May 3, 2024   11:51:07 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 07/07/2006 @ 11:41:18
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

บล.ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 07/07/49[/color:3576f36ea2">

กลยุทธ์ : พอร์ตเทรดดิ้งเล่นเร็ว ? หากเมื่อวานซื้อไป วันนี้คาด SET ขึ้นต่อ....แต่เป็นจังหวะขาย!!

SET วานนี้ปิดที่ 688.96 จุด เพิ่มขึ้น 8.24 จุด มูลค่าซื้อขายยังคงอยู่ที่ระดับประมาณ 10,000 ลบ. (10,736.68 ลบ.)
นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิ 857.95 ลบ.
วันนี้คาดว่า SET มีโอกาสบวกต่อตามตลาดภูมิภาค โดยไม่มีปัจจัยใหม่
นอกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังสหรัฐฯ ประกาศสต็อกน้ำมันเบนซีนสูงกว่าคาด

กลยุทธ์ : วานนี้แนะนำ พอร์ตเทรดดิ้งเล่นเร็ว

สำหรับวันนี้ แม้คาดว่า SET จะยังขึ้นต่อ แต่แนะนำให้ขายทำกำไร
เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากคืนนี้ที่สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย.
ซึ่งตลาดคาดเพิ่ม 185,000 ตำแหน่ง จาก พ.ค. เพิ่ม 75,000 ตำแหน่ง
อาจจะกลับมาเป็นแรงกดดันต่อการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ
นอกจากนี้ราคาน้ำมันเริ่มปรับลดลงเล็กน้อย

สำหรับพอร์ตปานกลางยังให้คงน้ำหนักการลงทุน 20 ? 30%
(หลังจากให้ลดน้ำหนักการลงทุนจาก 40 ? 50% ในวันพุธ 5 ก.ค. ? ที่ SET เหนือ 690 จุด)
โดยให้รอตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ในคืนวันศุกร์
หากตลาดดาวน์โจนส์ไม่ตอบสนองในทางลบค่อยพิจารณาเพิ่มน้ำหนักการลงทุน

ปัจจัยบวก (ดูรายละเอียดในหัวข้อปัจจัยที่ให้น้ำหนัก)
1)นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 857.95 ลบ.
2)เงินบาทกลับมาแข็งค่าสู่ 38.11 บาท/ดอลล่าร์

ปัจจัยเสี่ยง (ดูรายละเอียดในหัวข้อปัจจัยที่ให้น้ำหนัก)
1)คืนวันนี้ (7 ก.ค.) สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน มิ.ย.
ตลาดคาดเพิ่ม 185,000 ตำแหน่ง จาก พ.ค. เพิ่ม 75,000 ตำแหน่ง
ซึ่งจะกลับมาเป็นแรงกดดันต่อการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ

2)การเมืองในประเทศ

ทางเทคนิค : แม้จะดีดกลับขึ้นได้ แต่ความเสี่ยงต่อการปรับลงแรงยังมีสูงกว่า!!!

แม้ว่าวานนี้ดัชนีจะสามารถดีดกลับขึ้นมาได้
แต่ยังไม่สามารถขยับผ่านจุดสูงสุดในรอบนี้ที่บริเวณ 695 จุดขึ้นไป
จึงยังเป็นไปได้ที่จะเป็นเพียงการกระตุกขึ้นก่อนที่จะเริ่มปรับตัวลงต่อ
โดยแนวรับแรกจะอยู่ที่บริเวณ 675-673 จุดซึ่งเป็นช่องว่างที่เปิดทิ้งไว้
และเป็นบริเวณเดียวกันกับแนวรับจากเส้นต้นทุนเฉลี่ย 10 และ 25 วันด้วย

ดังนั้นถ้าดัชนีหลุดต่ำกว่าแนวรับดังกล่าว
จะมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่จะปรับตัวไหลลงไปหาแนวรับจากจุดต่ำสุดเดิมของรอบที่บริเวณ 640 จุด
และมีสิทธิที่จะลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าทันทีด้วย

แนวรับ : 675-673* , 660-640
แนวต้าน 695** , 700

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 07/07/2006 @ 12:21:24 : re: รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
**บล.พัฒนสิน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน 07/07/49[/color:c963a57c3b">

แนวโน้มตลาดวันนี้ : ขึ้นขาย เพื่อรอซื้อคืนบริเวณ 675 จุดหรือต่ำกว่า
CNSปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนวันนี้เป็น Neutral จากเดิม Negative
และคาดว่าดัชนีฯ ในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้ายังมีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบแนวต้านจิตวิทยา 700 จุด
ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทยปัจจุบัน เริ่มมีการแปลกแยกกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน
(วานนี้ญี่ปุ่น เกาหลีไต้ ลงแรง) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ทำสถิติสูงสุดใหม่
จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มหลักของไทย (32% Mkt Cap)
แต่ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มหลักของตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน เช่น กลุ่มส่งออก ไฮเทค สถาบันการเงิน ฯลฯ
ทำให้การเปลี่ยนแปลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยจะแตกต่างจากเพื่อนบ้าน

CNS คาดว่าทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยจะให้ความสำคัญสูงสุดต่อ ทิศทางราคาน้ำมันดิบ
ซึ่งคล้ายกับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในช่วง 3Q48 ที่ราคาน้ำมันดิบทำสถิติสูงขึ้นต่อเนื่อง
ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นหุ้นกลุ่มเดียวที่ปรับขึ้นแรง
และสนับสนุนให้ดัชนีตลาดฯ ปรับสูงขึ้นดีกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน
ส่วนปัจจัยที่ต้องระวังคือ ตัวเลขซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ 857.95 ล้านบาท วานนี้
ไม่สอดคล้องกับการซื้อสุทธิของ 4 โบรกเกอร์ต่างชาติจริง ๆ คือ UBS, CSFB,CLSA และ JPM
ที่ซื้อสุทธิเพียง 177 ล้านบาท ในทางตรงกันข้าม BFIT FINANSA กลับเป็นผู้ซื้อสุทธิสูงถึง 370 ล้านบาท
ดังนั้นหากดัชนีฯ ขึ้นแรงเช้านี้ CNS แนะนำ Take Profit ออกไปก่อน เพื่อรอซื้อคืนบริเวณ 675 จุดหรือต่ำกว่า

กลยุทธ์การลงทุน
ระยะ 1-3 เดือน : รอขายบริเวณ 700 จุด หรือสูงกว่า (ดูรายงาน Time to selective)

ระยะ 1-7 วัน : รอซื้อเมื่ออ่อนตัวบริเวณ 676 จุดหรือต่ำกว่า เพื่อรอขายใกล้ 700 จุด หรือสูงกว่าพอร์ตการลงทุน

ระยะ 1-3 เดือน : Core Holding อยู่ที่หุ้นกลุ่มที่มีรายได้แน่นอน
กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และกลุ่ม Special lssues
และเก็งกำไร Dividend Stocks : ซื้อเพิ่ม/ถือกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ พลังงานทดแทน
และซื่อเล่นสั้นกลุ่มบลูชิพที่มีรายได้แน่นอน (AOT, RATCH, EGCOMP และ BANPU)

ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อตลาดหุ้นไทยวันนี้

1) Dow Jones Fund Manager Survey เดือน ก.ค. (+) :
พบว่ากองทุนต่างชาติมีมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยดีขึ้นเล็กน้อยจาก Negative เป็น Marginally Positive
แต่ยังคงน้ำหนัก Slightly Underweight สำหรับการลงทุน

2) ดอกเบี้ยญี่ปุ่น (+) : NOMURA เปลี่ยนมุมมองต่อผลประชุม BOJ วันที่ 14 ก.ค.
โดยคาดว่ามีโอกาสสูงที่ BOJ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ประมาณ 0.25%
ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนระยะสั้นเข้ามายังเอเชีย เพื่อหวังผลตอบแทนจาก FX
และจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ จากแนวโน้มดอลล์อ่อน

3) ราคาน้ำมันดิบ(+หุ้นกลุ่มพลังงาน) : วานนี้ลดลง 5 เซนต์เป็น $75.14/บาร์เรล
และอุปสงค์ของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น จะส่งผลให้ราคาน้ำมันทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง
(ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และต่อเนื่องไปยังดัชนีตลาดฯ)

4) Fund Flow (+) : นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 อีก 857.95 ล้านบาท
รวม 8 วันซื้อสุทธิไปแล้ว 8.19 พันล้านบาท แต่ 4 โบรกฝรั่งจริงกลับซื้อสุทธิเพียง 177 ล้านบาท

5) การเมือง (-) : อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนระยะสั้น
โดยรอลุ้นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา 13 ก.ค. ว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องยุบ 5 พรรคการเมือง ฯลฯ
 กลับขึ้นบน
mr.w
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 490
#2 วันที่: 08/07/2006 @ 20:34:30 : re: รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
cns บอกแนว โน้ม ตลาด ดี นะครับ คิก คิก

ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com