????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238 |  วันที่: 14/06/2006 @ 07:32:30 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต นิวยอร์ค เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐยังคงพูดถึงเงินเฟ้อด้วยถ้อยคำที่แข็งกร้าวสนับสนุนการคาดการณ์ในตลาดการเงินที่ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งเมื่อมีการประชุมนโยบายของเฟดในปลายเดือนนี้[/color:1708a65fb8">
มีความเห็นอย่างหนักแน่นว่าคณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีจะเลือกขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 17 ในการประชุมวันที่ 28-29 มิถุนายนนี้ เพื่อดันอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มเป็น 5.25% เพื่อควบคุมราคาสินค้าในสหรัฐที่ปรับขึ้นอย่างน่าเป็นห่วงในช่วงนี้
แซนดรา เพียนาลโต ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ ซึ่งเป็นสมชิกคณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีที่มีสิทธิ์ออกเสียงในการประชุม ได้กล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค(ซีพีไอ)เพิ่มขึ้นในอัตรามากกว่า 3% ต่อปีในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา หากภาพเงินเฟ้อยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปก็จะอยู่ในระดับเกินกว่าที่เธอจะสบายใจได้
อย่างไรก็ดี เพียนาลโต กล่าวว่า หากเศรษฐกิจโตพอประมาณตามที่คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 5% อยู่ใกล้จุดที่จะผ่อนคลายเงินเฟ้อลงอย่างช้าๆ
ด้านซูซาน บีส์ ผู้ว่าการเฟดอีกคนหนึ่งก็ได้วิเคราะห์ในลักษณะเดียวกันว่า อัตราดอกเบี้ยสหรัฐโดยทั่วไปแล้วอยู่ในช่วงที่เฟดต้องการให้เป็น แม้เธอจะไม่มั่นใจว่ามันจะสูงสุดที่ใด นอกจากนี้ยังกล่าวว่า หลังจากที่สหรัฐขึ้นดอกเบี้ยมานาน 2 ปี เศรษฐกิจสหรัฐก็อยู่ในช่วงจุดเปลี่ยนที่ธนาคารกลางจะต้องพึ่งพาเป็นพิเศษต่อข้อมูลที่จะออกมาและต้องดูว่าเศรษฐกิจโตชลอตัวลงตามที่คาดหรือไม่
ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะออกมาระหว่างช่วงนี้จนถึงช่วงที่จะมีการประชุมเอฟโอเอ็มซีครั้งต่อไปคือ รายงานซีพีไอเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะแถลงในวันพุธที่ 14 มิถุนายนนี้
นักวิเคราะห์ในวอลสตรีท คาดว่า ดัชนีซีพีไอหลักของเดือนพฤษภาคมจะปรับตัวขึ้น 0.2% หลังจากที่ได้ปรับขึ้น 0.3% นาน 2 เดือนติดกันกันจนสร้างความไม่สบายใจให้กับตลาดการเงินไปทั้วโลก และสร้างความตึงเครียดให้กับเฟด
ราคาพลังงานก็ยังคงสร้างความกังวลให้กับธนาคารกลางสหรัฐเพราะมีแนวโน้มว่ามันจะกระทบต่อเศรษฐกิจและมีผลไปถึงผู้บริโภค โดยบีส์กล่าวว่า เงินเฟ้อที่เกิดจากน้ำมันมีผลกระทบจำกัด แต่จนถึงขณะนี้มันเริ่มมีผลกระทบมากขึ้น
ริชาร์ด ฟิชเชอร์ ประธานเฟดดัลลัส แม้ไม่ใช่คณะกรรมการที่มีสิทธิ์ออกเสียงในปีนี้ก็แสดงความเป็นห่วงราคาพลังงาน หลังจากที่ตราสารน้ำมันดิบล่วงหน้าซื้อขายกันมากกว่า 70ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์กลัวว่า ยิ่งราคาน้ำมันสูงนานเท่าไหร่ ก็จะทำให้ราคาสินค้าหลักสูงมากขึ้นเท่านั้น
ความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดที่มีท่าทีอันแข็งกร้าวต่อภาวะเงินเฟ้อในเดือนนี้ได้ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง และโอกาสที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้สะท้อนให้เห็นได้จากราคาตราสารดอกเบี้ยระยะสั้นซึ่งพุ่งขึ้นถึง 88% เมื่อวันจันทร์ จาก 82%เมื่อวันศุกร์
ตลาดต่างๆจึงลงความเห็นว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนน่าจะเป็นการขึ้นครั้งสุดท้ายสำหรับขณะนี้ และโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะเพิ่มเป็น 5.5% ในขณะนี้มีประมาณ 33% เมื่อดูจากสัญญาตราสาร
ขณะเดียวกันเชื่อกันว่าธนาคารกลางสหรัฐยังคงกระตือรือล้นที่จะรักษาชื่อเสียงในการต่อสู้กับเงินเฟ้อต่อไปภายใต้การบริหารของเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐคนใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในระดับสูงสุดมากขึ้น
ที่มา ข่าวหุ้น[/color:1708a65fb8">
|
