กว่า 30 ปีแล้วที่บัตรไดเนอร์สคลับได้เข้ามาประกอบธุรกิจบัตรพลาสติกในประเทศไทย
ถือว่ามีอายุยาวนานที่สุดในบรรดาผู้ให้บริการธุรกิจบัตรพลาสติกในระบบ
แต่ไดเนอร์สคลับไม่ได้มีการทำการตลาดมากนัก
ทำให้ฐานลูกค้าหรือจำนวนบัตรขยายได้ไม่ไกล
ทั้งนี้ ลักษณะของบัตรไดเนอร์สคลับ เป็นบัตรชาร์จการ์ด
คือ ใช้จ่ายผ่านบัตรไปจำนวนเท่าไหร่ ก็ต้องชำระเต็มจำนวน
ไม่มีการผ่อนชำระขั้นต่ำเหมือนกับบัตรเครดิตทั่วไป

นอกจากปัญหาการทำตลาดได้ไม่ดีนัก
สถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจด้านการเงิน ที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ หรือ นอนแบงก์
ได้หันมาให้ความสำคัญกับบัตรเครดิตกันอย่างมากในระยะหลัง
โดยเฉพาะในช่วง 2-4 ปี ที่ผ่านมา ส่งผลให้บัตรไดเนอร์สคลับเงียบหายไปจากวงการธุรกิจบัตร

กระทั่งปีที่ผ่านมา ไดเนอร์สคลับมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ภายใต้การนำของ ยืนยง เคน ทรงศิริเดช ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไดเนอร์สคลับ (ประเทศไทย) จำกัด
ซึ่งเขานำวิชาความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์จากสหรัฐเข้ามาปัดฝุ่นธุรกิจที่ซบเซาของไดเนอร์สคลับอีกครั้ง

ยืนยง เป็นชื่อจริงของเขา แต่คนทั่วไปจะเรียกเขาว่า เคน มากกว่า
เขาเรียนเมืองไทยจบแค่มัธยมสอง ที่ เซนต์ดอมินิกส์
หลังจากนั้นบินไปเรียนที่ แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา 11 ปีเต็ม จนจบปริญญาโท
แต่ในช่วงเรียนปริญญาตรี ปีแรก เขาเรียนคณะแพทยศาสตร์
แต่พอมาเจอการผ่าศพ มีความรู้สึกว่าไม่ชอบ เลยเปลี่ยนไปเรียนเศรษฐศาสตร์แทน

เพราะได้ทำการวิเคราะห์ โดยใช้เวลา 3 ปี
นับจากเรียนแพทย์ด้วยก็จบปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมมาครองได้สำเร็จ

สำหรับการเรียนปริญญาโท เขาเรียนที่แคลิฟอร์เนียเช่นกัน
โดยได้เรียนรู้เกี่ยวกับเกี่ยวกับเทคโนโลยี การบริหารจัดการของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เรียนรู้ถึงรูปแบบการปกครองของแต่ละประเทศ การเงิน การธนาคารของประเทศต่างๆ ทำให้เรียนรู้ได้ครบถ้วน

สามารถเห็นภาพที่ชัดเจน จึงทำให้รู้ในด้านเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ก่อนจบปริญญาโท เขาได้ทำวิจัยเกี่ยวกับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยเฉพาะเกี่ยวกับด้านเทเลคอม เพราะส่วนตัวก็ชอบด้านเทเลคอมอยู่แล้ว
และจากการทำวิจัยดังกล่าว ทำให้เขาได้ร่วมงานกับ ออเร้นจ์ ถึง 3 ปีเต็ม

มีหน้าที่รับผิดชอบด้านพัฒนาธุรกิจและกลยุทธ์
รวมทั้งดูแลการสร้างช่องทางการขาย และหาพันธมิตรให้กับออเร้นจ์
รวมทั้ง ดูตลาดมัลติมีเดีย พวกโหลดริงโทน
ตำแหน่งสุดท้าย คือ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโสฝ่ายมัลติมีเดีย ของออเร้นจ์
งานนี้ถือว่าชอบ เพราะเป็นตลาดวัยรุ่น ต้องมีการลงภาคสนาม เพื่อให้รู้ถึงพฤติกรรมของวัยรุ่น
มีการจัดงานเพื่อกระตุ้นตลาดอยู่ตลอด

สำหรับการก้าวเข้ามาร่วมงานกับไดเนอร์สคลับได้อย่างไรนั้น
เคน บอกว่า กลุ่มซิตี้กรุ๊ป ได้ทาบทามให้มาช่วยดูแลไดเนอร์ส คลับ
เพราะต้องการได้รูปแบบที่แปลกใหม่ ฉีกมุมมอง
มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เข้าตลาดได้มากขึ้น

ด้วยเหตุผลนี้ จึงเป็นที่สนใจ...
ประกอบกับตัวเองเป็นลูกค้าของไดเนอร์สคลับอยู่แล้ว
และเป็นบัตรใบแรกที่ถือ หลังจากกลับจากต่างประเทศ ซึ่งประทับใจ
เพราะได้สัมผัสแล้ว รู้สึกว่า เป็นบัตรที่มีเสน่ห์ แต่ทำไมเงียบหายไป
จึงอาสาเข้ามาปัดฝุ่นให้กับไดเนอร์สคลับ

เคยฝันว่าอยากร่วมงานกับซิตี้กรุ๊ป ตอนอยู่ที่ต่างประเทศ เพราะเป็นบริษัทอินเตอร์
เป็นผู้นำทางการตลาด เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อีกทั้งเป็นองค์กรที่มีเสน่ห์
พอกลับมาเมืองไทยได้ยินซิตี้กรุ๊ปรู้สึกดีใจ
แต่ก็ไม่ได้ฝันว่าจะได้ร่วมงานกับซิตี้กรุ๊ปที่เมืองไทย
เพราะกลับจากต่างประเทศก็ได้ทำงานด้านเทเลคอม
โดยได้นำความรู้ที่ร่ำเรียนด้านเศรษฐศาสตร์มาประยุกต์ใช้

ด้วยความที่เขาเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง เป็นคนที่ทำอะไรรวดเร็ว ตัดสินใจเร็ว
เคน บอกว่า เริ่มแรกที่มาทำงานไดเนอร์สคลับ ก็รู้เลยว่าต้องปรับตัวเข้ากับตลาด
ต้องเริ่มจากจุดแรก คือ ปรับโครงสร้างองค์กรให้มีความคล่องตัว
และจากการเข้ามาร่วมงานกับไดเนอร์สคลับ 1 ปีเต็ม
คือ ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2548 ถึงปัจจุบัน ถือว่าครบ 1 ปีเต็มพอดี
ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ...

** เปลี่ยนแปลง ปรับสภาพให้เหมาะสมกับตลาด
เริ่มจากบุคลากร โครงสร้างภายในต้องมีความสอดคล้องกัน
เนื่องจาก ปัจจุบันมีการแข่งขันที่รุนแรง การแก้ไข หรือ ปรับกลยุทธ์ต้องรวดเร็ว
ขณะที่ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ต้องเหมาะสมกับตลาดกลุ่มเป้าหมาย
ในแง่การจัดรายการส่งเสริมการขายก็ต้องสอดคล้องกับตลาดและจังหวะ
รวมทั้งใช้คนให้เหมาะสมกับงาน ในช่วงแรกต้องมองในสิ่งที่มีอยู่ว่ามีอะไรบ้างที่เหนือกว่าคนอื่น
แล้วมาสร้างเพิ่มและแก้ไขในสิ่งที่ควรแก้
ก็พบว่า ไดเนอร์สคลับเป็นบัตรใบแรกในเมืองไทย มีอายุที่ยาวนาน
เป็นบัตรที่ลูกค้ามีความจงรักภักดีสูง เป็นบัตรที่เจาะกลุ่มคนเดินทาง
ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นบัตรที่มีความแข็งแกร่งด้านลูกค้าองค์กร แต่เมืองไทยต้องเน้นบุคคลเป็นหลัก

ฉะนั้น รูปแบบของไทยจึงต่างจากเมืองนอก
ซึ่งองค์ประกอบหลักเหมือนกันแต่ต่างกันตรงปลีกย่อย
จึงนับว่า 1 ปีที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จเกิน 100% ที่วางไว้

สำหรับงานชิ้นโบแดง คือ การออกบัตรเครดิตไดเนอร์สคลับ ที่เจาะกลุ่มลูกค้าผู้บริหารรุ่นใหม่
และสามารถผ่อนชำระขั้นต่ำ 10% ของยอดเรียกเก็บในแต่ละงวดได้ด้วย
ซึ่งต่างจากบัตรชาร์จการ์ดที่ต้องชำระเต็มจำนวน

จากการเปิดตัวบัตรเครดิตไดเนอร์สคลับเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ทำให้ยอดบัตรเครดิตไดเนอร์สคลับได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่งผลให้ยอดรวมทั้งบัตรชาร์จการ์ดและบัตรเครดิตในปัจจุบันสูงเป็นกว่า 100,000 บัตรแล้ว
โดยเป็นบัตรเครดิตไดเนอร์สคลับถึงกว่า 30,000 บัตร ที่เหลือเป็นบัตรชาร์จการ์ด
การออกบัตรเครดิตไดเนอร์สคลับในครั้งนี้ ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
ได้รับรางวัล the best marketing campage ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
โดยได้รับรางวัลจากไดเนอร์สคลับที่ต่างประเทศ
และถือว่าเป็นรางวัลแรกของไดเนอร์สคลับของเมืองไทยในรอบ 38 ปี หลังจากเข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทย
ซึ่งรางวัลดังกล่าวถือว่าเป็นกำลังใจให้คนทำงาน ทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจ พอใจ ดีใจกับงานที่ทำอยู่
ในด้านของตัวเลขยอดบัตรเครดิตไดเนอร์สคลับนั้น ถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว

เป้าหมายต่อไป คือ ทำให้ดีขึ้น โดยวัดจากความพึงพอใจของลูกค้าว่า...
เวลานำบัตรไปใช้ได้รับการบริการดีหรือไม่
เวลาเกิดปัญหาได้รับการแก้ไขให้ลูกค้าได้รวดเร็วขนาดไหน
หากลูกค้าสงสัยสามารถตอบปัญหาให้ลูกค้าเข้าใจได้มากน้อยแค่ไหน
สิ่งเหล่านี้ลูกค้าจะเป็นคนตอบได้ว่า ความพึงพอใจอยู่ตรงไหน

?เราต้องรู้ก่อนว่าลูกค้าของเราเป็นใคร มีพฤติกรรมอย่างไร
เมื่อรู้แล้วก็ออกผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
จัดรายการส่งเสริมให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
การใช้งบต่างๆ ก็ต้องให้ได้ประโยชน์สูงสุดและตรงกับลูกค้าต้องการ

สำหรับปี 2549 ไดเนอร์สคลับยังเน้นความต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา
เพราะเราถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ต่อจากนี้ไปจะต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม?

เคน บอกว่า แม้เขาจะเป็นผู้บริหารที่มีอายุยังน้อยอยู่ก็จริง
แต่ในด้านความสามารถแล้วไม่ถือว่าน้อยเท่ากับอายุ
เพราะภาระที่รับผิดชอบของไดเนอร์สคลับของเขานั้น
ต้องดูแลในไดเนอร์สคลับที่ ฮานอย ประเทศเวียดนามด้วย
ดังนั้นชีวิตของเขาจึงต้องอยู่เมืองไทยบ้าง ไปอยู่ในฮานอย ประเทศเวียดนามบ้าง
แม้ว่าภาระหน้าที่จะต้องรับผิดชอบสูง แต่เขาก็สามารถพิสูจน์ให้คนทั่วไปได้ทราบแล้วว่า
อายุไม่ใช่เป็นตัวขีดกั้นความสามารถ สิ่งที่เขายึดถือตลอดมา คือ ความละเอียดรอบคอบ
โดยต้องรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ต้องรู้ว่าทำไปเพื่ออะไร และต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า มีจุดประสงค์อะไร
ต้องเคารพและยอมรับกับการตัดสินใจของตัวเอง
เพราะหากมีอะไรที่ผิดพลาดไป ต้องพร้อมยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้

เวลาทำงานก็ต้องทุ่มเทให้กับงานเต็มที่ โดยไม่นำงานกลับไปทำที่บ้าน
เวลาทำงานก็ไม่นำเรื่องครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
เวลาที่เขาให้กับครอบครัวจะมีเฉพาะเย็นวันศุกร์ไปจนถึงวันอาทิตย์
เขาแยกเวลาทำงานกับเวลาพักผ่อนเอาไว้อย่างชัดเจน
แต่ก็มีบ้างที่เวลาเครียดๆ จากการทำงานก็ต้องหาวิธีแก้เครียดด้วยการหามุมสงบพักผ่อน
เพื่อให้ความสงบช่วยแก้ไขปัญหา เพราะความเงียบทำให้สามารถตั้งสติได้ และเห็นปัญหาที่แท้จริงได้

และด้วยนิสัยส่วนตัวของ เคน แล้ว เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ ชอบการเรียนรู้มากๆ
และบอกว่า หากหยุดเรียนรู้ ก็เหมือนกับการหยุดการเติบโต
และจากจุดนี้นี่เองที่เป็นที่มาของความต้องการอีกมุมหนึ่งของชีวิตของเขา

จากนี้ไปก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าไดเนอร์สคลับ
ภายใต้การนำของ เคน ผู้ที่มากด้วยวิชาความรู้และประสบการณ์
จะสามารถปัดฝุ่นไดเนอร์สคลับที่เงียบหายไปนาน มาคึกคักอีกครั้งได้หรือไม่ อย่างไร
ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ซบเซาเช่นนี้
ขณะที่กำลังซื้อในระบบเริ่มลดลง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น
ประกอบกับ อัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่รู้ว่าจะขึ้นสูงสุดในเวลาใด

แต่ก็หวังว่า เคน จะสามารถพาไดเนอร์สคลับไปถึงฝั่งตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ได้
เพราะจากผลงานหนึ่งปีที่ผ่านมา ก็ถือว่าสอบผ่านแล้ว

เยอะจัง...ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ คิก คิก

.000A .000A .000A

.0007 .0007 .0007 ข้อมูลเยอะมากๆแต่ดอกแพงน่ะ .000b .000b .000b