April 29, 2024   3:52:32 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > สถานการณ์พลิก...
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 16/06/2006 @ 15:12:48
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

สถานการณ์พลิก CNS คาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าเด้งสู่ 688 จุด
เหตุทำWindow Dressing กองทุนระยะยาวเก็บหุ้น

บล. พัฒนสิน มองหุ้นไทยสั้นๆดี คาดสัปดาห์หน้าเด้งขึ้นทดสอบ 688 จุด
จากการทำ Window Dressing และการซื้อคืนของ Bargain Hunter
และกองทุนระยะยาว(Value Investors)
หลังจากอัตราผลตอบแทนเริ่มคุ้มค้ากับความเสี่ยง
แต่คาดอาจเป็นการรีบาวน์ชั่วคราวก่อนที่จะปรับลดลงไปยังแนวรับหลัก
ซึ่งอาจจะอยู่ที่ 605 จุด

ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.พัฒนสิน(CNS) ระบุว่าได้ เพิ่มน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น Positive
และคาดว่า ดัชนีตลาดฯ ในช่วงสัปดาห์หน้ามีโอกาสปรับขึ้นระยะสั้น
โดยมีเป้าหมายที่ 688 จุด จาก Window Dressing
และการซื้อคืนของ Bargain Hunter และกองทุนระยะยาว(Value Investors)
หลังจากอัตราผลตอบแทนเริ่มคุ้มค้ากับความเสี่ยง
คาดผลตอบแทนสูงถึง 18-25% แต่ความเสี่ยงเพียง 6-9%
และข่าวร้ายเรื่องดอกเบี้ยเริ่มรับรู้ไปในราคาหุ้นเป็นส่วนใหญ่แล้ว
ขณะที่การขาย ณ ระดับปัจจุบัน เป็นการขายแบบตัดขาดทุน
ไม่ใช่ขายเพื่อทำกำไรอีกต่อไป

อย่างไรก็ดี CNS ยังคงมองว่าการปรับสูงขึ้นดังกล่าวเป็นเพียงการรีบาวด์ชั่วคราว
(คาดรีบาวด์ 49 จุดหรือเฉลี่ย 1/3 ของดัชนีฯที่ดิ่งลง 146 จุด)
ก่อนที่จะปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปยังแนวรับหลัก ซึ่งอาจจะอยู่ที่ 605 จุด
ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 สัปดาห์ หรือ ระดับ 590 จุดหรือต่ำกว่า
พิจารณาจากเหตุการณ์ในอดีต (ปี45 และปี47) ที่จุดต่ำสุดของดัชนีฯ
จะต่ำสุดที่ประมาณ 25-28% จากระดับสูงสุดของปี
และจะกินเวลาประมาณ 4 เดือนจึงจะสิ้นสุดทิศทางขาลง

โดยปัจจัยกดดันดัชนีฯ อาจจะเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับปัจจัยในประเทศเพิ่มขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น สถานะการณ์ภาคใต้ที่เกิดระเบิดรอบใหม่
หรือ สุญญากาศทางการเมืองที่ยืดเยื้อ
อาจส่งผลกระทบต่อการชะลอการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ

ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงไป ได้แก่
1.) Return > Risk และ Fight to Quality: อัตราผลตอบแทนจากหุ้นที่เริ่มคุ้มค่าความเสี่ยง
หลังการดิ่งลงของตลาดหุ้นทั่วโลก 15-25% (ดัชนีตลาดฯ ดิ่งลงไปแล้ว 17.89%
จากระดับสูงสุด 787 จุด ขณะที่ค่าเฉลี่ยดัชนี Emerging Market ของเอเชีย
ปรับลดลง 24% และตลาดหุ้นสหรัฐฯลดลง 10%)
ส่งผลให้กองทุนระยะยาว (Value Investors) ที่ซื้อถือลงทุนได้มากกว่า 6-12
เดือน
เริ่มกลับเข้ามาทยอยซื้อคืน (Buy on Dip) และทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว
โดย DJIA +198.27 จุด +1.83% Nasdaq +58.15จุด +2.79%

2) ประธานเฟด เบอร์นันเก้ ส่งสัญญาณว่า แม้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นสูง
ในช่วงที่ผ่านมา
จากราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากี่สุดเป็นประวัติการณ์
แต่เฟดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในกรอบที่เคยเป็นมาและสามารถจัดการได้
ถือเป้นการส่งสัญญาณว่า เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งที่17
อีก 0.25% เป็น 5.25% ปลายเดือนนี้

3) KBANK ประกาศขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 และ 6 เดือน
อีก 0.25% เป็น 3.5% และ 3.75% ตามลำดับ
อาจส่งผลให้เกิดสงครามราคารอบใหม่ และเป็นผลลบต่อหุ้นกลุ่มธนาคารฯ
เนื่องจากการเพิ่มต้นทุนดอกเบี้ยดังกล่าว
ไม่ได้เกิดจาก Loan Growth ที่สูงขึ้น

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน CNS เปลี่ยนคำแนะนำจาก ขาย เป็น Trading Buy
เพราะคาดว่า ตลาดหุ้นระยะสั้นจะเกิด Short-term Rally โดยมีเป้าหมายที่ 688 จุด

หลักทรัพย์เด่นได้แก่ SCCC TMB DELTA SCIB TISCO
PTTEP SCB MINT KK PTT SCC HANA TOP KEST

 กลับขึ้นบน
mr.w
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 490
#1 วันที่: 16/06/2006 @ 18:43:02 : re: สถานการณ์พลิก...
ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3
 กลับขึ้นบน
taro
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 10
#2 วันที่: 17/06/2006 @ 15:23:02 : re: สถานการณ์พลิก...
นักวิเคราะห์ไม่เคยคาดการณ์ก่อนเลย
เรียกว่านักข่าวดีกว่ามั้ง .0006
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com