียว ยิ่งราคาน้ำมันจะกลับมารอบใหม่ด้วยแล้ว...อย่าต้องบอกว่าควรทำอย่างไร

* เช่นเดียวกัน ราคาทองคำ ที่ดิ่งลงมาหลายสัปดาห์ ก็เริ่มนิ่งอยู่ที่ฐานอีกครั้งแล้ว
ล่าสุดที่นิวยอร์กอยู่ที่ระดับใต้ 630 ดอลลาร์ต่อเอาน์ซ น่าซื้อเก็บเก็งกำไรเช่นกัน ...
มีทองเท่าหนวดกุ้ง เก็บไว้รอขายตอนขาขึ้น 700 ดอลลาร์อีกรอบเถอะ

* หากไม่ตระหนกกันเกินเหตุเกียรติก้องขอย้ำว่า รอบใหม่ของการทะยานขึ้นจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้อย่างแน่นอน
ไม่ว่าโหรการเมืองที่ไหนจะบอกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ก็ตามที
เพราะ คนไทยเรานั้น ถึงเวลาก็สามารถฝ่าวิกฤตการเมืองได้ไม่ยาก
ตอนนี้ สถานการณ์เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆแล้วว่า โอกาสยุบพรรคการเมืองใหญ่อย่างน้อย 1 พรรค ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ..แน่กว่าแช่แป้ง ขอรับ

* การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนั้น ขอให้มีความชัดเจน ย่อมเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นเสมอ
ยิ่งบริษัทจดทะเบียนได้พิสูจน์มาแล้วว่า แข็งแกร่งกับการรับมือวิกฤติทางธุรกิจได้ดีเพียงใด
ก็ยิ่งชัดเจนว่า ราคาหุ้นที่ต่ำกว่าพื้นฐานเต็มตลาดยามนี้ จะต้องทะยานต่อไปได้อย่างแน่นอน

*ล่าสุด ค่าไฟฟ้ากำลังเตรียมปรับขึ้นระลอกใหม่
เมื่อคณะอนุกรรมการพิจารณาค่าเอฟที. ประกาศขึ้นหน่วยละ 9.6 สตางค์ต่อหน่วย
คิดแล้วค่าไฟที่เราต้องจ่ายจะตกอยู่ที่หน่วยละ 3.10 บาท
คนอยู่อพาร์ทเมนท์ทั้งหลาย เตรียมควักค่าไฟใหม่ได้แล้ว

เกี่ยวกับหุ้น ลองเข้าไปดูสิ

http://www.fizones.com/