จับสัญญาณ จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ปรับแนวรบ(ใหม่)เลื่อนชั้น Holding Company ท่ามกลางข่าว อดิศัย โพธารามิก ย่องกลับมา ปั้นหุ้น ในเครือ หลังส่ง พิชญ์ เพิ่มพอร์ต JAS สะกิดบริษัทในเครือเก็บ TT&T เพิ่ม ก่อนคลอด ข่าวดี หนุนราคา..พร้อมดัน จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ กระจายหุ้นนักลงทุนอีกตัว



สตอรี่ใหม่ของ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) น่าติดตามขึ้นเรื่อยๆ หลังมีข่าวว่าอาจารย์ใหญ่แห่งกระทรวงศึกษาธิการ อดิศัย โพธารามิก กลับมา ปั้นหุ้น ของตัวเอง เริ่มจากปรับนโยบายการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทใหม่ โดยให้ จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ขึ้นเป็น โฮลดิ้ง คอมปะนี (บริษัทแม่) ของกลุ่ม

พร้อมๆ กับยื่นคำร้องขอออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งคำร้องดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง

สัญญาณที่เด่นชัดของแผนการ ปั้นหุ้น ของกลุ่มโพธารามิก ก็คือ อดิศัย ส่งซิกให้ พิชญ์ โพธารามิก (บุตรชายคนเดียว) เข้าไปทยอยเก็บหุ้น JAS ในตลาดหลักทรัพย์

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2549 จำนวนหุ้น JAS ในพอร์ตของ พิชญ์ เพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 1,664.77 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20.01% จาก ณ สิ้นปี 2548 กลุ่มโพธารามิกเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน JAS จำนวน 1,390.87 ล้านหุ้น หรือ 16.72%

เท่ากับว่าในช่วง ครึ่งปี (ม.ค.-มิ.ย.) ครอบครัวโพธารามิกเก็บหุ้น JAS เข้าพอร์ตเพิ่มขึ้น..ประมาณ 274 ล้านหุ้น

แหล่งข่าวประเมินว่า กลุ่มโพธารามิกยังเข้าไปเก็บรวบรวมหุ้น JAS-W และ JAS-W2 ในตลาด ที่มีราคาแปลงสภาพ 0.334 และ 0.50 บาท ตามลำดับ ถือเป็นไพ่ในมืออีกใบที่หลายฝ่ายคาดไม่ถึง และช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับที่ พิชญ์ เข้าไปเก็บหุ้น JAS ในตลาด ก็ปรากฏรายงานว่า บ.จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล เข้าไปเก็บหุ้น บมจ.ทีทีแอนด์ที (TT&T) เพิ่มขึ้นด้วย

ทำให้ทั้งเครือจัสมิน ถือหุ้น TT&T รวมกัน 967.74 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% ของทุนจดทะเบียน จากเมื่อปลายปีทั้งกลุ่มถือหุ้นอยู่เพียง 26.68%

ถ้าใครจับสัญญาณนี้ออกจะเห็น วอลุ่ม ทั้งหุ้น JAS และ TT&T เริ่มหนาแน่นเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะหุ้น JAS ที่มีข่าวดีรอ(ปล่อย)อีกเพียบ ในสตอรี่ของ..หุ้นเทิร์นอะราวด์ (ตัวใหม่)

การกลับมาของ อดิศัย รอบนี้ถือว่าไม่ธรรมดา มีเบื้องหน้าเบื้องหลังตรงที่ ทีทีแอนด์ที มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างคณะกรรมการบริษัท ชุดใหญ่ ในเวลาไล่เลี่ยกับช่วงที่ จัสมิน เข้าไปเก็บหุ้น TT&T

นั่นคือ คณะกรรมการบริษัท 7 คนในสายของ ธงชัย ล่ำซำ ยื่นหนังสือลาออกพร้อมกัน เพื่อเปิดทางให้ ทรงฤทธิ์ กุสุมรสนานันท์ มือขวาของ อดิศัย เข้ามาคุมเกมในตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการบริหาร แทน

ขณะที่ก่อนหน้านี้ สุรช ล่ำซำ ได้ขอลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสายงานการตลาดและบริการ และผู้อำนวยการสายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ ของ ทีทีแอนด์ที มีผลไปตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2549

การกลับมาของ อดิศัย ผ่านร่างเงาของ ทรงฤทธิ์ กุสุมรสนานันท์ ที่นั่งในตำแหน่ง ซีอีโอ ทั้งที่ ทีทีแอนด์ที (TT&T) และ จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ย่อมมีนัยสำคัญเชื่อมผ่านธุรกิจ (อิง) การเมืองได้คล่องตัวกว่า ธงชัย ล่ำซำ

หลังจากนั้น บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ ทีทีแอนด์ที ก็ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ โทรคมนาคมแบบที่สาม (บริการโทรศัพท์ประจำที่ และ บริการสื่อสารข้อมูล) ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 100,000 เลขหมาย และในเขตภูมิภาค 200,000 เลขหมาย..โดยการชงให้จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.)

...นี่คือ ข่าวบวก ต่อหุ้น TT&T ในระยะต่อไป

หลายฝ่ายประเมินว่า การที่ อดิศัย ไปดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ภายใต้เสื้อพรรคไทยรักไทย ทำให้บารมีของเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่า การเชื่อมผลประโยชน์ระหว่าง บมจ.ทีโอที กสท และ กทช. จะยิ่งสะดวกมากขึ้น

ภายใต้แผนธุรกิจฉบับใหม่นี้..เห็นได้ชัดว่า อดิศัย พยายามดันให้ จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ขึ้นเป็น บริษัทแม่ ของกลุ่ม ก็เพื่อให้ JAS รอรับผลประโยชน์ ปลายน้ำ ผ่าน บ.จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ (JAS ถือหุ้น 76.19%) ที่เตรียมจะกระจายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์..จำนวน 175 ล้านหุ้น

แท้ที่จริงแล้ว เนื้องานของ จัสมิน เทเลคอม รายได้หลักรับมาจาก บมจ.ทีโอที กสท และ ทีทีแอนด์ที ขุมทรัพย์ใหญ่ที่ต้อง ลิงค์งาน ผ่านการเมืองเป็นสำคัญ

อีกขาหนึ่งเขาก็วางให้ JAS รอรับผลประโยชน์โดยตรงจาก ทีทีแอนด์ที ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 30%

เพราะฉะนั้น สามเหลี่ยมผลประโยชน์ ภายใต้แผน ปั้นหุ้น จึงถูกลิงค์ 3 บริษัทเข้าด้วยกัน นั่นคือ จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ (JTS) และ ทีทีแอนด์ที (TT&T)

แหล่งข่าวแนะให้จับตาเส้นทางเดินของหุ้น JAS ให้ดีๆ จากนี้ข่าวลบไม่มี..มีแต่ข่าวบวก สังเกตจาก วอลุ่ม มีขาใหญ่รอรับ(พยุงราคา)หุ้นตัวนี้อยู่

มาร์เก็ตแคปหุ้น JAS ปัจจุบันอยู่ที่ 7,278 ล้านบาท (คำนวณที่ 15,485 ล้านหุ้นๆ ละ 0.47 บาท) ขณะที่ JAS มีเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวในมือ ณ 31 มีนาคม 2549 จำนวนมากถึง 4,532.98 ล้านบาท หรือเท่ากับ 62.28% ของมูลค่ากิจการตามราคาตลาด

เท่ากับว่าถ้าลงทุนซื้อหุ้น JAS ที่ราคา 1 บาท จะได้เงินสดกลับมา 0.62 บาททันที..นี่คือเหตุผลว่าทำไมราคาหุ้น JAS ถึงแรงดี..ไม่มีตก

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ[/color:30ab151159">

ถ้าท่านอาฟงจะกรุณาบอกที่มาของข่าวด้วย ก็จะดีมาก ๆ


.0005

เท่าที่ ดู ราคา จะไม่หวือ หวา

แต่ ถ้ามาที นึง ก็ กำไรเยอะเหมือนกัน

ต้องจับจัง หว่ะ ดี ดี ครับ

ต้องใจเย็นด้วย คนเล่น ตัว นี้

ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3

[quote:f5b732c3a8=อาฟง">จับสัญญาณ "จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล" ปรับแนวรบ(ใหม่)เลื่อนชั้น "Holding Company" ท่ามกลางข่าว "อดิศัย โพธารามิก" ย่องกลับมา "ปั้นหุ้น" ในเครือ หลังส่ง "พิชญ์" เพิ่มพอร์ต JAS สะกิดบริษัทในเครือเก็บ TT&T เพิ่ม ก่อนคลอด "ข่าวดี" หนุนราคา..พร้อมดัน "จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์" กระจายหุ้นนักลงทุนอีกตัว



สตอรี่ใหม่ของ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) น่าติดตามขึ้นเรื่อยๆ หลังมีข่าวว่าอาจารย์ใหญ่แห่งกระทรวงศึกษาธิการ "อดิศัย โพธารามิก" กลับมา "ปั้นหุ้น" ของตัวเอง เริ่มจากปรับนโยบายการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทใหม่ โดยให้ "จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล" ขึ้นเป็น "โฮลดิ้ง คอมปะนี" (บริษัทแม่) ของกลุ่ม

พร้อมๆ กับยื่นคำร้องขอออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ ซึ่งคำร้องดังกล่าวกำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลล้มละลายกลาง

สัญญาณที่เด่นชัดของแผนการ "ปั้นหุ้น" ของกลุ่มโพธารามิก ก็คือ "อดิศัย" ส่งซิกให้ "พิชญ์ โพธารามิก" (บุตรชายคนเดียว) เข้าไปทยอยเก็บหุ้น JAS ในตลาดหลักทรัพย์

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2549 จำนวนหุ้น JAS ในพอร์ตของ "พิชญ์" เพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 1,664.77 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20.01% จาก ณ สิ้นปี 2548 กลุ่มโพธารามิกเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน JAS จำนวน 1,390.87 ล้านหุ้น หรือ 16.72%

เท่ากับว่าในช่วง "ครึ่งปี" (ม.ค.-มิ.ย.) ครอบครัวโพธารามิกเก็บหุ้น JAS เข้าพอร์ตเพิ่มขึ้น..ประมาณ 274 ล้านหุ้น

แหล่งข่าวประเมินว่า กลุ่มโพธารามิกยังเข้าไปเก็บรวบรวมหุ้น "JAS-W" และ "JAS-W2" ในตลาด ที่มีราคาแปลงสภาพ 0.334 และ 0.50 บาท ตามลำดับ ถือเป็นไพ่ในมืออีกใบที่หลายฝ่ายคาดไม่ถึง และช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับที่ "พิชญ์" เข้าไปเก็บหุ้น JAS ในตลาด ก็ปรากฏรายงานว่า "บ.จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์" ซึ่งเป็นบริษัทในเครือจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล เข้าไปเก็บหุ้น "บมจ.ทีทีแอนด์ที" (TT&T) เพิ่มขึ้นด้วย

ทำให้ทั้งเครือจัสมิน ถือหุ้น TT&T รวมกัน 967.74 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% ของทุนจดทะเบียน จากเมื่อปลายปีทั้งกลุ่มถือหุ้นอยู่เพียง 26.68%

"ถ้าใครจับสัญญาณนี้ออกจะเห็น "วอลุ่ม" ทั้งหุ้น JAS และ TT&T เริ่มหนาแน่นเป็นช่วงๆ โดยเฉพาะหุ้น JAS ที่มีข่าวดีรอ(ปล่อย)อีกเพียบ ในสตอรี่ของ..หุ้นเทิร์นอะราวด์ (ตัวใหม่)"

การกลับมาของ "อดิศัย" รอบนี้ถือว่าไม่ธรรมดา มีเบื้องหน้าเบื้องหลังตรงที่ "ทีทีแอนด์ที" มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างคณะกรรมการบริษัท "ชุดใหญ่" ในเวลาไล่เลี่ยกับช่วงที่ "จัสมิน" เข้าไปเก็บหุ้น TT&T

นั่นคือ คณะกรรมการบริษัท 7 คนในสายของ "ธงชัย ล่ำซำ" ยื่นหนังสือลาออกพร้อมกัน เพื่อเปิดทางให้ "ทรงฤทธิ์ กุสุมรสนานันท์" มือขวาของ "อดิศัย" เข้ามาคุมเกมในตำแหน่ง "ประธานคณะกรรมการบริหาร" แทน

ขณะที่ก่อนหน้านี้ "สุรช ล่ำซำ" ได้ขอลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสายงานการตลาดและบริการ และผู้อำนวยการสายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ ของ "ทีทีแอนด์ที" มีผลไปตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2549

การกลับมาของ "อดิศัย" ผ่านร่างเงาของ "ทรงฤทธิ์ กุสุมรสนานันท์" ที่นั่งในตำแหน่ง "ซีอีโอ" ทั้งที่ "ทีทีแอนด์ที" (TT&T) และ "จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล" (JAS) ย่อมมีนัยสำคัญเชื่อมผ่านธุรกิจ (อิง) การเมืองได้คล่องตัวกว่า "ธงชัย ล่ำซำ"

หลังจากนั้น บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ "ทีทีแอนด์ที" ก็ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ โทรคมนาคมแบบที่สาม (บริการโทรศัพท์ประจำที่ และ บริการสื่อสารข้อมูล) ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 100,000 เลขหมาย และในเขตภูมิภาค 200,000 เลขหมาย..โดยการชงให้จากคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.)

...นี่คือ "ข่าวบวก" ต่อหุ้น TT&T ในระยะต่อไป

หลายฝ่ายประเมินว่า การที่ "อดิศัย" ไปดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ภายใต้เสื้อพรรคไทยรักไทย ทำให้บารมีของเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่า การเชื่อมผลประโยชน์ระหว่าง "บมจ.ทีโอที" "กสท" และ "กทช." จะยิ่งสะดวกมากขึ้น

ภายใต้แผนธุรกิจฉบับใหม่นี้..เห็นได้ชัดว่า "อดิศัย" พยายามดันให้ "จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล" (JAS) ขึ้นเป็น "บริษัทแม่" ของกลุ่ม ก็เพื่อให้ JAS รอรับผลประโยชน์ "ปลายน้ำ" ผ่าน "บ.จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์" (JAS ถือหุ้น 76.19%) ที่เตรียมจะกระจายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์..จำนวน 175 ล้านหุ้น

แท้ที่จริงแล้ว เนื้องานของ "จัสมิน เทเลคอม" รายได้หลักรับมาจาก "บมจ.ทีโอที" "กสท" และ "ทีทีแอนด์ที" ขุมทรัพย์ใหญ่ที่ต้อง "ลิงค์งาน" ผ่านการเมืองเป็นสำคัญ

อีกขาหนึ่งเขาก็วางให้ JAS รอรับผลประโยชน์โดยตรงจาก "ทีทีแอนด์ที" ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 30%

เพราะฉะนั้น "สามเหลี่ยมผลประโยชน์" ภายใต้แผน "ปั้นหุ้น" จึงถูกลิงค์ 3 บริษัทเข้าด้วยกัน นั่นคือ "จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล" (JAS) "จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์" (JTS) และ "ทีทีแอนด์ที" (TT&T)

แหล่งข่าวแนะให้จับตาเส้นทางเดินของหุ้น JAS ให้ดีๆ จากนี้ข่าวลบไม่มี..มีแต่ข่าวบวก สังเกตจาก "วอลุ่ม" มีขาใหญ่รอรับ(พยุงราคา)หุ้นตัวนี้อยู่

มาร์เก็ตแคปหุ้น JAS ปัจจุบันอยู่ที่ 7,278 ล้านบาท (คำนวณที่ 15,485 ล้านหุ้นๆ ละ 0.47 บาท) ขณะที่ JAS มีเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราวในมือ ณ 31 มีนาคม 2549 จำนวนมากถึง 4,532.98 ล้านบาท หรือเท่ากับ 62.28% ของมูลค่ากิจการตามราคาตลาด

เท่ากับว่าถ้าลงทุนซื้อหุ้น JAS ที่ราคา 1 บาท จะได้เงินสดกลับมา 0.62 บาททันที..นี่คือเหตุผลว่าทำไมราคาหุ้น JAS ถึงแรงดี..ไม่มีตก

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ[/color:f5b732c3a8">[/quote:f5b732c3a8">