April 29, 2024   3:31:00 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 16/06/2006 @ 13:08:42
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

13บจ. ยกธงขาวหั่นเป้ารายได้ปี49
สังเวยศก.ซบ-ดบ.-น้ำมันพุ่งไม่หยุด
* วงการ คาด กำไรปีนี้โตแค่ 5-7 % [/color:2e7385a33a">

ศก.พ่นพิษ 13 บจ. ดาหน้าหั่นเป้ารายได้-กำไรปี49
หลังแบกรับภาระไม่ไหวทั้งน้ำมัน ดอกเบี้ย
อีกทั้งส่งออกปีนี้อาจโตไม่ถึง17.5% ฉุดจีดีพีไม่ถึงฝั่งฝัน
ด้านวงการ ฟันธงปีนี้กำไร บจ.โตได้แค่ 5-7% ลดลงจาก 9% ในปีก่อน
งานนี้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์-สินค้าเกษตร โดนหนักสุด จากผลกระทบค่าเงินบาท
ขณะที่หลายบริษัทยังกัดฟันคงเป้าทั้ง ASIAN-WORK
ส่วนTWZ-ILINK ไม่สนเตรียมปรับเป้าเพิ่ม มั่นใจแนวโน้มธุรกิจยังสดใส

ท่ามกลางสถานการณ์ของประเทศไทยในขณะนี้
ทั้งปัญหาเศรษฐกิจปัญหาการเมืองที่ยังคงไม่มีความชัดเจนมาหลายเดือน
นับตั้งแต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีปัจจุบัน
ประกาศยุบสภาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2549 ที่ผ่านมา
โดยเฉพาะปัญหาหลักคือเรื่องเศรษฐกิจ ที่มาจากปัจจัยทั้งภายนอก
และภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันที่ยังคงทรงตัวในระดับสูง
ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่ส่งผลกระทบมาถึงค่าเงินบาทด้วย
รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงยืนอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
ตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายในประเทศ
รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐอเมริกา
ที่ค่อนข้างชัดเจนว่าในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในสิ้นเดือนนี้
จะประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง เพื่อกดดันไม่ให้อัตราเงินเฟ้อปรับเพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยแทบทั้งสิ้น
และน่าจะส่งผลให้การขยายตัวในปีนี้ชะลอตัวลงค่อนข้างชัดเจน
โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังนี้

เท่านั้นยังไม่พอล่าสุดจากการประเมินของภาคเอกชน
ผู้ส่งออก ผู้ประกอบการต่างๆ ได้ออกมายอมรับแล้วว่า
ความหวังหลักที่จะผลักดันเศรษฐกิจของประเทศคือ การส่งออก ในปีนี้นั้น
คงไม่สามารถขยายตัวได้ตามเป้าที่17.5% อย่างที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ได้แน่
เพราะมองว่าค่าเงินบาทที่แข็งค่าจนถึงสิ้นปีนี้นั้น
จะฉุดขีดความสามารถทางการแข่งขันของผู้ส่งออกไทย
รวมไปถึงต้นทุน และรายได้หรือเม็ดเงินที่จะได้จากการส่งออกด้วย
ในขณะที่การปรับราคาขายนั้นแทบเป็นไปไม่ได้
เพราะประเทศคู่แข่งอย่างจีนยังคงยืนราคาขายเท่าเดิมอยู่
ดังนั้นเมื่อหมดหวังต่อการขยายตัวของการส่งออก
หนำซ้ำยังไม่สามารถหวังพึ่งการลงทุนจากต่างประเทศ การบริโภคในประเทศได้อีก
จึงเท่ากับว่าเศรษฐกิจในปีนี้อาจจะโตไม่ได้ดั่งที่รัฐบาลหวังไว้
จีดีพีโตเพียง 4% ก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 16/06/2006 @ 13:13:58 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
เพราะฉะนั้นเมื่อพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้จึงเห็นได้ว่า
เป็นปีที่ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และเอกชนคงจะลำบากลำบนมาก
กับการดำเนินธุรกิจและประคับประคองให้ผลประกอบการอยู่รอดให้ได้
แม้อาจจะทำรายได้ไม่มากเท่าปีก่อนหน้า
แต่อย่างน้อยก็ขอให้ฝ่าฟันความลำบากช่วงนี้ไปให้ได้ก่อน
โดยในส่วนของบรรดาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ซึ่งถือเป็นมาตรวัดอย่างหนึ่งของเศรษฐกิจในประเทศด้วยนั้น
ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกันกับเรื่องดังกล่าว
เมื่อเศรษฐกิจกระทบกับธุรกิจ ดังนั้นการปรับลดเป้าหมายรายได้
ในสภาวะแบบนี้จึงเป็นเรื่องที่จะต้องทำใจยอมรับ
เพราะเมื่อน้ำมันขึ้น ดอกเบี้ยขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อต้นทุนการผลิต
การดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนทั้งสิ้น

โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้น บริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง
มีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าหลายบริษัท
เนื่องเพราะประสบปัญหาเรื่องต้นทุนการดำเนินงาน
ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตลอดจนรายได้ที่ลดลง

ถึงแม้ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศจะระบุว่า
ในไตรมาสแรกปี2549 บริษัทจดทะเบียน 482 บริษัทมีกำไรรวมกว่า 1.4 แสนลบ.
ขยายตัวได้ 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีไปตลอดทั้งปี
เพราะรู้กันว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นนั้น
จะเริ่มส่งผลชัดเจนขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป
เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจากนี้ไปบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง
จะเริ่มปรับประมาณการการเติบโตของรายได้ลดลง
เพราะเมื่อการลงทุน การบริโภคของภาครัฐ เอกชน
และประชาชนชะลอตัวลง ก็จะส่งผลต่อเนื่องมาถึงผู้ประกอบการในที่สุด
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#2 วันที่: 16/06/2006 @ 13:21:35 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
* 13 บจ.พร้อมใจหั่นเป้ารายได้ปี49

ในช่วงที่ผ่านมามีบริษัทจดทะเบียน 13 แห่งที่ปรับลดเป้าหมายรายได้ปีนี้
ได้แก่ บมจ.ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม หรือ TKT
บมจ.ฐิติกร หรือ TK
บมจ.ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ หรือ TUF
บมจ.เอ็ม เอฟ อี ซี หรือ MFEC
บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ หรือ BECL
บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง หรือ THANI
บมจ.อาปิโก หรือ AH
บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี หรือ SAT
บมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์ หรือ THL
บมจ.อีสเทอร์น สตาร์เรียล เอสเตท หรือ ESTAR
บมจ.ควอลิตี้ คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ หรือ Q-CON
บมจ. อาร์ เค มีเดีย โฮลดิ้ง หรือ RK
และบมจ.ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง หรือ STHAI



* TKT ลดเป้ารายได้ปีนี้เหลือโต5%
นายจุมพล เตชะไกรศรี
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม (TKT)เปิดเผยว่า
ในปีนี้รายได้ของบริษัทฯ จะเติบโตลดลง 5%
จากปีก่อนที่มีรายได้ 940 ล้านบาท
เนื่องจากลูกค้าคือ ซันโย ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการสั่งซื้อชิ้นส่วนพลาสติก
สำหรับอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า
ซึ่งทำให้รายได้ของธุรกิจดังกล่าวลดลงไตรมาสละ 30-35 ล้านบาท
แต่บริษัทฯยังมีรายได้จากธุรกิจพลาสติกในอุตสาหกรรมยานยนต์เข้ามาเสริม
จึงทำให้รายได้ในปีนี้ลดลงเพียงเล็กน้อย

แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทตั้งเป้าที่จะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ระดับ20%
โดยพยายามที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมทั้งควบคุมต้นทุนวัตถุดิบ
อย่างไรก็ดีจากการปรับปรุงประสิทธิภาพดังกล่าว
จะทำให้รายได้ของบริษัทในปี 2550 เติบโตประมาณ 10-15 % จากปีนี้
โดยคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/49 รายได้จะเติบ โตจากไตรมาส 1
ที่มีรายได้ 219 ล้านบาท เพียงเล็กน้อย
เนื่องจากในช่วงไตรมาสนี้ไม่มีรถยนต์ออกใหม่
ทำให้บริษัทไม่ได้รับคำสั่งซื้อชิ้นส่วนพลาสติกรถยนต์จากลูกค้าเพิ่มขึ้น
ประกอบกับบริษัทยังได้รับผลกระทบ
จากการที่ลูกค้าเปลี่ยนแปลงคำสั่งซื้อชิ้นส่วนพลาสติกเครื่องใช้ไฟฟ้า

* ESTAR เล็งปรับประมาณการยอดขายทั้งปีลง หลังดบ.-น้ำมันพุ่ง
นายกวี ศิริภัทร์
รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท หรือ ESTAR
กล่าวว่าทางบริษัทฯวางเป้ายอดขายปี 2549อยู่ที่ 1 พันล้านบาท
เนื่องจากทางบริษัทฯมีโครงการภายใต้การบริหารที่คาดว่าได้รับความนิยมต่อเนื่อง
ทั้งในส่วนโครงการ The Star Estate @ Rama III
และ โครงการ The Star Estate@ Narathiwas
โดยผลประกอบการไตรมาส 1/2549 ทางบริษัทฯขาดทุน 33.14 ล้านบาท
ซึ่งขาดทุนเพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 24.68 ล้านบาท
ทางบริษัทฯจึงอาจปรับลดประมาณการยอดขายทั้งปีลง
เพื่อให้สอดรับกับภาวะอัตราดอกเบี้ยรวมถึงราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นและมีผลกระทบยอดขาย
แต่คงต้องรอดูผลประกอบการไตรมาส 2/2549 อีกครั้งว่ามีทิศทางเป็นเช่นใด
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#3 วันที่: 16/06/2006 @ 13:28:43 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
*THANI ลดเป้าสิ้นเชื่อปี49 เหลือ 1.2 พันลบ.
นายโกวิท รุ่งวัฒนโสภณ
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด(มหาชน)หรือ THANI
กล่าวว่าบริษัทฯได้วางเป้ายอดปล่อยสินเชื่อปีนี้ไว้ที่ 1.2 พันล้านบาท
ลดลงจากเป้าหมายเดิมช่วงต้นปีที่วางไว้ 1.3 - 1.4 พันล้านบาท
หลังจากภาวะเศรษฐกิจซบเซาฉุดยอดปล่อยสินเชื่อไม่กระเตื้องเท่าที่ควร

ปีที่แล้วเราปล่อยสินเชื่อ 1.3 พันล้านบาท
แต่ปีนี้อาจปล่อยสินเชื่อไม่มากเท่าปีก่อนโดยวางไว้เพียง 1.2พันล้านบาท
หลังจากดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นกำลังซื้อผู้บริโภคชะลอลง
ซึ่งเราจะทบทวนเป้าหมายปล่อยสินเชื่อทุก1 - 2เดือน
เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม นายโกวิทกล่าว



* BSBM ก็เตรียมลดประมาณการยอดขายปีนี้
ด้านนายวีระวิทย์ ดุละลัมพะ
รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางสะพานบาร์มิล จำกัด (มหาชน) หรือ BSBM
กล่าวว่าบริษัทฯเตรียมพิจารณาปรับลดประมาณการยอดขายปีนี้ลงจากเดิม 360,000 ตันต่อปี
เนื่องจากแนวโน้มความต้องการใช้เหล็กเส้นลดลง
โดยเบื้องต้นคาดว่าบริษัทฯจะสามารถสรุปตัวเลข
เป้าหมายยอดขายที่ชัดเจนได้ในช่วงครึ่งปีหลัง
เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เหล็กในประเทศ
โดยหากมีการสรุปราคาสินแร่เสร็จเป็นที่เรียบร้อย
จะเริ่มเห็นทิศทางของอุตสาหกรรมเหล็กได้ชัดเจนขึ้น
เพราะกำลังการผลิตเหล็กเส้นในตลาดโลกจะเริ่มมีเข้ามาตามปกติ



* STHAI ลดเป้าจากเดิมโต 22-23% ลงอีกหลังต้นทุนพุ่ง
นายธีรวัฒน์ อาริยะกุล
ผู้จัดการสำนักกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง(STHAI)
กล่าวว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/49 ยังไม่ดีมากนัก
โดยขาดทุนเช่นเดียวกับไตรมาส 1/49 ที่ขาดทุน 53.07 ล้านบาท
เนื่องจากยางธรรมชาติซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้ต้นทุนปรับเพิ่มในทิศทางเดียวกัน
โดยบริษัทฯ มีแผนปรับลดประมาณการรายได้ปี 2549 ลงจากเดิม
ที่คาดว่ารายได้โต22-23% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 659.76 ล้านบาท
แต่จากผลประกอบการครึ่งปีแรกที่มีแนวโน้มไม่เป็นไปตามเป้า
และต้นทุนวัตถุดิบหลักขยับตัวสูงขึ้น
จึงต้องปรับลดประมาณการเพื่อให้สอดรับสถานการณ์ดังกล่าว


* AH หั่นเป้ารายได้เหลือโต 10% จากเดิมที่คาดโต 20%
นายเย็บ ซูชวน
ประธานกรรมการบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด(มหาชน) หรือ AH
กล่าวว่า บริษัทฯได้ปรับลดประมาณการรายได้จากยอดขายปีนี้
จะเติบโตเพียง10%จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 20%
เมื่อเปรียบเทียบจากปีก่อนที่มีรายได้ยอดขาย 8 พันล้านบาท
เนื่องจากยอดการผลิตรถยนต์ในอุตสาหกรรมโดยรวมชะลอตัว
เพราะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นและความไม่แน่นอนทางการเมือง
แต่จะตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นในปีนีไว้ที่13%
ลดลงจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 14% เล็กน้อย
เนื่องจากบริษัทฯได้รับผลกระทบจากการลดราคาสินค้าให้อีซูซุ
แต่ในอนาคตบริษัทฯจะพยายามหาสินค้าใหม่เข้ามาเพื่อเพิ่มมาร์จิ้น
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#4 วันที่: 16/06/2006 @ 14:32:09 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
* TUF ขอรอดูQ2 ก่อนตัดสินใจจะลดประมาณการหรือไม่
นายธีรพงศ์ จันศิริ
ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์(TUF) เปิดเผยว่า
ในปี2549 ยังคงเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 15%
จากปีก่อนที่มีรายได้ที่ 53,600 ล้านบาท
โดยรายได้หลักยังมาจากทูน่า และกุ้ง
ทั้งนี้ TUF มีสัดส่วนการส่งออกไปยังต่างประเทศ 90%
และอีก 10%ขายภายในประเทศ

อย่างไรก็ตามบริษัทฯอาจจะมีการปรับประมาณการรายได้ในปี 2549
ของบริษัทใหม่แต่ขอดูผลประกอบการ 2 ไตรมาสก่อน
เพราะหาผลประกอบการออกมาไม่ดีอาจจะมีการปรับประมาณการรายได้ในปีนี้ใหม่
โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้รับผลกระทบทั้งในเรื่องของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
และปัญหาน้ำมันการแข่งขันที่รุนแรง
ซึ่งล้วนเป็นอุปสรรคที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของTUFได้


* Q-CON ส่งซิกอาจปรับเป้าใหม่หลังประกาศงบ Q2/49
นายกิตติ สุนทรมโนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด
บริษัทควอลิตี้คอนสตรัคชั่นโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ Q-CON
เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงคาดว่ารายได้ในปีนี้
จะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่1,040 ล้านบาท
ซึ่งมีอัตราการเติบโตจากปีก่อนประมาณ 23% หรือมีรายได้ 845 ล้านบาท
แต่ทั้งนี้บริษัทฯอาจพิจารณาปรับประมาณการรายได้
หลังประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2
จากการที่ยังมีปัจจัยเข้ามากระทบทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง
อัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น
ตามที่ประชุมอาจพิจารณาปรับเป้ารายได้ใหม่ในช่วงสิ้นไตรมาส 1
แต่ในขณะนี้รายได้ยังคงเป็นไปตามเป้าประมาณ 70-80%
เนื่องจากตลาดต่างจังหวัดยังให้การตอบรับดี นายกิตติ กล่าว



* วงการ คาดปีนี้กำไรบจ.โตแค่ 5-7%
นายรณกฤต สารินวงศ์
ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน กล่าวว่า
ในปี 2549กำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน บจ.
มีแนวโน้มที่จะปรับลดลงน้อยกว่าปีที่ผ่านมา
โดยในปีนี้คาดว่ากำไรสุทธิของบจ.จะอยู่ที่ 5-7 %
จากปีที่ผ่านมาที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 9%
ทั้งนี้สาเหตุที่กำไรสุทธิของบจ.ลดลง
เนื่องจากภาพรวมของเศรษฐกิจชะลอการเติบโตลง

ทั้งนี้หลักทรัพย์ในกลุ่มอิเลคทรอนิคส์
น่าจะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
เนื่องจากได้รับผลกระทบในเรื่องของค่าเงินบาท
อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ยังเหมาะสำหรับการลงทุนในระยะยาว
เพราะมีโอกาสโตต่อเนื่อง
ถึงแม้ว่าค่าเงินบาทจะเป็นตัวแปรสำคัญที่มีอิทธิพลต่อหุ้นกลุ่มดังกล่าวก็ตาม
ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาด
จะมีการปรับลดประมาณการรายได้ในปีนี้ลงหรือเปล่าซึ่งก็คงต้องรอดูต่อไป
แต่กลุ่มที่จะได้รับผลกระทบมากๆ คงจะเป็นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ นายรณกฤต กล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีมิโก้ กล่าวว่า
จากสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศมีแนวโน้มชะลอ
ทั้งนี้คาดว่าบจ.ทุกกลุ่มคงจะได้รับผลกระทบเหมือนๆ กัน
โดยในปีนี้คาดว่ากำไรสุทธิของบจ.จะเติบโต 3 %
ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9 %

ขณะที่หุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเกษตรยังเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
เนื่องจากต้องอิงกับค่าเงินบาทและภาพรวมของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตามบจ.คงไม่มีการปรับประมาณการรายได้ในปีนี้ลง
เนื่องจากผู้ประกอบการทุกรายคงจะมีวิธีในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไว้แล้ว
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#5 วันที่: 16/06/2006 @ 14:37:41 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน...
* TWZ-ILINK ไม่หวั่นเตรียมปรับเป้ารายได้เพิ่ม
อย่างไรก็ตามแม้ว่าหลายบริษัทจะปรับลดประมาณการรายได้ในปีนี้ลง
แต่ก็มีหลายบริษัทเช่นกันที่ยังคงยืนหยัดที่จะไม่ปรับประมาณการรายได้และกำไรลง
ในขณะที่บางบริษัทถึงกับปรับเพิ่มประมาณด้วยซ้ำ
โดยบริษัทที่ยังไม่ปรับลดประมาณการรายได้ลง อาทิเช่น
บมจ.ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด หรือ ASIAN
บมจ.ทีดับบลิวแซดคอร์ปอเรชั่น หรือ TWZ
บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น หรือ ILINK
บมจ.เวิร์คพอยท์เอ็นเทอร์เทนเมนท์ หรือ WORK
นอกจากนั้นก็ยังมี MODERA -SITHAI -CPN-SNC-KSL และ EASTW



* บิ๊ก ASIAN วางเป้ารายได้ปี 49 ที่ 8.5 พันลบ.จาก 5.3 พันลบ.
นางมรกต วิริยะทวีชัย กรรมการ บมจ.ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด (ASIAN)
กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯ วางเป้ารายได้อยู่ที่ 8.5 พันล้านบาท
เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 5.3 พันล้านบาท
เนื่องจากอาหารทะเลแช่แข็งมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งจากกุ้งและปลาหมึก รวมถึงทูน่า



* TWZ เตรียมปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มจาก 3.5พันลบ.
นายเขตรัตน์ ชื่นมั่น ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี
บริษัท ทีดับบลิวแซด คร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ กล่าวว่า
ในไตรมาสที่ 2/49 บริษัทฯ มีแผนที่จะปรับประมาณการรายได้ในปีนี้ เพิ่มขึ้น
เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจในมีโอกาสเติบโตในทิศทางที่ดีและต่อเนื่อง
รวมทั้งบริษัทฯ ยังจะมีรายได้จาก บริษัทไฮเออร์ บิสิเนส(ประเทศไทย)
ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุ่นเข้ามาในไตรมาสนี้อีกด้วย
ส่วนประมาณการรายได้เดิมในปีนี้คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 3,500 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 40% จากปี 2548 ที่มีรายได้อยู่ที่ 3,200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หลังจากปรับประมาณการรายได้ในปีนี้ใหม่
คาดว่าราคาหุ้นTWZก็คงสะท้อนผลประกอบการที่แท้จริง
และมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นได้


* บิ๊ก ILINK เล็งปรับเป้ารายได้ปีนี้เพิ่มจากเดิมคาดโต 25%
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ
บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK
กล่าวว่าทางบริษัทฯวางเป้ารายได้รวมปี 2549 เติบโต 25%
จากปีก่อนที่มีรายได้ 672.35 ล้านบาท
เนื่องจากบริษัทฯมีงานในมือทยอยรับรู้ต่อเนื่องทั้งจากธุรกิจวิศวกรรมวางระบบ
และธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ
โดยปัจจุบันทางบริษัทฯมีรายได้จากธุรกิจวิศวกรรมวางระบบ35%
และธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ65%

เราวางเป้าทั้งปีโตประมาณ 25% ซึ่งเป็นเป้าหมายแบบ Conservative
โดยจากผลประกอบการไตรมาส 1/49ออกมาดีอาจทบทวนปรับเป้ารายได้รวมทั้งปี
ซึ่งต้องดูผลประกอบการไตรมาส2/49อีกที นายสมบัติ กล่าว



* WORK มั่นใจปีนี้รายได้โตตามเป้า 20%
นายครรชิต ควะชาติ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการเงิน
บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ หรือ WORK กล่าวว่า
บริษัทมั่นใจรายได้เติบโตตามเป้า 20%
จากปีก่อนที่มีรายได้ 1,132 ล้านบาทแม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัว
เนื่องจากรายการของบริษัทเป็นรายการที่ดีสปอนเซอร์จึงไม่ถอดโฆษณาออก
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com