จับตาปฏิบัติการเก็บหุ้น บมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) ของ พลพัฒ กรรณสูต กรรมการผู้จัดการบริษัท ซึ่ง สวนทาง ราคาหุ้น NWR ที่ไต่ราคาลงมาโดยตลอด ท่ามกลางทิศทางของบริษัทที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะพลิกกลับมาทำกำไรได้เมื่อไร




นับตั้งแต่ต้นปี ถึงปัจจุบัน 2 พี่น้อง พลพัฒ-อาภาธร กรรณสูต เข้าเก็บหุ้น NWR ไปจำนวนถึง 15 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 0.87 บาท หากวัดกันที่ราคาหุ้นล่าสุด เขาจะขาดทุนไปแล้วกว่า 47%

สถานการณ์ล่าสุด บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง ยังต้องเผชิญกับปัญหารัฐบาลจ่ายเงินค่าก่อสร้างล่าช้า รวมทั้งการจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างราคาวัสดุก่อสร้าง (ค่าเค) ที่สูงเกิน 4% ทั้งๆ ที่งานได้ดำเนินไปเรียบร้อยแล้ว

...คำถามก็คือ เหตุใด พลพัฒ จึงสวนกระแสเก็บหุ้น(ตัวเอง)มาโดยตลอด

วัชรพัธ วัชราภัย ผู้จัดการทั่วไป แผนกธุรกิจใหม่ และวางแผนกลยุทธ์ของบริษัท ตอบคำถามว่า เพราะราคาหุ้น NWR ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี (Book Value) ที่ระดับ 0.95 บาทมาก ขณะที่งานก่อสร้างก็ยังมีอยู่ในมือ (ปัจจุบัน NWR มีงานอยู่ระหว่างดำเนินการ มูลค่าประมาณ 7,300 ล้านบาท)

แต่เขาก็ยอมรับว่าปีนี้ (2549) ผลงานของบริษัทไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ แต่ผลการดำเนินงานอาจจะดีขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2548 (ที่ขาดทุน 116 ล้านบาท) เนื่องจากงานก่อสร้างถนนที่ขาดทุน ได้ส่งมอบไปเรียบร้อยแล้ว

ปีนี้เรายังมีบางโครงการที่ขาดทุนบ้าง แต่เชื่อว่างานโดยเฉลี่ยทั้งหมดจะสามารถทำกำไรขั้นต้นได้ระหว่าง 4-7%

ส่วนผลขาดทุนในไตรมาสที่ 1 กว่า 11 ล้านบาทนั้น เกิดจากบริษัทได้ดำเนินการก่อสร้างวัง มูลค่า 300 ล้านบาทไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถรับรู้รายได้ เนื่องจากติดเงื่อนไขการเซ็นสัญญากับทางราชการ

ปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจและวางแผนกลยุทธ์ ขยายความเพิ่มเติมว่า ถือว่าเป็นข่าวดีในไตรมาสต่อๆ ไป เพราะงานชิ้นนี้มีมาร์จินค่อนข้างสูง ขณะที่ค่าใช้จ่ายได้บันทึกไปแล้ว เพราะฉะนั้นในช่วงไตรมาส 3 จะทำให้ตัวเลข (ผลการดำเนินงาน) ออกมาค่อนข้างดี

โดยรวมทั้งปีนี้ เรายังเชื่อว่าจะมีกำไร จากมูลค่างานที่รอรับรู้ในปีนี้ 4,000 กว่าล้านบาท โดยเฉลี่ยจะรับรู้ไตรมาสละ 1,000 ล้านบาท เราจะคุ้มทุนก็ต่อเมื่อต้องรับรู้รายได้ประมาณ 3,500 ล้านบาท จึงจะครอบคลุมกับต้นทุนค่าใช้จ่าย

อย่างไรก็ตาม สำหรับทิศทางการรับงานของ NWR ในอนาคต ต้องบอกว่าคาดเดาได้ยาก เนื่องจากยังมีอุปสรรคหลายด้าน ทั้งจำนวนงานที่น้อยลง และยังต้องไปตัดราคาประมูลงานต่ำๆ เพื่อให้ได้รับงาน

ยอมรับว่า ตอนนี้งานไม่ค่อยมีซัพพลาย (ผู้รับเหมา) ก็เลยเยอะกว่าดีมานด์ (งาน) ฉะนั้นในการประมูล ราคา มันจะต่ำ วัชรพัธ วัชราภัย ยอมรับตรงๆ

วัชรพัธบอกว่า กลยุทธ์ในปีนี้ ตั้งใจจะรักษาระดับงานในมือ (Backlog) ให้อยู่ที่ประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยต้องหางานมาเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ยังเป็นงานราชการ คาดว่าหลังจากเดือนตุลาคม ภายหลังได้รัฐบาลชุดใหม่ ถึงเวลานั้นน่าจะมีงานภาครัฐเปิดประมูลจำนวนมาก

งานราชการมีความเสี่ยงเรื่องหนี้สูญน้อยกว่างานเอกชน แม้บางช่วงจะมีปัญหาเบิกจ่ายเงินล่าช้า แต่ถือว่าปลอดภัยที่สุด รวมทั้งยังมีการชดเชย (ค่าเค) หากราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นเกิน 4% อยู่ที่ว่าจะหางานที่ทำแล้วมีกำไรได้หรือไม่

ที่ผ่านมา NWR ได้รับผลกระทบถูกเบี้ยวหนี้ อาทิ โครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่านที่ค้างชำระถึง 230 ล้านบาท ต้องทยอยตัดเป็นหนี้สูญ ขณะที่ไตรมาส 1 ได้ตั้งสำรองเป็นจำนวนเงิน 4.78 ล้านบาท

สำหรับงานที่บริษัทประมูลได้ล่าสุด เป็นงานก่อสร้างอุโมงค์และสายส่งใต้ดิน จากสถานีต้นทางบางกะปิ ถึง สถานีต้นทางชิดลม ของการไฟฟ้านครหลวง ภายใต้กิจการร่วมค้า โอบายาชิ-เนาวรัตน์ ซึ่ง โอบายาชิ คอปอร์เรชั่น และ เนาวรัตน์ พัฒนาการ ร่วมลงทุนในสัดส่วน 70:30 มีมูลค่าโครงการ 406 ล้านเยน และ 995.65 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้เมื่อสิ้นปี 2548 บริษัทได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 สายชลบุรี-พัทยา (ตอนที่ 3) กับกรมทางหลวง มีมูลค่าโครงการ 598.48 ล้านบาท

ปัจจุบัน มูลค่างานเนาวรัตน์พัฒนาการ มาจากงานภาคราชการ 54% งานภาคราชการต่างประเทศ 10% งานเอกชน 12% และงานเอกชนต่างประเทศ 24%

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ[/color:f9bd2cd126">

ป้าลูกหว้า ติด ตัว นี้ อยู่เหรอครับ คิก คิก

ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3