May 4, 2024   5:04:41 AM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > ทางใหม่ "วงศ์สวัสดิ์" รวยลัด.."วินโคสท์"
 

????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
วันที่: 08/07/2006 @ 17:16:29
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

เปิดแผนรวยลัด ตระกูลวงศ์สวัสดิ์ กับเกม(ใหม่)ปั้นหุ้น วินโคสท์ รอบที่สอง..ครั้งนี้เหนือเมฆเคาะหุ้นเพิ่มทุนขาย ตัวเอง ราคา 1 บาท งานนี้ วงศ์สวัสดิ์ มีโอกาสฟันกำไรอื้อ หลังโกยเงินล็อตแรกไปแล้ว 80 ล้านบาท


เกมสร้าง Wealth ของ ตระกูลวงศ์สวัสดิ์ ผ่าน บมจ.วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค (WIN) กำลังถูกนำมาสร้างสตอรี่ขึ้นใหม่ เสมือนภาคต่อภายหลังกวาดกำไรกลับออกไปแล้วครั้งหนึ่ง

โดยเฉพาะแผนเพิ่มทุนของ วินโคสท์ น่าจับตามองมากที่สุด หลังมีการเคาะราคาขายหุ้นเดิมราคาถูกเพียง 1 บาท ที่ถูกสอดไส้มาพร้อมกับโครงการอภิโปรเจคของบริษัท

วินโคสท์ จะเพิ่มทุนอีก 143.17 ล้านหุ้น เสนอขาย ผู้ถือหุ้นเดิม อัตราส่วน 5 ต่อ 2 ที่ราคา 1 บาท (จองซื้อและชำระค่าหุ้น 24-30 สิงหาคม 49) พร้อมเตรียมกู้เงินจากสถาบันการเงินอีก 262 ล้านบาท

ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์ และตลาด บอกเหตุผลการเพิ่มทุนว่า จะนำเม็ดเงินไปใช้ลงทุนโครงการให้บริการขนส่งทางรถไฟเส้นทางนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด-ท่าเรือแหลมฉบัง จำนวน 350 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค จำนวน 151 ล้านบาท ผ่านบริษัทย่อย วินโคสท์ โลจิสติกส์

และอีก 198 ล้านบาทจะนำไปลงทุนอุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่งทางรถไฟ ผ่านบริษัทย่อย วินโคสท์ ทรานสปอร์ต

โดยจะเจาะจงไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และปัจจุบันบริษัทได้ติดต่อกลุ่มเป้าหมายในเขตมาบตาพุดแล้วหลายราย อาทิ ผู้ผลิตในเครือ ปตท. และปูนซิเมนต์ไทย

ทั้งนี้เชื่อว่า การขนส่งทางรถไฟจะเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการลดต้นทุนการขนส่งได้มากกว่า 10% โดยบริษัทมีเป้าหมายจะทำรายได้จากธุรกิจนี้ 300 ล้านบาทต่อปี ขนถ่ายสินค้า 7 หมื่นตู้ต่อปี กำหนดระยะเวลาคืนทุนภายใน 7 ปี และจะมีผลตอบแทนการลงทุนต่อปี 19.58%

โดยจะเริ่มดำเนินธุรกิจดังกล่าวในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2549 อย่างไรก็ตามในระยะยาวบริษัทมีแนวโน้มจะพัฒนาเส้นทางใหม่บริเวณสนามบินสุวรรณภูมิด้วย และขยายธุรกิจขนส่งทางเรือและทางอากาศ มีแผนพัฒนาที่ดินรองรับธุรกิจขนส่งทุกภูมิภาค

ชินณิชา ยังยืนยันว่า ตระกูลวงศ์สวัสดิ์ ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ (60-65%) จะใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนครบตามสัดส่วนอย่างแน่นอน

เกมเพิ่มทุน 1 บาทครั้งนี้ หากมองให้ลึก กลุ่มวงศ์สวัสดิ์ จะได้รับผลประโยชน์ไปเต็มๆ

ปัจจุบัน กลุ่มวงศ์สวัสดิ์ ถือหุ้น WIN รวม (นอมินี) กว่า 210 ล้านหุ้น จากหุ้นเพิ่มทุนในอัตรา 5 ต่อ 2 เขาจะมีสิทธิซื้อหุ้นเพิ่มถึงประมาณ 85 ล้านหุ้น ในราคา 85 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับราคาหุ้น WIN ล่าสุด 2.72-2.78 บาท และแผนการสร้างข่าว (บวก) ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องนับจากนี้ จะทำให้ Wealth ของ กลุ่มวงศ์สวัสดิ์ เพิ่มขึ้นทันทีหลายร้อยล้านบาท

...เป็นวิธีการสร้างความร่ำรวย ทางลัด แบบเห็นผลทันตา เพราะกลุ่มวงศ์สวัสดิ์สามารถซื้อหุ้นเพิ่มทุน จำนวน 60-65% ของทั้งหมด ที่ราคาพาร์ 1 บาท เท่ากับว่าได้เปรียบต้นทุน นักลงทุนรายอื่นในตลาด เพราะหุ้นเดิมในพอร์ต (ทั้งหมด) ก็มีราคาต้นทุนเพียงแค่ 1 บาทเช่นเดียวกัน

นี่คือวิธีการลดต้นทุนให้กับ เจ้าของหุ้น (เดิม) แต่ไม่ได้ลดต้นทุนให้กับ บริษัท เพราะถ้าลดต้นทุนให้กับ วินโคสท์ ก็ต้องขายหุ้นเพิ่มทุนในราคา พรีเมียม (สูงกว่าราคาพาร์) เงินส่วนเกินจะถูกนำไปลดต้นทุนเงินกู้ ถ้าผู้บริหารโปร่งใสจริงในที่สุดผลกำไรก็จะกลับมาที่ ผู้ถือหุ้น เหมือนกัน แต่วิธีการนี้ถือว่า ช้า และ ไม่ทันใจ

ผู้เชี่ยวชาญในตลาดหลักทรัพย์ กล่าวว่า ทางลัดที่เห็นผลทันใจ ก็คือ เพิ่มทุนราคาต่ำๆ ขายผู้ถือหุ้นเดิม หรือไม่ก็ขายเฉพาะเจาะจง (PP) ราคาต่ำกว่าราคาตลาด จากนั้นก็ปล่อยข่าวว่าได้พันธมิตรใหม่ หรือ มีโครงการลงทุนใหม่ที่มีอนาคต

เมื่อราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น ผู้ถือหุ้นเดิมก็จะเอาหุ้นตัวเองปล่อยขาย และให้ นอมินี เข้ามาเทรดหุ้นขาขึ้น ซึ่งตัวเองกำหนดเป้าหมายราคาหุ้นเอาไว้แล้ว ในท้ายที่สุดนักลงทุนรายย่อยจะเป็นคนเข้ามารับหุ้นราคาแพง..ขาดทุน เป็นไม้สุดท้าย

สำหรับหุ้น WIN เพียงแต่ผู้บริหารออกมาให้ข่าวว่า วางเป้าจะขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจ(ใหม่) โลจิสติกส์ ราคาหุ้นก็ตอบรับข่าวปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 30% (จาก 2.12 บาท ขึ้นมา 2.88 บาท) และมีแนวโน้มจะทำจุดสูงสุดใหม่ ทั้งๆที่โครงการต่างๆ เพิ่งเริ่มดำเนินการ และบริษัทก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในธุรกิจดังกล่าวมาก่อน

ที่สำคัญแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้ก็ยังอาจจะขาดทุน โดย ภัทรลาภ ทวีวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ก็ยอมรับว่า ผลการดำเนินงานปีนี้คาดว่าจะยังขาดทุน เพราะบริษัทได้ยกเลิกกิจการเดิม คือ การผลิตรถจักรยาน และรถแข่งโกคาร์ท ซึ่งมีสัดส่วนรายได้กว่า 50% ในปีที่ผ่าน ทำให้ขณะนี้เหลือเพียงรายได้จากคลังสินค้าปลอดอากร (ฟรีเทรดโซน) เพียงอย่างเดียว

ก่อนหน้านี้ กลุ่มวงศ์สวัสดิ์ ได้กวาดกำไรจากการขายหุ้น WIN ล็อตแรกไปแล้วอย่างน่าประทับใจ จากการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่จากธุรกิจรับจ้างผลิตจอภาพคอมพิวเตอร์ จอภาพ LCD ทีวี มาเป็นรับจ้างผลิตรถโกคาร์ท และรถจักรยานให้กับกลุ่มบริษัท แอล เอ ไบซิเคิล และหันมาทำธุรกิจพื้นที่เขตปลอดอากร แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นดังคาด

ขณะที่ ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ กลับปล่อยหุ้นออกมาขายจำนวน 19.20 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 4.15 บาท เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2548 ถอนทุนคืนกลับออกไปแล้ว ประมาณ 80 ล้านบาท ก่อนที่ราคาหุ้น WIN จะไหลรูดลงมาอย่างต่อเนื่อง

จากตลาดการขนส่งมีมูลค่ารวมประมาณ 1.98 แสนล้านบาท ระบบการขนส่งทางรถไฟมีการใช้เพียง 2% ขณะที่ขนส่งทางรถยนต์สูงถึง 88% ซึ่งเชื่อว่าการขนส่งทางรถไฟจะเป็นทางเลือกใหม่ที่จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งได้มากกว่า 10% และจะได้รับความนิยมในอนาคต ชินณิชา เชื่อมั่นว่า ธุรกิจใหม่ที่เธอกำลังปลุกปั้นครั้งนี้ถือว่ามาถูกทาง และมีโอกาสเติบโตสูง

...ท่ามกลางข้อสงสัยว่า นี่คือ แผนรวยทางลัดครั้งใหม่ของตระกูลเธอหรือไม่!!!

ที่มา กรุงเทพธุรกิจ BizWeek[/color:baebd2c315">

 กลับขึ้นบน
อาฟง
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,238
#1 วันที่: 08/07/2006 @ 17:16:58 : re: ทางใหม่ "วงศ์สวัสดิ์" รวยลัด.."วินโคสท์&q
ที่ผ่านมาแม้ ตระกูลวงศ์สวัสดิ์ จะเข้าไปเกี่ยวพันหุ้นร้อนหลายตัว โดยมีชื่อของ ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ลูกสาวคนกลางของ เจ๊แดง..เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เข้าไปเกี่ยวข้องมากที่สุด แต่วันนี้เจ้าตัวออกมายืนยันว่า ทุกอย่างเป็นแค่การทดลองลงทุน และขอหยุดทางเดินสายหุ้น เพื่อทุ่มแรงใจบริหาร วินโคสท์ (WIN) เท่านั้น



ชื่อของ ชินณิชา ปรากฏขึ้นในตลาดหลักทรัพย์ เริ่มจากปี 2545 ที่ เธอ และพี่ชายคนโต ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ เป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นใหญ่ในฝ่ายของตระกูลวงศ์สวัสดิ์ ร่วมกับน้าสาว มณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล นำ เอ็มลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น (MLINK) เข้าตลาดหลักทรัพย์

จากนั้นก็เข้าซื้อกิจการ วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค (WIN) (ชื่อเดิม เคพโทรนิค อินเตอร์เนชั่นแนล) เมื่อ 31 พฤษภาคม 2547 ก่อนจะนำกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

ขณะเดียวกัน ยังได้จับมือกับ กลุ่มวิไลลักษณ์ เข้าไปถือหุ้นใน แอสคอน คอนสตรัคชั่น (ASCON) ของ ตระกูลตนุมัธยา เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2547 และขายหุ้น ASCON ทั้งหมดให้กับกลุ่มวิไลลักษณ์ ในเดือนเมษายน 2548

ในระยะใกล้กันนั้น กันยายน 2547 กลุ่มวงศ์สวัสดิ์ได้เข้าถือหุ้น ทราฟฟิก คอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ (TRAF) ก่อนขายให้กับกลุ่มวิไลลักษณ์ บางส่วน

ขณะที่ช่วงปิดสมุดทะเบียนเมษายน 2549 ชินณิชายังปรากฏถือหุ้น จี สตีล (GSTEEL) และ สามารถไอโมบาย (SIM) อีกด้วย

อย่างไรก็ตามล่าสุด ชินณิชายืนยันกับ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ว่า นอกจากหุ้น WIN และ MLINK แล้ว ทุกวันนี้ตนเองไม่ได้ถือหุ้นอื่นใดเลย

ไม่มีแล้วค่ะ อย่างหุ้น SIM ก็ไม่มีค่ะ TRAF ก็ไม่มีค่ะ ถ้ามีก็มี WIN กับ MLINK แต่ที่ เอ็มลิ้งค์ เป็นการบริหารร่วมกับอีกกลุ่ม (มณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล)

ชินณิชาบอกว่า ที่เห็นลงทุน เพราะขณะนั้นอยู่ในช่วงทดลองลงทุนในฐานะส่วนตัว ซึ่งจำเป็นต้องลองสำรวจธุรกิจหลายธุรกิจ รวมถึงการเข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ แต่ขณะนี้ได้เลิกหมดแล้ว ต้องการเข้ามาโฟกัสธุรกิจโลจิสติกส์อย่างเดียว

ณ วันนี้หยุดลงทุน (เล่นหุ้น) แล้ว ยืนยันว่า หุ้นส่วนตัวไม่มีแล้วค่ะ

ขณะเดียวกันทางเดินไปสู่ความมั่งคั่ง ชินณิชา ต่อจากนี้ เธอยืนยันว่า จะยังไม่ลงทุนในธุรกิจไหนเพิ่ม ส่วนหุ้นที่เหลืออยู่อย่าง MLINK ก็จะถือหุ้นไว้เฉยๆ

เราได้เลือกธุรกิจที่มีอนาคตค่อนข้างดีแล้ว มันมี รูม (โอกาส) ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายด้านการขนส่ง เรามองว่าของเมืองไทยยังสูงมาก ถ้าเทียบกับต่างประเทศ ฉะนั้นการทำธุรกิจโลจิสติกส์ วันนี้จึงมีโอกาสค่อนข้างมาก ถ้าสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายลงมาได้ ที่เหลือก็จะเป็นกำไร

**********************************************
 กลับขึ้นบน
mr.w
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 490
#2 วันที่: 08/07/2006 @ 21:09:23 : re: ทางใหม่ "วงศ์สวัสดิ์" รวยลัด.."วินโคสท์&q
ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3 ฟฟฟฟ3
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com