May 7, 2024   4:51:04 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > พลิกทฤษฎีสมอง
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 25/06/2006 @ 23:01:26
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

Emergenetics ค้นเส้นทาง ?ฮีโร่? สไตล์เรา[/color:d7470438d2">[/size:d7470438d2">

ยังไม่มีเครื่องมือไหนที่จะวัดมนุษย์ว่าแต่ละคนจะเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ได้
เพราะมนุษย์มีความซับซ้อนเกินไปที่จะสรุปออกมาเป็นกระดาษเพียง 1-2 หน้า

บ่อยครั้งที่เราฝันจะเป็นคนเก่ง อยากเด่นอยากดัง อยากเป็น ?ฮีโร่?

อยากเฉียบคมเหมือน แจ๊ค เวลส์ อยากเหลือเฟืออย่าง บิล เกตส์
ถ้าให้เข้ากับกระแสฟุตบอลโลกก็ต้องอยากเจ๋ง อย่าง โรนัลดินโญ, โรนัลโด หรือ เดวิด เบ็คแฮม



แกะกล่องแนวคิด ?Emergenetics? เครื่องมือพัฒนาศักยภาพมนุษย์
ที่ช่วยถอดรหัสความลับของการทำงานของสมองซีกซ้ายและขวาที่แสนซับซ้อน
เพื่อบอกให้เรารู้จักตัวเอง และคนอื่นๆ อย่างถ่องแท้

แนวคิดนี้บอกว่า ใครๆ ก็เป็น ?ฮีโร่? ได้

แต่เป็นฮีโร่ในแบบฉบับของตัวเอง เพราะมนุษย์นั้นแตกต่าง
จึงไม่มีทางที่จะโคลนออกมาเป็นพิมพ์เดียวกัน

?คนเราก็เหมือนเพชรที่มีความสดใสงดงาม อยู่ที่จะมองมุมไหน จะใช้งานอย่างไร?
นี่คือแก่นคิดของ Emergenetics

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 25/06/2006 @ 23:03:35 : re: พลิกทฤษฎีสมอง
ตีความแล้วหมายถึงโดยธรรมชาติแล้ว ทุกคนมีความเก่งอยู่ในตัว
เพียงแต่จะเก่งทางไหน เก่งอะไร ต้องหาให้พบ
และเรียนรู้ให้ได้ว่าจะนำความถนัด และความสามารถที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างไร

ดร.นิตยา นีรนาทโกมล ผู้อำนวยการ NWS คอนซัลแทนท์ จำกัด
ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์
บอกว่าที่จริงแล้ว หลักคิดของ Emergenetics
ก็มีอยู่ในศิลปะการรบเลื่องชื่อของตะวันออก ที่ปรากฏอยู่ในเรื่อง ?สามก๊ก?

เช่นปรัชญาขงเบ้งที่ว่า ?รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง?

ต่างกันที่ Emergenetics ถูกพัฒนาขึ้นในสหรัฐอเมริกา
และใช้กันแพร่หลายในโลกตะวันตกมากว่า 15 ปี

เป็นทฤษฎีที่ว่าด้วย การทำงานร่วมกันของสมองซีกซ้าย (Left-Brain) ที่คิดเป็นเหตุ เป็นผล (logic thinking)
กับสมองซีกขวา (Right-Brain) ที่คิดสร้างสรรค์ จินตนาการ งานศิลปะ

ผนวกเข้ากับอีก 3 ระบบของสมองคือ ส่วนของการเคลื่อนไหว ความจำ และการเรียนรู้

Emergenetics จัดแบ่งลักษณะคนจาก ความคิด และพฤติกรรม ออกเป็น 4 จำพวก
โดยใช้สีฟ้า , เขียว , แดง และเหลือง เป็นสัญลักษณ์แทน
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#2 วันที่: 25/06/2006 @ 23:05:20 : re: พลิกทฤษฎีสมอง
คนในกลุ่มสีฟ้า คือ นักวิเคราะห์ คิดเป็นเหตุเป็นผล ชอบครุ่นคิด ชอบแก้ปัญหา ชอบเทคโนโลยี
มักถูกมองว่าเป็นคนเย็นชา เป็นเจ้านายประเภทที่ลูกน้องต้องมีตัวเลขอ้างอิง

กลุ่มคนสีเขียว คือนักแบบแผน อยู่ในกฎระเบียบ ลงรายละเอียด ละเอียดรอบคอบ
คนอื่นมองเป็นคนไม่มีจินตนาการ หัวดื้อ เป็นเจ้านายประเภทมุ่งเน้นการปฏิบัติ และต้องลงมือทำด้วย

กลุ่มคนสีแดง คือ นักสานสัมพันธ์ ชอบการรวมกลุ่ม จึงเรียนรู้ได้ดีจากคนอื่น
พลิกแพลงเก่ง แต่ถูกมองเป็นคนเจ้าอารมณ์ เป็นเจ้านายที่จะเข้าอกเข้าใจลูกน้องได้ดี

กลุ่มคนสีเหลือง เป็นนักไอเดีย เป็นคนมีมโนภาพ จะเห็นอะไรในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น คิดนอกกรอบ
เป็นสีนักวิทยาศาสตร์ ออกความเห็นดี แต่ไม่ชอบสรุป
เป็นเจ้านายที่มีไอเดียใหม่เสมอในทุกๆ วัน ทำให้งานลงตัวยาก จึงถูกมองว่าเป็นคนหลุดโลก
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#3 วันที่: 25/06/2006 @ 23:08:03 : re: พลิกทฤษฎีสมอง
ประโยชน์ที่ได้จากทฤษฎี Emergenetics หรือการจัดประเภทตัวเอง เรียนรู้คนอื่น เพื่อ รู้เขา รู้เรา
ในเนื้อในตน ดร.นิตยา บอกว่ามีอยู่ 4 ข้อหลักๆ

ประการแรก คือ เมื่อเรารู้จักตัวเอง ก็จะช่วยเสริมสร้างภาวะผู้นำในสไตล์ที่เหมาะสมกับตัวเอง
ไม่เหมือนสูตรสำเร็จทั่วไป ที่กำหนดคุณลักษณะตายตัวว่าผู้นำจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
แต่จะเป็นการนำเอาจุดที่ถนัดของตัวเองมาเสริมสร้างความเป็นผู้นำขึ้นเอง

ประการที่สอง เมื่อรู้ว่าทีมงานของเราเป็น ใคร อยู่สีไหน
ก็จะทำให้เราสามารถสร้างทีมงานที่มีศักยภาพมากขึ้น
ใช้ความถนัดที่แตกต่างในแต่ละคน มาเพิ่มความรอบรู้ รอบคอบ มองได้ในมุมกว้าง

ประการที่สาม การรู้จักคนอื่น เข้าใจพื้นฐานตัวตนของคนอื่น จะทำให้การสื่อสารคล่องตัวขึ้น
และการสื่อสารสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่ต่างความคิด เพื่อบรรลุเป้าหมายเดียวกัน
เพราะเมื่อเรารู้ว่าคนอื่นแตกต่าง จะทำให้เราเข้าใจ
และสามารถโน้มน้าวให้คนเหล่านี้ร่วมมือจนบรรลุเป้าหมายขององค์กรได้ด้วยวิธีสื่อสารที่เหมาะกับแต่ละคน

ประการที่สี่ เมื่อรู้เขา รู้เรา ช่วยสร้างชีวิตให้สมดุล
เนื่องจากมนุษย์แต่ละคนมีหลายบทบาท เป็นผู้นำองค์กร เป็นอาจารย์พิเศษ เป็นพ่อบ้านหรือแม่บ้าน
การที่เรารู้จักว่าอะไรที่ถนัด อะไรที่เหมาะสมกับตัวเอง ก็จะช่วยให้การดำเนินชีวิตเป็นอย่างราบรื่นและมีความสุข

?Emergenetics? ทำให้เราได้การศึกษาลักษณะการเรียนรู้
และพฤติกรรมของตัวเองและคนอื่นได้โดยการใช้หลักสถิติ

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเรา เพื่อนเรา หรือ ทีมงานของเราเป็นคน สี ไหน ?
 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#4 วันที่: 25/06/2006 @ 23:12:11 : re: พลิกทฤษฎีสมอง
ดร.นิตยา บอกไว้ว่า การนำความคิดนี้มาใช้ในองค์กร
ต้องให้พนักงาน หรือทีมงาน ทำแบบทดสอบ เพื่อหา จุดแข็ง และ ข้อจำกัดของตัวเอง
จากนั้นก็จะมีการป้อนข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ผล วิเคราะห์ สี หรือ ลักษณะและพฤติกรรม ของผู้ที่ทำแบบทดสอบ
และ ลักษณะและพฤติกรรมของคนนั้นเมื่อเทียบกับผู้ที่ทำแบบทดสอบทั่วโลก

Emergenetics ยังไม่แพร่หลายในเมืองไทยนัก
แต่เครื่องมือนี้ก็ถูกนำไปใช้แล้วในโครงการ Youth For Understand (YFU)
โครงการนักเรียนเรียนแลกเปลี่ยนคล้าย AFS ซึ่งนักเรียนจะต้องมี Profile
โดยทำแบบทดสอบเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่

? ยังไม่มีเครื่องมือไหนที่จะวัดมนุษย์แต่ว่าคนนั้นเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ได้
เพราะมนุษย์มีความซับซ้อนเกินไปที่จะสรุปออกมาเป็นกระดาษเพียง 1-2 หน้า
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเรามีความต้องการที่จะเข้าใจตัวเองให้มากขึ้น
เครื่องมือจึงถูกพัฒนาขึ้นต่อเนื่อง? ดร. นิตยา กล่าว

ในหนังสือ The Essential Drucker ปีเตอร์ เอฟ ดรัคเกอร์
ปรมาจารย์ศาสตร์บริหารจัดการเขียนไว้ว่า
ในบรรดาการตัดสินใจของผู้บริหาร ไม่มีการตัดสินใจเรื่องใดจะสำคัญเท่ากับ การตัดสินใจในเรื่องคน?

เรื่องของคนเป็นเรื่องยาก เพราะปะปนด้วย อัตตา
แต่ถ้าเรารู้จักตัวเอง และยอมรับตัวตนของคนอื่น การบริหารคน และตัดสินใจเกี่ยวกับคนก็คงไม่ยากเย็นเกินไป




หมายเหตุ - เรียบเรียงจากงานสัมมนาหัวข้อ [/color:dfdd66d1c1">
?พัฒนาศักยภาพ กับศาสตร์ทางสมอง? จัดโดย สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ[/color:dfdd66d1c1">
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#5 วันที่: 25/06/2006 @ 23:32:58 : re: พลิกทฤษฎีสมอง
ขอบคุณคุณจันทรานะคะ.... โดยส่วนตัวก็เห็นด้วยกับ บทสรุปข้างต้น แล้ว...

พอดี มีข้อมูลนี้เก็บไว้ เลยเอามาเพิ่มเติมให้นะคะ.... เห็นว่าเป็นแนวเรื่องเดียวกันอะค่ะ

...................................................................................

This is a real test given by the Human Relations Dept.
นี่เป็นแบบทดสอบที่จัดทำโดย ?? นั่นแหละ แปลได้ใช่มะ

at many of the major corporations today.
โดยทำให้กับสนง.ส่วนมาก

It helps them get better insight concerning their employees and prospective employees.
มันช่วยให้เขาเข้าใจพนักงานของเขามากขึ้น
คำตอบที่ได้จะบอกถึงสภาพของคุณในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร [/color:3cc9ffd3ea">

Dr. Phil gave this test on Oprah she got a 38. Some folks pay a lot of money to find this stuff out.
โอปรา (พิธีกรที่ดังมากที่USA.)
ได้ทำแบบทดสอบอันนี้และเธอได้
38 คะแนน [/color:3cc9ffd3ea">


Read on, this is very interesting! Dont be overly sensitive!
อ่านต่อไป แบบทดสอบอันนี้น่าสนใจมาก แล้วอย่าคิดมากนะ

The following is pretty accurate. And it only takes 2 minutes.
แบบทดสอบอันนี้ค่อนข้างแม่นยำ และใช้เวลาทำเพียง2นาที

Its only 10 simple questions, so...... grab a pencil and paper,
มีเพียง10คำถาม พร้อมแล้วใช่ไหม

Answers are for who you are now...... not who you were in the past.


Begin... เริ่มกันเลย



[b:3cc9ffd3ea">1. When do you feel your best? เวลาช่วงไหนบ้าง ที่คุณจะรู้สึกดี

a) in the morning ตอนเช้า
b) during the afternoon & and early evening ตอนกลางวันและตอนเย็นๆค่ำๆ
c) late at night ตอนดึกๆ



2. You usually walk ปกติคุณจะมีท่าทางการเดินแบบไหน

a) fairly fast, with long steps เดินเร็ว ก้าวยาวๆ
b) fairly fast, with little steps เดินเร็ว แต่ก้าวสั้นๆ
c) less fast head up, looking the world in the face
เดินไม่ค่อยเร็ว หน้าตรง ตามองไปรอบๆ
d) less fast, head down เดินไม่ค่อยเร็ว ก้มหน้า
e) very slowly เดินค่อนข้างช้า






3. When talking to people you... เวลาคุยกับใครคุณทำท่า?

a) stand with your arms folded ยืนกอดอก
b) have your hands clasped ยืนประสานมือ
c) have one or both your hands on your hips
มือข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างอยู่ที่สะโพก
d) touch or push the person to whom you are talking
แตะคนที่คุยด้วย
e) play with your ear, touch your chin, or smooth your hair
เล่นกับหู / ต้องแตะคาง /เล่นผม


4. When relaxing, you sit with... ท่านั่งสบายๆของคุณเป็นยังไง

a) your knees bent with your legs neatly side by side
เอาขาพับเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง
หรือเอาให้สุดกู่เข้าใจง่ายๆพับเพียบประมาณนั้น
b) your legs crossed นั่งไขว่ห้าง
c) your legs stretched out or straight ยืดขาตรง
d) one leg curled under you
เอาขาขึ้นมาขด คล้ายๆนั่งขัดสมาธิ แต่ใช้ขาข้างเดียว



5. When something really amuses you, you react with...
ถ้ารู้สึกร่าเริง ดีใจ แสดงออกยังไง

a) a big, appreciative laugh หัวเราะดังๆอย่างพอใจ
b) a laugh, but not a loud one หัวเราะ แต่ไม่ดังมาก
c) a quiet chuckle หัวเราะ หึๆ
d) a sheepish smile ยิ้มแบบอายๆ



6. When you go to a party or social gathering you... เมื่อไปงานเลี้ยง

a) make a loud entrance so everyone notices you
เข้าไปอย่างเป็นที่สนใจ ทุกคนต้องรู้ว่าคุณมาแล้ว
b) make a quiet entrance, looking around for someone you know
เข้าไปเงียบๆมองหาคนที่รู้จัก
c) make the quietest entrance, trying to stay unnoticed
เข้าไปอย่างเงียบที่สุด พยายามไม่เป็นที่สนใจ


7. Youre working very hard, concentrating hard, and youre interrupted,
do you...
คุณทำงานอย่างหนัก ทุ่มเทมากๆ แต่ถูกขัดจังหวะ คุณ?


a) welcome the break รู้สึกเฉยๆ+ยินดี
b) feel extremely irritated รู้สึกฉุนเฉียว กวนประสาท
c) vary between these two extremes รู้สึกก้ำกึ่ง2ข้อข้างบน



8. Which of the following colors do you like most?
ชอบสีอะไรมากที่สุดต่อไปนี้

a) Red or orange
b) black
c) yellow or light blue
d) green
e) dark blue or purple
f) white
g) brown or gray



9. When you are in bed at night, in those last few moments before
going to sleep, you lie...
อยู่บนเตียง กำลังจะนอนทำท่ายังไง

a) stretched out on your back ยืดตัว ยืดแขน
b) stretched out face down on your stomach ยืดตัว หน้ามองที่ท้อง
c) on your side, slightly curled เอียงข้าง นอนขด
d) with your head on one arm นอนเอาหัวทับแขน
e) with your head under the covers คลุมโปง








10. You often dream that you are... ฝันแบบไหนบ่อยๆบ้าง

a) falling ฝันไม่ค่อยดี เหมือนกำลังดิ่งลงไปเรื่อยๆ
b) fighting or struggling กำลังต่อสู้
c) searching for something or somebody กำลังค้นหาใคร หรือสิ่งใด
d) flying or floating บินหรือกำลังลอยอยู่
e) you usually have dreamless sleep ไม่ค่อยฝัน
f) your dreams are always pleasant ฝันแต่สิ่งที่ดี [/color:3cc9ffd3ea">


POINTS:

1. (a) 2 (b) 4 (c) 6
2. (a) 6 (b) 4 (c) 7 (d) 2 (e) 1
3. (a) 4 (b) 2 (c) 5 (d) 7 (e) 6
4. (a) 4 (b) 6 (c) 2 (d) 1
5. (a) 6 (b) 4 (c) 3 (d) 5 (e) 2
6. (a) 6 (b) 4 (c) 2
7. (a) 6 (b) 2 (c) 4
8. (a) 6 (b) 7 (c) 5 (d) 4 (e) 3 (f) 2 (g) 1
9. (a) 7 (b) 6 (c) 4 (d) 2 (e) 1
10. (a) 4 (b) 2 (c) 3 (d) 5 (e) 6 (f) 1


Now add up the total number of points. [/color:3cc9ffd3ea">


OVER 60 POINTS:

> Others see you as someone they should handle with care.
คนอื่นๆมองว่าการอยู่กับคุณ เขาต้องระวังตัวเองอยู่เสมอ

> Youre seen as vain, self-centered, and who is extremely dominant.
เห็นว่าคุณเป็นที่มีทิฐิ เห็นแก่ตัว แล้วก็แปลก แตกแยก เด่นออกมา

> Others may admire you, wishing they could be more like you, but dont always trust you,
เขาอาจจะชื่นชมคุณ อยากเป็นเหมือนคุณ
แต่ไม่ทุกครั้งไปที่เขาจะไว้ใจคุณ

> hesitating to become too deeply involved with you.
และลังเลใจที่จะเข้ามาเป็นเพื่อนกับคุณ [/color:3cc9ffd3ea">


51 TO 60 POINTS:

> Others see you as an exciting, highly volatile,
คนอื่นๆมองว่าคุณเป็นคนที่น่าตื่นเต้น แต่อารมณ์แปรปรวน

> rather impulsive personality; a natural leader, whos quick to make decisions, though not always
และไม่ค่อยไตร่ตรองอะไร เป็นผู้นำโดยธรรมชาติ
ตัดสินใจเร็วแต่มันไม่ถูกเสมอไป

> the right ones. They see you as bold and adventuresome, someone who will try anything once;
เขาเห็นว่าคุณเป็นกล้าหาญ คนที่ลองทำอะไรเพียงครั้งเดียว


> someone who takes chances and enjoys an adventure. They
enjoy being in your company
คนที่กล้าเสี่ยงคว้าเอาโอกาส และสนุกกับการผจญภัย
เขารู้สึกสนุกที่ได้อยู่กับคุณ

> because of the excitement you radiate.
เพราะความน่าตื่นเต้นที่คุณสื่อออกมา [/color:3cc9ffd3ea">


41 TO 50 POINTS:

> Others see you as fresh, lively,
charming,amusing,practical, and
คนอื่นๆมองว่าคุณเป็นคนร่าเริง สดใส มีชีวิตชีวา มีเสน่ห์

> always interesting; someone whos constantly in the centerof attention, but sufficiently
และน่าสนใจ เป็นคนที่มักจะเป็นศูนย์กลางของความสนใจ แต่มีความ

> well-balanced not to let it go to their head. They also see you as kind, considerate, and understanding;
สมดุลรู้ว่าต้องทำตัวยังไง และยังมองว่าคุณเป็นคนใจดี เกรงใจคน
และมีความเข้าใจ

> someone wholl always cheer them up and help them out.
คนที่จะคอยให้กำลังใจ และช่วยเหลือเขาตลอดเวลา [/color:3cc9ffd3ea">


31 TO 40 POINTS:

> Others see you as sensible, cautious,
คนอื่นๆมองว่าคุณเป็นคนอ่อนไหว คิดมาก

> careful & practical. They see you as clever, gifted, or talented, but modest.
และรอบคอบ มองว่าคุณฉลาด มีพรสวรรค์ แต่เรียบง่าย ดูดี

> Not a person who makes friends too quickly or easily, but someone whos extremely loyal to friends
ไม่ใช่คนที่จะมีเพื่อนได้ง่ายๆ แต่จะเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อเพื่อน

> you do make and who expect the same loyalty in return. Those who really get to know you realize
และคาดหวังว่าเพื่อนก็ต้องเป็นเช่นนั้นกับคุณ
คนที่รู้จักคุณจริงๆจะรู้ว่า

> it takes a lot to shake your trust in your friends, but equally that it takes you a long time to get over it
ใช้หลายต่อหลายสิ่งและนานมากกว่าคุณจะรับใครเป็นเพื่อน
แต่ในทางกลับกันมันก็จะใช้เวลานานมากๆ

> if that trust s ever broken.
ที่จะทำให้คุณลืมความสัมพันธ์นั้นๆถ้ามันล้มเหลว [/color:3cc9ffd3ea">


21 TO 30 POINTS:

> Your friends see you as painstaking and fussy.
They see you as very cautious,
เพื่อนๆมองว่าคุณเป็นคนที่มีความมานะ บากบั่น และจุกจิก
มองว่าคุณค่อนข้างขี้ระแวง

> extremely careful, a slow and steady plodder. It wouldreally surprise them if you ever did something
ระมัดระวัง เชื่องช้าและมีความพยายามมากๆ
มันจะทำให้เขาแปลกใจถ้าพบว่าคุณทำอะไรซักอย่าง

> impulsively or on the spur of the moment, expecting you to examine everything carefully from every angle
โดยขาดการยั้งคิด หรือทำไปเพราะมีแรงกระตุ้นเพียงชั่วครู่
เขาจะคาดหวังว่าคุณต้องทดลองทุกอย่างในทุกๆแง่มุมของอะไรก็ตาม

> and then, usually decide against it. They think this
reaction is caused partly by your careful nature.
แล้วจากนั้น โดยปกติก็จะไม่เห็นด้วยกับอะไรทั้งสิ้น
เขาคิดว่าที่เป็นอย่างนี้ก็มาจากส่วนหนึ่งจากความขี้ระแวงโดยธรรมชาติของคุณนั่นเอง [/color:3cc9ffd3ea">


UNDER 21 POINTS:

> People think you are shy, nervous, and
indecisive, someone who needs looking after,
คนอื่นๆมองว่าคุณขี้อาย ขี้กลัว และไม่กล้าตัดสินใจ
คนที่ต้องการการดูแล

> who always wants someone else to make the decisions & who doesnt want to get involved with anyone or anything
คนที่ต้องการให้คนอื่นตัดสินใจแทน
และเป็นคนที่ไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับใครหรืออะไรทั้งนั้น

> They see you as a worrier who always sees problems that dont exist. Some people think youre boring
และยังรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่เห็นปัญหาที่มันไม่เคยมี
บางคนถึงขนาดบอกว่าคุณน่าเบื่อ

> Only those who know you well know that you arent.
มีแต่คนที่รู้จักคุณดีเท่านั้นจึงจะรู้ว่าคุณไม่ใช่ [/color:3cc9ffd3ea">

สรุปแล้ว ตกลง เรา รู้ เขา หรือ เขา รู้ เรา มากกว่า ละทีนี้ !!![/color:3cc9ffd3ea">

ฟฟฟฟ3 [/b:3cc9ffd3ea">
 กลับขึ้นบน
บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไป
#6 วันที่: 25/06/2006 @ 23:43:07 : re: พลิกทฤษฎีสมอง
.......................................................................................

อย่าคิดมากนา เค้าก้อบอกไว้แล้ว ว่าอย่าคิดมาก ... สบาย สบาย

ราตรีสวัสดี ... ขอให้เริ่มต้นอาทิตย์ใหม่ด้วยความสดใส สดชื่น และ

มีความสุขกันทุกคนน้า....


ฟฟฟฟ3
 กลับขึ้นบน
mr.w
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 490
#7 วันที่: 01/07/2006 @ 17:59:47 : re: พลิกทฤษฎีสมอง
ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com