*โมนิก้า คิดว่าการกลับเข้ามาซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ
ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ดัชนีเดินหน้ามาไกลขนาดนี้
จนผู้จัดการกองทุนและนักลงทุนเริ่มตั้งความหวังว่า ดัชนีจะไปเท่าโน้นเท่านี้กันอีกแล้ว
ส่วนจะเป็นจริงตามที่คาดหวังกันไว้หรือไม่ อันนี้ต้องติดตามดูกันเอาเอง

*เนื่องจากเดี๊ยนมองว่า หุ้นขึ้นได้เท่าไหร่ ไม่สำคัญเท่ากับปัจจัยภายในประเทศแข็งแกร่งเพียงใด
เพราะสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติตัดสินใจปรับพอร์ตการลงทุนก่อนหน้านี้
ล้วนมาจากสถานการณ์ในประเทศไม่เอื้อต่อการลงทุน
ทำให้ดัชนีร่วงหล่นไม่เป็นท่า ก่อนจะดีดตัวขึ้นมายืนเหนือ 650 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง

*การเคลื่อนไหวของดัชนีนับตั้งแต่บัดนี้ถึงขึ้นอยู่กับ แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติเพียวๆ
ฉะนั้นกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาในครั้งนี้ จึงเป็นหุ้นกลุ่มบลูชิพเพียงกลุ่มเดียว
โดยเฉพาะในรายของหุ้นกลุ่มพลังงาน และกลุ่มแบงก์ ถือเป็นหุ้นทีเด็ดของการขึ้นในรอบนี้อย่างเต็มตัว

*ยิ่งมีการคาดการณ์กันว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ของหุ้นกลุ่มดังกล่าว จะออกมาเลิศหรูอลังการ
ยิ่งเป็นแรงสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติย้อนเข้ามาเก็บหุ้นเป็นจำนวนมาก
หลังเห็นว่าราคาหุ้นตอนนี้ค่อนข้างถูกเป็นอย่างมาก
และเป็นฉนวนเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้รู้ทั้งหลายออกมายืนยัน นั่งยัน และนอนยันว่า
ได้เห็นดัชนีขึ้นไปยืนเหนือ 700 จุดอย่างแน่นอน

*เนื่องจากเห็น PTT และ PTTEP กระชากขึ้นติดต่อกันหลายวันแบบนี้ไงหล่ะ
ถึงมั่นอกมั่นใจว่าดัชนีจะต้องเดินหน้าต่อไป ยิ่งช่วงนี้ราคาน้ำมันเริ่มผงกหัวขึ้นรอบใหม่
ยิ่งเป็นแรงสนับสนุนให้ผลประกอบการไตรมาสถัดไปเลิศหรูอย่าบอกใครเชียว
เดี๊ยนถึงบอกได้คำเดียวว่า ผู้ถือหุ้นบริษัทนี้รับทรัพย์กันกระเป๋าตุง
ส่วนคนใช้รถอย่างคุณๆ ท่านๆ และตัวดิฉันเตรียมกระเป๋าฉีกอีกรอบได้เลย
เพราะในไม่ช้าจะต้องมีการปรับราคาน้ำมันอีกรอก...จริงหรือไม่เฮียประเสริฐ รู้ดีเจ้าค่ะ

*ผลพลอยได้ และอนิสงส์ดังกล่าวยังตกมาถึง RRC หุ้นน้องใหม่สดๆ ซิงๆ
ที่เพิ่งผ่านการทำราคาสูงสุดเป็นครั้งแรกอีกด้วย และมีแววจะไต่ระดับไปถึง 20 บาทในไม่ช้าแบบนี้
คุณๆ ท่านๆ ไม่เหลียวมอง และช้อนซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ตเพื่อเก็งกำไรก็ดูกะไรอยู่
เพราะของมันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ระยะยาวต้องดีแน่นอน

*เหมือนกับในรายของ SCC
ทุกครั้งที่หุ้นตกลงมาถึงระดับ 200 บาท มักมีแรงช้อนซื้อเข้ามาเป็นประจำ
อย่างนี้ไงเล่า โมนิก้า ถึงไม่อยากพูดให้ฟังบ่อยๆ เดี๋ยวจะกลายเป็นว่า เชียร์จนออกนอกหน้า
แต่สำหรับพวกขาประจำ และมิตรสหายที่ร้อยท่อต่อสายตรงหาเดี๊ยนเป็นประจำ
ป่านต้องนอนตีพุงรับทรัพย์กันอย่างถ้วนหน้า เพราะก่อนหน้านี้ทยอยรับหุ้นกับเกือบเต็มพอร์ต

*ในรายของ EVER ราคาหุ้นพุ่งปรี๊ดมาถึงระดับ 8.10 บาท บวกไป 1.85 บาทหรือขึ้นถึง 29.60%
แบบนี้ ก็ไม่ได้ทำ โมนิก้า ต้องกลับลำมาแนะนำให้ซื้อหุ้นตัวนี้หรอกนะ
เพราะเดี๊ยนรู้จักปูมหลังของผู้บริหารท่านนี้เป็นอย่างดี...
เลยทำใจลำบากที่จะแนะนำหุ้นที่เคยมีบาดแผลฉกรรจ์
และทำให้นักลงทุนบางรายรู้สึกเซ็งในอารมณ์มาแล้วหลายราย
งานนี้หากต้องการรู้ว่า ในอดีตบริษัทแห่งนี้เคยสร้างวีรกรรมอะไรไว้บ้าง
ลองพลิกไปอ่านรายงานพิเศษหน้า 2 แล้วจะรู้เรื่องราวต่างๆ อย่างหมดเปลือก

*เช่นเดียวกับในรายของ KTP กระชากขึ้นอย่างร้อนแรง
จนมาปิดที่ 3.32 บาทบวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไปกว่า 22%
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นร่วงหล่นลงมาเป็นแรมปี
แถมข่าวดง ข่าวดีที่มีเข้ามาก็เป็นไปในลักษณะผ่านมาแล้วเลยไป
โมนิก้า ถึงไม่อยากพูดถึงหุ้นตัวนี้มากนัก เพราะเกรงจะขัดจังหวะลากไปออกของใครบ้างคนเข้ามานะซี

*งานนี้ถึงออกตัวก่อนว่า ไม่ได้เกลียด หรือ ชอบหุ้นตัวนี้อย่างสุดใจ
แต่ที่ต้องออกมาเตือนเพราะในอดีตมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
เลยอยากแนะนำนักลงทุนที่ไม่ใช่พวกคุณเน็ตให้ถอยไปไกลๆ
เดี๋ยวพลาดพลั้งขึ้นมาแล้วจะหาว่า คนสวยไม่เตือนเจ้าค่ะ

*ทางด้าน ASP ก่อนหน้านี้หุ้นกำลังฟอร์มตัวเพื่อกระชากขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม
แต่พอมาเจอข่าวผู้บริหารลาออกแบบนี้....
ราคาหุ้นถึงกับรูดลงมาปิดที่ 3.40 บาท ลบไป 0.24 บาท หรือลงไปกว่า 6%
น่าจะเป็นโชคร้ายสำหรับนักลงทุนรายย่อยตาดำๆที่ข่าวร้ายมาโผล่ในตอนนี้นะซี

*ส่วน RAIMON ดูอย่างไรก็เป็นเพียงแค่หุ้นพื้นๆ ที่ไม่น่าสนใจเอาเสียเลย
แม้จะมีข่าวเรื่องกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ 8 รายเข้ามา
ก็ไม่ได้ทำให้พื้นฐานของบริษัทเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ

โมนิก้า ถึงรู้สึกอิดหนาระอาใจกับหุ้นดาวรุ่งผีพุ่งใต้เป็นอย่างมาก
เพราะท้ายที่สุดเรื่องมักจบลงด้วยการไม่มีอะไรในก่อไผ่...
การที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.44 บาท บวกไป0.11 บาท ถึงไม่มีอะไรน่าสนใจพับผ่าซิ

*ผิดกับในรายของ TPIPL ประกาศเพิ่มทุนเป็นจำนวนมากแบบโต้งๆ
ถึงทำให้ราคาหุ้นร่วงหล่นเป็นนกปีกหักไงเล่า
เพราะของมันเห็นกันจะๆ ว่าหุ้นจะต้องไดลูทลงอีกเยอะ
ใครที่คิดจะซื้อหุ้นก็ควรรอให้แรงเทขายสะเด็ดน้ำเสียก่อน
หลังของถูกกว่านี้ยังมีให้ซื้ออีกเพียบพะยะค่ะ...
ล่าสุดวานนี้หุ้นลงมาปิดที่ 11 บาท ลบไป 1.70 บาท หรือลงไปกว่า 13%
ไม่ได้หมายความว่าหุ้นลงมากเกินควรนะค่ะ