|
| |
|
??????
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 |  วันที่: 16/06/2006 @ 22:29:34 คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่ ผลการโหวต จับตาขาใหญ่เปลี่ยนแนวลุยบิ๊กแคป
แฝงตัวเป็นฝรั่งดันหุ้นสัปดาห์นี้รีบาวน์
-แต่คาดไปได้ไม่ไกลเหตุยังมีมารคอยราวี[/color:df05483240">
ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้มีลุ้นรีบาวน์ต่อ
หลังขาใหญ่เปลี่ยนแผนลุยหุ้นบิ๊กแคปตามกระแส
งานนี้ใช้มุขแฝงตัวส่งออเดอร์ผ่านโบรกฯต่างชาติ สร้างภาพฝรั่งรีเทิร์นหุ้นไทย
หวังจุดไฟล่อแมงเม่า ประจวบเหมาะกับก่อนหน้านี้หุ้นบลูชิพร่วงแรง ทำให้มีสิทธิดีดกลับ
สำรวจพบ PTTEP หนักสุด เดือนครึ่งรูดเกือบ 20%
ด้านวงการประเมินหุ้นรอบนี้ไปได้ไม่ไกล เหตุยังมีมารผจญเพียบ
ทั้งการเมือง-ความเชื่อมั่น-เศรษฐกิจ-บึ้มภาคใต้ ที่ยังคอยราวีไม่หยุด
แนะเล่นสั้นหากได้กำไรชิงขายก่อน
ฟากความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดฯ เด้งแรงเกือบ 3%
ตามตลาดต่างประเทศที่ตบเท้าบวกถ้วนหน้า[/color:df05483240">
ตลาดหุ้นที่บวกไปเกือบ 3% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
คงทำให้หลายคนใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง
หลังจากห่อเหี่ยวกับภาวะที่อึมครึมและเป็นไปในทิศทางขาลง
ในช่วง 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา ที่ดัชนีร่วงลงถึง 13.38%
ซึ่งก็ถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในแถบภูมิภาคเอเชีย
จากปัจจัยหลักคือความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐ
ส่งผลให้เฟดต้องปรับดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.25% ซึ่งก็ถือว่าได้ผล
เพราะบรรดากองทุนต่างก็พากันเทขายหุ้นทั่วภูมิภาคเอเชียออกมา
เพื่อที่จะขนเงินกลับประเทศ จนกระทั่งล่าสุด
ประธานเฟดออกมาคาดการณ์ถึงทิศทางแนวโน้มเงินเฟ้อที่น่าจะปรับตัวลดลง
ทำให้ความกังวลเริ่มคลี่คลาย ตลาดหุ้นจึงเปล่งแสงสีเขียวกันถ้วนหน้าอย่างที่เห็น[/color:df05483240">
|
| | กลับขึ้นบน |
จันทรา
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 | #1 วันที่: 16/06/2006 @ 22:33:57 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... แต่สิ่งที่ต้องคิดกันต่อไปคือ การปรับตัวขึ้นรอบนี้เป็นของจริงหรือไม่
ดัชนีจะเห็นแสงสีเขียวได้ยาวนานเท่าใด
เพราะเมื่อเหลียวมองปัจจัยรอบด้านแล้ว
ยังไม่เห็นข่าวดีที่จะช่วยพลิกฟื้นสถานการณ์ให้กลับจากหน้ามือเป็นหลังมือได้
เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังต้องลุ้นตัวโก่ง
ว่าจะไปได้ถึงฝั่งฝันของรัฐบาลที่ 4-5% หรือไม่
ปัจจัยการเมืองแม้ว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งแล้วคือวันที่ 15 ต.ค. 49
แต่ก็ยังไม่มีใครให้ความมั่นใจได้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่
ไหนจะเรื่องของการฟ้องร้องให้ยุบพรรคการเมืองใหญ่
ที่ล่าสุดยังไม่รู้ว่าศาลฯจะรับพิจารณาหรือไม่
หรือแม้แต่ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้
ที่ตอนนี้เริ่มกลับมาครอบครองพื้นที่ข่าวอีกครั้ง
หลังจากงานพระราชพิธีฉลองการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีผ่านพ้นไป
การวางระเบิดตามจุดต่างๆ เกิดขึ้นต่อเนื่องหลายต่อหลายจุด
และยังไม่มีทีท่าว่าเหตุการณ์จะสงบลงง่ายๆ[/color:4aec18f0ed">
จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลกระทบถึงความเชื่อมั่นของประชาชนทั้งประเทศ
ซึ่งแน่นอนรวมไปถึงนักลงทุนในตลาดหุ้นด้วย
ที่มักจะอ่อนไหวเป็นพิเศษกับข่าวร้ายต่างๆที่เกิดขึ้น
ในขณะที่อีกปัจจัยที่บั่นทอนกำลังใจของคนเล่นหุ้น
คือแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ที่ต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือน แล้ว
รวมมูลค่าการขายสุทธิกว่า 5 หมื่นล้านบาท
ซึ่ง ณ ตอนนี้ทุกคนต่างรอดูว่าแรงเทขายหุ้นจะสะเด็ดน้ำเมื่อไหร่
และเม็ดเงินที่ไหลออกไปจะกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยอีกหรือไม่
ท่ามกลางสินค้าที่ยังถือว่าเดิมๆ ไม่มีอะไรใหม่
หุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่อย่างเบียร์ช้าง หรือรัฐวิสาหกิจ
ที่ไม่สามารถเข้ากระจายหุ้นได้ ทำให้ตลาดหุ้นไทยหมดเสน่ห์ลงไปอีกมากโขทีเดียว[/color:4aec18f0ed"> |
| | กลับขึ้นบน |
จันทรา
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 | #2 วันที่: 16/06/2006 @ 22:39:20 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... **เดือนครึ่งบิ๊กแคปร่วงระนาว PTTEP หนักสุดรูดเกือบ 20%[/color:61ea752dbd">
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวราคาหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่
ซึ่งที่ผ่านมาถือเป็นเป้าหมายการขายของนักลงทุนต่างชาติ
พบว่าภายในเวลา 1 เดือนครึ่ง
คือตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.-16 มิ.ย. 2549 ราคาปรับตัวลงค่อนข้างแรง
โดยเฉพาะ PTTEP ที่ปรับตัวลดลงเกือบ 20%
และหลายตัวปรับลดลงจนต่ำกว่าราคาพื้นฐานที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ค่อนข้างมาก[/color:61ea752dbd">
**ตารางแสดงความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบิ๊กแคปตั้งแต่ 2 พ.ค.-16 มิ.ย.
หุ้น ปิด 2 พ.ค. ปิด 16 มิ.ย. ลดลง(บาท) ลดลง(%) Analyst Consensus
PTT 258 218 40 15.50 295.26
PTTEP 128 103 25 19.53 121.48
TOP 68 61 7 10.29 76.21
SCC 236 206 30 12.71 275.09
KBANK 66 57 9 13.63 75.96[/color:61ea752dbd"> |
| | กลับขึ้นบน |
จันทรา
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 | #3 วันที่: 16/06/2006 @ 22:45:25 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... **ขาใหญ่เปลี่ยนแผนลุยบิ๊กแคปส่งออเดอร์ผ่านโบรกฯต่างชาติ
แหล่งข่าวในวงการหลักทรัพย์รายหนึ่งเปิดเผยว่าช่วงที่ตลาดหุ้นอยู่ในช่วงขาลง
นักลงทุนรายใหญ่ในตลาดฯมีการขายหุ้นปรับพอร์ต
และชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
แต่หลังจากที่ดัชนีปรับตัวลงจนกระทั่งหลุดแนวรับสำคัญถึง 2 ครั้งที่ 680 จุด และ 650 จุด
ถือว่าปรับตัวลงแรงมาก ซึ่งปัจจัยหลักเป็นไปตามตลาดหุ้นต่างประเทศ
ดังนั้นหลังจากปรับพอร์ตขายหุ้นออกมาแล้ว
รายใหญ่หลายรายจึงได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุน
เข้ามาลุยซื้อหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ ที่ราคาปรับตัวลงแรงจนต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน
จากแรงขายอย่างหนักของนักลงทุนต่างชาติ [/color:2f6f27c7db">
โดยใช้วิธีการสั่งซื้อหุ้นผ่านโบรกเกอร์ต่างประเทศ
ทำให้เข้าใจว่านักลงทุนต่างประเทศกลับเข้ามาซื้อสุทธิทำให้ภาพรวมของตลาดหุ้นดูดีขึ้น
ซึ่งเชื่อว่าในสัปดาห์นี้หุ้นน่าจะรีบาวน์ต่อได้อีกระยะหนึ่ง ก่อนที่จะปรับฐานลงอีกครั้ง
เพราะในบ้านเราเองยังไม่มีปัจจัยบวกที่จะกระตุ้นการซื้อขาย
แม้ว่าความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจของสหรัฐจะเบาบางลง
หลังจากประธานเฟดให้ความเห็นเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มลดลง
ซึ่งอาจส่งผลให้เม็ดเงินไหลกลับเข้ามายังตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียอีกครั้ง
แต่ตลาดหุ้นไทยก็อาจจะยังไม่ใช่เป้าหมายหลักของเม็ดเงินที่จะเข้ามา
เพราะยังคงมีความไม่แน่นอนทางการเมือง
รวมทั้งสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ที่เริ่มกลับมาอีกครั้ง
ในขณะที่หุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่และหุ้นรัฐวิสาหกิจต้องพับแผนในการเข้าจดทะเบียน
ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังเป็นตลาดขนาดเล็ก
ที่ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุนต่างชาติได้[/color:2f6f27c7db">
แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติเมื่อวันศุกร์ ไม่คิดว่าจะเป็นต่างชาติของจริง
เพราะตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปัจจัยบวกที่ชัดเจน
การรีบาวน์ของดัชนีน่าจะเป็นไปตามทิศทางของตลาดเพื่อนบ้านเป็นหลัก
และในสัปดาห์นี้คาดว่าจะรีบาวน์ต่อเนื่องได้อีกเล็กน้อย
เพราะนักลงทุนรายย่อยเริ่มเห็นสัญญาณการซื้อกลับของต่างชาติ
ซึ่งที่จริงน่าจะเป็นรายใหญ่ที่แฝงตัวมามากกว่า
ดังนั้นหากหุ้นรีบาวน์น่าจะเป็นโอกาสในการขายทำกำไร
เพราะตอนนี้หลายค่ายประเมินว่าดัชนีน่าจะปรับตัวลดลงได้อีก
บางค่ายมองลงต่ำกว่า 600 จุด ด้วยซ้ำ แหล่งข่าวกล่าว[/color:2f6f27c7db"> |
| | กลับขึ้นบน |
จันทรา
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 | #4 วันที่: 16/06/2006 @ 22:51:49 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... **ดัชนีเด้งแรงตามหุ้นนอก ฝรั่งซื้อ 626 ลบ.
ความเคลื่อนไหวตลาดหลักทรัพย์วันศุกร์ที่ 16 มิ.ย. 49 ดัชนีปิดที่ 665.39 จุด
เพิ่มขึ้น 17.07 จุด หรือ 2.63% มูลค่าการซื้อขาย 15,109.46 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 626.03 ล้านบาท สถาบันซื้อสุทธิ 902.85 บาท
ขณะที่นักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 1,528.88 ล้านบาท [/color:4c4f185b9a">
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า
ดัชนีในตลาดหลักทรัพย์ฯที่รีบาวน์ขึ้น
เป็นผลจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐคาดการณ์ทิศทางเงินเฟ้อมีแนวโน้วลดลง
ทำให้นักลงทุนมั่นใจกลับเข้ามาลงทุนมากขึ้น
และเอื้อให้เม็ดเงินกลับเข้ามาลงทุนตลาดหลักทรัพย์ไทย
โดยเห็นว่าช่วงนี้เป็นจังหวะดีในการเข้าเก็บหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ และพื้นฐานดี
หลังจากราคาหุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าพื้นฐานที่แท้จริง [/color:4c4f185b9a">
?ดูตลาดหุ้นต่างประเทศวันนี้ก็ปรับตัวดีขึ้น ตลาดหุ้นบ้านเราก็ดีตามไปด้วย
โดยค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่างจากค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มแข็งค่า
ทำให้เชื่อว่าเม็ดเงินกำลังไหลเข้ามา
ซึ่งราคาหุ้นช่วงนี้ต้องบอกได้ว่าถูกทั้งกระดาน
ต้องเลือกลงทุนหุ้นพื้นฐานดีลงทุนระยะยาวได้? นายวรุตม์ กล่าว [/color:4c4f185b9a">
อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนเลือกเก็บหุ้นพื้นฐานดี
โดยเฉพาะกลุ่มพลังงาน และธนาคารพาณิชย์
อาทิ PTT,PTTEP,SCC,BBL และ KBANK เนื่องจากธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตสูง [/color:4c4f185b9a">
นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง
รองผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ เปิดเผยว่า
ตลาดหุ้นรีบาวน์ค่อนข้างแรง ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ
เพราะนักลงทุนคลายความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
หลังจากที่ตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนพ.ค.ของสหรัฐฯลดลง
เหลือ 0.1% ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์
ลดความกดดันอัตราเงินเฟ้อจึงคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบนี้เป็นครั้งสุดท้าย
นักลงทุนจึงกลับเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้นทั่วโลก[/color:4c4f185b9a"> |
| | กลับขึ้นบน |
จันทรา
สมาชิก
จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898 | #5 วันที่: 16/06/2006 @ 23:05:25 : re: ข่าวเด่นประเด็นร้อน... สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้หรือไม่
ขึ้นอยู่กับทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศ และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก
รวมทั้งการประกาศตัวเลขดุลการค้าเดือนพ.ค.ของกระทรวงพาณิชย์
ซึ่งคาดว่าดุลการค้าเดือนพ.ค.จะแย่กว่าเดือนเม.ย.
เพราะราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น [/color:61f1b615e8">
หากวันจันทร์นี้ตลาดต่างประเทศบวก
และราคาน้ำมันดิบสูงกว่าระดับ65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
รวมทั้งตัวเลขการส่งออกเดือนพ.ค.สูงกว่า 12%
ดัชนีตลาดหุ้นก็น่าจะยืนแดนบวกได้นายสิทธิเดชกล่าว[/color:61f1b615e8">
ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้หากดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวสูงกว่าระดับ 670 จุด
นักลงทุนสามารถเข้าเก็งกำไรได้
สำหรับการลงทุนหุ้นมาร์เก็ตแคปใหญ่ในช่วงนี้
ควรรอเข้าซื้อก่อนหน้าที่จะมีการประชุมของเฟด 1 สัปดาห์
เพราะถ้าเฟดมีความชัดเจนเรื่องอัตราดอกเบี้ย
ภาวะนักลงทุนต่างชาติน่าจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง
อย่างไรก็ดี ในช่วงสั้นๆหากนักลงทุนต้องการเข้าเก็งกำไรหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่
ให้รอซื้อตามสัญญาณทางเทคนิค[/color:61f1b615e8">
ในช่วงวันจันทร์แรงซื้อหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่น่าจะชะลอ
ส่วนใหญ่งทุนน่าจะเล็งขายทำกำไร เพราะเมื่อวันศุกร์ราคาหุ้นปรับขึ้นมาแรงประมาณ 5%
ซึ่งช่วงนี้ยังไม่น่าซื้อหุ้นมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่
เพราะยังไม่มีความชัดเจนของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดนายสิทธิเดชกล่าว [/color:61f1b615e8">
ด้านนางวิริยา ลาภพรหมรัตน
ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน กล่าวว่า
การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นเป็นการรีบาวน์ตามตลาดหุ้นภูมิภาค
จากการคลายความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อ
ซึ่งหุ้นกลุ่มบิ๊กแคปก็ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย
เนื่องมาจาก 5 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ปรับลดลงมามากพอสมควร
แต่ทั้งนี้ การที่ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นยังไม่สามารถประเมินได้ว่า
เป็นแรงซื้อจากต่างชาติจริงหรือไม่[/color:61f1b615e8">
สำหรับหุ้นกลุ่มบิ๊กแคปแนะนำ ถือ
แต่หากนักลงทุนที่ต้องการซื้อให้ตั้งรับไว้ก่อน
รอจังหวะที่ราคาหุ้นอ่อนตัวค่อยเข้าซื้อลงทุน
โดยเชื่อว่าสัปดาห์นี้มีโอกาสที่หุ้นกลุ่มบิ๊กแคปจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก
ตามการรีบาวน์ต่อเนื่องของตลาดหุ้น[/color:61f1b615e8">
วันจันทร์เราคาดว่าแนวรับน่าจะอยู่ที่ 660 จุด แนวต้านอยู่ที่ 670 จุด
และต้องจับตาดูปัจจัยอื่นอีก เช่น ตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน
นอกจากนั้นก็ไม่น่าจะมีประเด็นที่จะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นนางวิริยา กล่าว[/color:61f1b615e8"> |
| | กลับขึ้นบน |
| |
