แนวต้าน 670 จุด ถ้าไม่ผ่าน อันตราย!

ตลาดหุ้นวันศุกร์ถือเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของนักเล่นหุ้นอย่างแท้จริง
หลังจากอดอยากปากแห้งมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ด้วยการทิ้งแบบไม่ยั้งของฝรั่ง
เดี๊ยนมองว่าปีนี้อิทธิพลนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นชนิดที่เรียกได้ว่าน่ากลัวมาก
เหมือนการตกหลุมรักใครคนมากเกินไปจนเราไม่เป็นตัวของตัวเอง ถูกปั่นหัวเป็นว่าเล่นค่ะ

*รายย่อยอย่างเราจะต้องเตรียมพละกำลัง ความรู้และหัวใจให้แข็งแกร่ง
เพราะบางครั้งหุ้นตกมาก อาจทำให้ใครบางคนหายใจเข้าออกติดขัดได้

ทางที่ดีที่สุด คือ เราต้องตีซี้กับลักษณะการลงทุนและสถานการณ์ในบ้านเมืองฝรั่งเป็นพิเศษค่ะ
เพราะเม็ดเงินลงทุนมันไหลเวียนทั่วโลก รวดเร็วยิ่งกว่ากระแสน้ำเชี่ยว
ถ้าเรายังเป็นเต่าหดหัวในกระดองก็มีแต่จะโดนพัดพาไป และลำลักน้ำตายในที่สุดค่ะ

*เห็นได้ชัดจากคำพูดของเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดคนปัจจุบัน
เพียงไม่กี่ประโยคกลับทำให้ตลาดหุ้นเขียวชะอุ่มทั่วโลก
พายุความกังวลที่โหมกระหน่ำตลาดหุ้นทุกแห่ง อ่อนกำลังลงอย่างเห็นได้ชัด
ตลาดหุ้นไทยก็ได้รับอานิสงค์ด้วยเช่นกันปรับขึ้นกว่า 17.07 จุดมาปิดที่ 665.39 จุด

*สิ่งที่ทำให้เดี๊ยนเริ่มยิ้มได้บ้าง คือ การซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ 600 กว่าล้านบาท
แม้เพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับการถล่มขายจนทำให้ดัชนีร่วงไปกว่า 100 จุด
แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีไม่น้อยค่ะ

*แต่เห็นอย่างนี้แล้ว อย่าเพิ่งดีใจมากไป
เพราะการกลับมาซื้อครั้งนี้อาจเป็นเพียงcover short ก็ได้ค่ะ
และที่สำคัญบทวิเคราะห์ฝรั่งยังไม่แนะนำให้ลงทุนในตลาดเกิดใหม่
(รวมถึงพี่ไทยด้วย)ในระยะนี้ เพราะยังเสี่ยงสูงค่ะ
ถ้าตลาดหุ้นไม่สามารถผ่าน 670 จุดไปได้ก็มีแต่ร่วงกับร่วงต่อไปแน่นอนค่ะ

*สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ก็ไม่ค่อยเป็นใจ
หลังผ่านงานเฉลิมฉลองครองราชย์ครอบ60 ปีของพระเจ้าอยู่หัวแล้ว
ความขัดแย้งต่างๆ ที่ถูกเบรกเอาไว้ก่อนหน้านี้
คงต้องกลับมาสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนเป็นแน่แท้
ขณะที่สถานการณ์ภาคใต้ก็กลับมาปะทุอีกรอบ
บ้านเราภูมิคุ้มกันอ่อนแอหลายด้านค่ะ
ถ้าจะขึ้นได้ก็มาจากความมั่นใจพื้นฐานเศรษฐกิจบ้านเราและเอเชียล้วนๆ ค่ะ

*ปตท.และเครือญาติวิ่งกันแบบไม่ยั้ง
โดย PTT ปิดที่ 218 บาท เพิ่มขึ้น 10 บาท
PTTEP ปิดที่ 103 บาท เพิ่มขึ้น 5 บาท
TOP ปิดที่ 61 บาท เพิ่มขึ้น 2.5 บาท
ส่วนTPI ปิดที่ 6.95 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
เพราะรายใหญ่และต่างชาติเข้ามาเก็บ โดยเฉพาะปตท.สผ.
ได้ข่าวแว่วมาว่าไตรมาส 2 มีทีเด็ดออกโชว์นักลงทุนแน่นอนค่ะ

*เดี๊ยนเชื่อแล้วว่านกรู้ก็ย่อมมีอยู่ทุกวงการ โดยเฉพาะตลาดหุ้น
เห็นได้จากกรณีของTOP ที่หุ้นร่วงหนักๆ ผู้บริหารก็เข้ามาซื้อกันอย่างหนุบหนับ
แถมส่วนใหญ่จะซื้อกันได้ที่ต่ำกว่า 60 บาท ทั้งนั้น
งานนี้ไม่รวยก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรกันแล้วนะคะ
เพราะดูตัวเลขแล้วกำไรทางบัญชีไปเรียบร้อยแล้วละคะ

*ในขณะที่ ม.ร.ว. ศุภดิศ ดิศกุล เอ็มดีของ BAFS ก็อีกหนึ่งเหมือนกันที่ไม่สนภาวะตลาด
เพราะล่าสุดช่วงที่ดัชนีดิ่งเหว ก็เข้ามาเก็บหุ้นเพิ่มอีก 130,000 หุ้น
ถัวเฉลี่ยแล้วมีต้นทุนไม่เกิน 9.50 บาทคะ
งานนี้ก็ได้หุ้นถูกเข้าพอร์ตไปอีกรอบแล้วคะ ราคาหุ้นปิดที่ 9.85 บาท

*สำหรับ ทยุติ ศรียุกต์สิริ กรรมการ TPI คงไม่ต้องบอกเลยว่า ต้องทำอย่างไร
เมื่อหุ้นบริษัทลงมามากขนาดนี้ ก็ซื้อซิคะ
หลังจากที่ล่าสุดก็เก็บหุ้นเข้าพอร์ตเพียงเล็กน้อยไม่มากไม่มายแค่ 2,750,000 หุ้น
เดี๊ยนมองว่างานนี้ขนหน้าแข้งคงไม่ร่วงหรอกนะคะ คุณพี่ขา

* TICON ราคาเพิ่งจะมาพุ่ง
เพราะก่อนหน้านี้แม้จะมีข่าวดีเรื่องกองทุนอสังหาฯที่ไอเอ็นจีบริหารอยู่เพิ่มทุนอีกรอบ
ขนเงินเข้ากระเป๋าเพียบในไตรมาส 2 แต่ราคาหุ้นกลับตกเอ๊าตกเอา
จนเดี๊ยนเองก็แปลกใจว่ามันเป็นข่าวร้ายตรงไหน
แต่พอนักลงทุนตั้งสติได้ราคาหุ้นก็ดีดขึ้นทันทีกว่า 0.80 บาท ปิดที่ 15.80 บาทค่ะ

*ส่วนแนวโน้มธุรกิจนั้น ไม่ต้องดูอะไรมาก
TFUND เป็นกองทุนที่ลงทุนโรงงานของไทคอนจ่ายปันผลสูงที่สุดกว่า 8%
ในบรรดากองทุนอสังหาฯทุกประเภท
และผู้จัดการกองทุนยังมั่นใจว่าการลงทุนทางตรงจะไหลเข้ามาในประเทศไทยอีกมาก
โดยเฉพาะช่วงที่เอเชียกำลังบูมได้ที่เช่นนี้ค่ะ

*เมื่อผู้จัดการกองทุนมั่นใจ TFUND ซะจนออกนอกหน้าขนาดนี้
นักลงทุนอย่างเราๆ ก็น่าจะมั่นใจ TICON ได้ไม่ยาก(หรือปล่าวค่ะเนี๊ยะ)
แต่อย่างว่าของดีก็มีแต่คนอยากได้ ราคาหุ้นเลยปรับเพิ่มขึ้นมาเยอะพอตัว
จะเล่นหุ้นตัวนี้ก็ต้องติดตามดูดีๆค่ะ
เดี๊ยวมีเทขายทำกำไรขึ้นมาระลอกใหญ่แล้วจะว้าวุ่นใจนะคะ

*เพียงแค่ตลาดเริ่มเห็นแสงสว่างเท่านั้น หุ้นโบรกเกอร์ก็เริ่มวิ่งกันแล้ว
นำโด่งโดยPHATRA ปิดที่ 42.25 บาทเพิ่มขึ้น 2 บาท
ASP ปิดที่ 3.9 บาท เพิ่มขึ้น 0.08บาท
เดี๊ยนมองว่าหุ้นกลุ่มนี้เล่นเก็งกำไรระยะสั้นได้ แต่จะให้ซื้อลงทุนนั้นไม่ขอแนะนำค่ะ
เพราะตลาดหุ้นปีนี้ไม่ค่อยสดใสปิ๊งปั๊งเอาซะเลยค่ะ

*แต่ที่แปลก คือไม่ยักกะเห็น KEST วิ่งอย่างทุกครั้ง
ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรนะค่ะ เพราะเดี๊ยนสังเกตมาหลายรอบแล้วว่า
ถ้าเมื่อไหร่ดัชนีวิ่งขึ้นแรงๆ แบบนี้หุ้นโบรกเกอร์ตัวแรกที่นักลงทุนเข้ามาเล่นก็ไม่พ้นหุ้นกิมเอ็ง
แต่ไฉนงานนี้ไม่มีทีท่าจะติด MOSTACTIVE กับเค้าละคะ
งานนี้คุณพี่มนตรีคงต้องฟิตหน่อยแล้ว