แนวรับ 600 จุดจะไหวมั๊ย!

หุ้นตกหนักคราวนี้ทำให้ โมนิก้า ต้องไปนั่งทบทวนแนวรับที่แข็งแกร่ง
บริเวณ 600จุด จะต้านทานแรงเทขายที่มีออกมาในระรอกนี้ได้หรือไม่
เพราะสิ่งที่ปรากฎให้เห็นต่อหน้าต่อตาสื่อให้เห็นว่า...
นักลงทุนต่างชาติกำลังถอนตัวออกจากประเทศแถบเอเชีย
แล้วหุ้นมันจะขึ้นได้อย่างไรกันหล่ะ

*โมนิก้า เห็นกระดานหุ้นต่างชาติเมื่อวันอังคารแล้ว ก็คาดการณ์ได้เลยว่า
บ้านเราเปิดมาวันพุธจะต้องแดงเถือกแน่ๆ
แถมได้ข่าวมาว่าเดี๊ยวนี้กองทุนต่างชาติแปลงกายมาเป็นเฮดฟันด์กันหมดแล้ว
ความเร็วกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการลงทุนและทำให้ตลาดหุ้นผันผวนมากขึ้นทุกวี่ทุกวันค่ะ

*จากข้อมูลที่ผ่านมาในแต่ละปี ตลาดหุ้นจะมีช่วงตกต่ำปีละครั้ง
เช่น ปี 2547 ก็ตกลง 21.53 จุด ในช่วงเดือนตุลาคม
ปี 2548 ทรุด 21.60 จุด เดือนกรกฏาคม

ปีนี้ตกไปแล้ว21.89 จุด เมื่อเดือนที่แล้ว
แต่ไฉนวานนี้หุ้นกลับร่วงอีกกว่า 23.72 จุด
เป็นการตกลงเกิน 20 จุดเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน
เอ!หรือจะเป็นลางบอกเหตุบางอย่าง
เพราะตอนนี้บางคนมองโลกในแง่ร้ายไปที่ 500 จุดแล้วค่ะ

*แต่พี่ภัทรียา เบญจพลชัยยังออกมาแอ่นอกรับว่าตลาดหุ้นไทยยังดีอยู่
ที่ผ่านมาเป็นเพราะปัจจัยภายนอกประเทศเท่านั้น ทั้งเรื่องราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ย
และตลาดหุ้นที่ปรับลงแรงก็เป็นจังหวะดีที่นักลงทุนจะเข้าซื้อ
เพราะเมื่อไหร่ที่คนตกใจ หุ้นตกมากๆ ก็สามารถทยอยลงทุนได้ค่ะ

*โมนิก้าได้ฟังแล้วก็ตาเริ่มแดงเพราะมองตลาดหุ้นลงทุกวันแล้วน้ำตาจะไหล
ที่ผ่านมาก็เข้าไปทยอยรับ เพราะคิดว่าตลาดลงสุด ๆ แล้ว
แต่ที่ไหนได้กลับลงเอ๊า ลงเอาทุกวันจนรับไม่ไหว
ต้องมานั่งคอตกมองตลาดหุ้นลงให้ช้ำจิตไปวันๆ
จะไปลงทุน TFEX ก็ยังไม่เซียนพอ
อย่าว่าแต่รายย่อยเถอะ ตอนนี้แม้แต่กองทุนก็ช้อนหักไปตามๆ กันค่ะ

*ถ้าพี่หนุ่ยอยากให้โมนิก้าอยากทยอยซื้อเพิ่ม
โมนิก้าก็ขอยืมเศษเงินของคุณพี่มาช้อนซื้อต่อค่ะ
เพราะจะหวังเงินของโมนิก้านั้นคงไม่ได้แล้ว
ก็เดี๊ยนเทหมดหน้าตัก รักหมดใจไปตั้งแต่ช่วง 650 จุด
ก็ก่อนหน้านี้ใครๆ ก็บอกว่าที่แนวรับนี้แข็งปั๋ง หลุดยาก แต่สุดท้ายก็หลุดจนได้
ป่านนี้ยังหาแนวรับไม่เจอ เศร้าใจเหลือทนค่ะ
ขนาดความหล่อของเจ้าชาย ภูฏานยังไม่สามารถช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของเดี๊ยนได้

*ช่วงนี้ใครอยากได้กำไร ก็ต้องเป็นนักเลือกหุ้นมือฉมังเท่านั้น
อย่าง LH ที่ปรับตัวลงต่อเนื่องมาตลอด ก็ได้เวลาปรับเพิ่มขึ้นแล้ว
ล่าสุดปิดที่ 6.60 บาทเพิ่มขึ้น 0.05 บาท
เดี๊ยนไม่แน่ใจว่าเกิดจากเหตุผลกลใด
หุ้นเสี่ยอนันต์กลับเขียวฝืนกระแสน้ำเชี่ยวมาได้ขนาดนี้ค่ะ

* SOLAR ไม่ร้อนแรงตามชื่อเสียแล้ว
ไม่ว่าพลังงานทดแทนจะเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ถามถึงในช่วงที่ราคาน้ำมันแพง
แต่ต้นทุนที่สูงทั้งต้นทุนการขายและราคาวัตถุดิบ ส่งผลให้มาร์จินต่ำลง
และราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวลงทำให้หุ้นตัวนี้อับเฉาลงทันตาเห็น
ล่าสุดราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำสุดตั้งแต่เข้าจดทะเบียนปิดที่ 6.70 บาท ลดลง 1 บาท

*GLOW วิ่งขึ้นท่ามกลางหุ้นพลังงานที่ถูกทิ้งต่อเนื่อง
แถมสัญญาณทางเทคนิคสวยเป็นพิเศษ หลังจากนี้น่าจะขึ้นอย่างเดียว
แต่ต้องคอยจับตาที่ 29.50 บาท ถ้าผ่านไปได้ก็รับรองว่าสวยแน่นอน
ล่าสุดปิดที่ 28.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

*ประหลาดสุดน่าจะเป็นในรายของ PTT ออกมายืนยัน นอนยัน ตะแคงยันว่า
ตอนนี้ค่าการกลั่นยังติดลบอยู่ เลยไม่สามารถปรับลดราคาน้ำมันลงได้
ทั้งที่ตอนนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงอย่างฮวบฮาบ
โมนิก้า เลยแปลกใจกับสถานการณ์น้ำมันในปัจจุบันเป็นอย่างมาก
เพราะตอนเขาขึ้นก็ขึ้นตามเขา แต่พอถึงตอนลงกลับไม่ยอมลงนะซี

*ยิ่งมีคนท้วงติงเกี่ยวกับผลกำไรที่เกิดขึ้นอย่างมหาศาลในบริษัทแห่งนี้ด้วยแล้ว
ยิ่งทำให้เดี๊ยนเกือบคล้อยตามคำพูดของเจ๊ รสนา โตสิตระกูล
ที่ต้องการเอา ปตท.ออกจากตลาดหุ้น
เพราะคุณเจ๊เห็นว่าขืนอยู่ในตลาดหุ้นต่อไป ราคาน้ำมันก็ไม่มีวันลดลงได้
กลายเป็นคำพูดที่ทำให้คนทั่วไปคล้อยตามอย่างมากนะจะบอกให้

*ส่วน AOT เด้งกลับขึ้นมาปิดบวกหน้าตาเฉย
ทั้งที่ช่วงเช้าอ่อนตัวลงไปถึง 50 บาทแต่สุดท้ายวิ่งมาปิดที่ 54 บาท บวกไป 1.50 บาท
โมนิก้า ไม่รู้จะหาอะไรมาอธิบายปรากฎการณ์ดังกล่าว
ขนาดถามกูรูทั่วทุกสารทิศ ก็ไม่มีใครให้คำตอบที่น่าประทับใจจอร์จสักราย...
เดี๊ยนถึงอยากให้นักลงทุนพิจารณาอย่างรอบคอบ หากคิดจะลงทุนซื้อหุ้นตัวนี้อย่างจริงจัง
เพราะการฝืนธรรมชาติ ผลสุดท้ายที่ได้รับต่างเจ็บตัวกันทั้งนั้น

*ส่วนรายนี้ไม่รู้เป็นอะไร อยู่ดี ๆ หนุ่ม บี เตชะอุบล ผู้บริหาร IEC
ที่ประกาศว่าจะเป็นตัวตั้งตัวตี ที่จะนำพาบริษัทให้เติบโตไปข้างหน้า
กลับต้องขอถอนตัวลาออกจากบริษัทกลางคันซะอย่างนี้
โดยให้เหตุผลว่ามีภารกิจส่วนตัว จึงทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่แก่บริษัทได้

*เหตุของการลาออกของ บี ครั้งนี้... โมนิก้า ไม่อยากที่ฟันธงคะ
เพราะสุดท้ายแล้วการลาออกจากIEC
คงต้องไม่วายต้องมีชื่อไปโผล่อยู่ที่ ASL ที่เสี่ยไมค์สดาวุธ เตชะอุบล (พ่อ)
เข้าไปยึดหัวหาดจากเสี่ยผิน คิ้วคชา ในช่วงที่ผ่านมา อย่างแน่นอน

*ไม่รู้ว่าหุ้นที่ บี ถือหุ้น 55 ล้านหุ้น ยังมีเหลือติดพอร์ตอีกเท่าไหร่
(คงรู้ได้หลังจากปิดสมุดทะเบียนอีกรอบ)
แต่เท่าที่รู้ตอนนี้คงได้เห็นการส่งสัญญาณอย่างมีนัยสำคัญแล้ว
ว่าจะมีการตัดเยื่อใย ซึ่งราคาหุ้นก็ร่วงให้เห็นอย่างชัดเจน
ไม่รู้ว่าหุ้นร่วงมาเป็นฝีมือของ บีหรือเปล่าคะเนี้ยะปิด 3.86 บาท ลบ 0.32 บาท