สัปดาห์นี้หุ้นกลุ่มแบงก์น่าจะขานรับตัวเลขผลประกอบไตรมาส 2
ส่วนหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมี คงจะเริ่มรีบาวด์ขึ้นมารับข่าวผลประกอบการงวดครึ่งปีเช่นกัน

*ขณะที่หุ้นขนาดกลาง-เล็ก น่าจะพอโฉบเฉี่ยวได้บ้าง
เพราะหลายตัว เตรียมเอาใจนักลงทุนด้วยปันผล
อาทิ TICON ที่ฟันกำไรจากกองทุนกว่า2,000 ล้านบาท งานนี้ถ้าไม่จ่ายก็ดูเหมือนขี้เหนียวเกินไปแล้ว

*กระแสฟุตบอลโลกฟรีเวอร์ทำให้หุ้นหลายตัวพอมีน้ำมีนวลได้เยอะทีเดียว
ล่าสุด DELTA ยอดขายจอแอลซีดีและพลาสม่าในตลาดอเมริกา ขยับขึ้นไม่น้อยทีเดียว
ทำให้บอร์ดมีแนวคิดปรับนโยบายจ่ายปันผลระหว่างกาลด้วยเช่นกัน

*ส่วนหุ้นตระกูล SPORT ไม่ต้องพูดถึงรับเนื้อๆ
จับตาดูให้ดีตัวเลขกำไรงวดไตรมาส 2 น่าจะสูงสุดเป็นประวัติการณ์
แต่จะมีปันผลติดปลายนวมหรือไม่ก็ต้องลุ้นกันต่อไป

*หุ้น PLE น่าจะถือว่าเสียหายไม่น้อย
หลังมีแนวโน้มชวดรับงานใหญ่ตะวันออกลางร่วมหมื่นล้านบาท
ทั้งที่ว่าไปแล้วฝีไม้ลายมือ ไม่แพ้คู่แข่งอย่างเกาหลีใต้
แต่เงื่อนไขด้านเงินๆทองๆเท่านั้นแหละ..
ที่เฮียเสวกเสวก ศรีสุชาต บิ๊กบอสเพาเวอร์ไลน์ หนักใจเป็นที่สุด
เรื่องนี้ถ้าภาครัฐเข้ามาสนับสนุนสักหน่อย เชื่อได้เลยว่าผู้รับเหมาไทยไม่แพ้ใครแน่

*แม้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวม ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร
หลังเจอทั้งปัญหาราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้
แต่ LPN ดูจะสวนทางหลังตัวเลขงบไตรมาส 2 กำไรโตกว่า 130%
เห็นอย่างนี้เฮียฑิฆัมพร เปล่งศรีสุขจะให้อะไรเป็นผลตอบแทนผู้ถือหุ้นดีเนี๊ย

*ถึงเวลาร่วง EVER ก็รูดแบบหมดฟอร์มกันเลยทีเดียว แต่ที่แน่ๆงานนี้เจ็บตัวกันระนาว
ก็แปลกเหมือนกันเตือนกันจนปากจะฉีกแต่ยังถูล่ถูกังเล่นกันอยู่ได้
เจ็บตัวคราวนี้อย่าได้โทษใครเชียวกรรมใดใครก่อก็แบ่งกันไปเอง

*หุ้นผีดิบ POWER ดูเหมือนเป็นตัวต่อไปหลังจาก EVER ติดยอดดอยเรียบร้อยแล้ว
ว่ากันว่าคราวนี้มีคนการเมืองเข้ามาเอี่ยวด้วย
แต่ถ้าถามว่าเป็นกลุ่มไหน เห็นทีจะต้องกลับไปย้อนรอยกันตั้งแต่ PICNI มาสู่ EWC-APURE เอาละกัน
ใครเป็นใครเชื่อว่าหลายคนคงจำกันได้ดีอยู่แล้ว

*น่าจับตาท่าทีประชัย เลี่ยวไพรัตน์จะมีไม้เด็ดอะไรมาคัดค้านผู้บริหารทีพีไอ
ที่จะยื่นขอเปลี่ยนแปลงรายชื่อบอร์ดบริษัทลูก 5 แห่งต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าวันนี้(12ก.ค.)
ว่ากันว่าไม่มีเลี่ยวไพรัตน์หลงเหลืออยู่แม้แต่คนเดียว
อย่างไรตามนัยสำคัญที่เกี่ยวกับอำนาจของกรรมการชุดใหม่ทีพีไอ
ที่ฝ่ายประชัยยื่นไว้ที่ศาลจังหวัดระยองและนนทบุรี น่าจะเป็นสิ่งที่บอร์ดทีพีไอ น่าจะต้องพิจารณาอยู่ไม่น้อย

*ส่วนหุ้นเพิ่มทุน TPIPL กว่า 1,600 ล้านหุ้นทำท่าว่าจะขายไม่หมด
ล่าสุดทั้งเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้นรายย่อยแสดงเจตนาชัดว่า
จะไม่ใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน เพราะดูแล้วงานนี้ได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ....