May 3, 2024   7:46:27 PM ICT
เว็บบอร์ด > ห้องข่าว > เจาะกระดานหุ้น : ขึ้นไม่ไหว...ก็ต้องพัก
 

??????
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
วันที่: 12/07/2006 @ 09:03:32
คุณชอบกระทู้นี้หรือไม่

ผลการโหวต
ชอบ
0.00%
0 คน

ไม่ชอบ
0.00%
0 คน

อย่าหวังผลกำไรจากตลาดหุ้นในภาวะเช่นนี้เป็นอันขาด
เพราะสถานการณ์หลายอย่างไม่เป็นใจให้หุ้นไต่ระดับขึ้นไปสร้างแนวรับบริเวณ700 จุด
แถมที่ผ่านมาดัชนีทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง โดยไม่ได้ผ่านการปรับฐานแม้แต่นิดเดียวแบบนี้...
สัปดาห์หน้าถึงจะมีสิทธิ์ขึ้นไปยืนเหนือ 700 จุดนะจ๊ะ

*ประกอบกับช่วงนี้ตลาดหุ้นไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสร้างสีสันให้กับการลงทุน
เลยทำให้แรงซื้อที่มีเข้ามาในรอบนี้เป็นแรงเก็งกำไรสั้นๆ ทั้งนั้น...
ดัชนีเลยขาดแรงส่งที่จะขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไปไงหล่ะเด็กโง่

*ยิ่งวันจันทร์ที่ผ่านมาหุ้นบลูชิพโผล่มาแดงเถือกเกือบทั้งกระดาน
ขณะที่หุ้นเก็งกำไรประเภทสงครามวันเดียวดันปิดเขียวอื้ออยู่ไม่กี่ตัว
ยิ่งเป็นแรงสนับสนุนให้เดี๊ยนและทีมงานเลิกสนใจหุ้นกลุ่มบลูชิพชั่วคราว หลังเห็นว่าพูดไปก็ไลฟ์บอย...
สู้เอาเวลาที่เหลือไปชมนกชมปลาจะสบายใจกว่าเยอะ

*วันนี้ โมนิก้าขออนุญาตเอ่ยถึงหุ้น GSTEEL มากเป็นพิเศษนะคะ
เหตุที่ต้องขอพื้นที่ตรงนี้ คงจะไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
โดยเฉพาะเมื่อดูราคาหุ้นตั้งแต่บริษัทเข้าตลาดมาวันที่ 25 มกราคม หรือช่วงต้นปี 2549 จวบจนถึงปัจจุบัน(12ก.ค.)
ราคาหุ้นก็ปรับตัวต่ำจองมาโดยตลอด โดยล่าสุดเหลือเพียง 1.03บาทเท่านั้น
และน่าจะเป็นคำตอบที่เห็นได้ชัดที่สุด
บริษัทเหล็กแห่งนี้มีปัญหาในเรื่องความโปร่งใสเป็นอย่างมาก

*ส่วนเหตุผลที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงใกล้เคียงราคาพาร์นั้น
เนื่องจากมีความไม่โปร่งใสในธุรกรรมการซื้อหนี้ของ NSM
หลังจากการที่ โมนิก้า พูดคุยกับฟันด์แมเนเจอร์ ก็ได้ความว่า
เป็นข่าวการ เล่นแร่แปรธาตุ ของบรรดาผู้บริหาร
ที่คิดจะหาผลประโยชน์จากการเข้าไปซื้อหนี้จาก NSM เพื่อโยกเข้ากระเป๋าของตนเอง

*โดยบริษัท ON CITY HOLDINGS LIMITED
ซึ่งว่ากันว่าเป็นบริษัทนอมินีของเสี่ยสมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล ผู้ก่อตั้ง GSTEEL
ที่ถูกก่อตั้งขึ้นเข้าไปซื้อหนี้ NSM จากบสท. มาที่ราคาเพียง 100 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น

*จากนั้นก็ให้บริษัท บริษัท โอเรียลทัล อินเวสเม้นท์ จำกัด หรือ OI
ซึ่งเป็นบริษัทที่GSTEEL เพิ่งเข้าไปถือหุ้นอยู่ 94 %นั้น
เข้ามาซื้อหนี้ของ NSM ต่อจากเจ้าหนี้เดิม(ON CITYHOLDINGS LIMITED)ในราคาทั้งหมด 180 ล้านเหรียญสหรัฐ

 กลับขึ้นบน
จันทรา
สมาชิก

จังหวัด: กรุงเทพมหานคร
โพสต์: 1,898
#1 วันที่: 12/07/2006 @ 09:11:47 : re: เจาะกระดานหุ้น : ขึ้นไม่ไหว...ก็ต้องพัก
*ธุรกรรมที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทำให้ผู้ได้รับประโยชน์ (เจ้าหนี้เดิม)
กินส่วนต่างจากการซื้อหนี้ครั้งนี้ 80 ล้านเหรียญสหรัฐแบบนิ่มๆ โดยที่ไม่มีใครรู้เลย
แต่คำว่า ความลับไม่มีในโลก ยังสามารถใช้ได้อยู่เสมอ
เพราะความดันมาแตกเพราะผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่จองหุ้นไอพีโอไปกลุ่มหนึ่งเกิดรู้ความจริงเข้า
ก็เลยเทขายออกมา จนมีราคาอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

*สำหรับข้อสังเกตที่ ผู้จัดการกองทุนให้ไว้กับ โมนิก้า
ทำให้คิดว่าจะมีเจ้าสักกี่รายในโลกนี้ที่ยอมรับหุ้นเพิ่มทุนแทนเงินสด ถ้าไม่ใช่คนที่รู้จักกัน
ซึ่งมูลค่าหุ้นที่แลกมีสูงถึง60 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคิดเป็นจำนวนเงินแล้วไม่ใช่น้อยๆ เลยนะคะ
ถ้าคิดจากค่าเงินบาทแบบถ้วนๆ ที่ 40 บาท จะได้ประมาณ 2,400 ล้านบาท

* โมนิก้า ยังงงว่าเจ้าหนี้จะเอาหุ้น GSTEEL ไปทำอะไร
ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงมากเลยที่รับหุ้นแทนจ่ายเงินสด
ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าราคาหุ้นมีสิทธิที่จะผันผวนตามภาวะตลาด
โดยเฉพาะล่าสุดราคาหุ้นก็เลยเพียงแค่ 1 บาทต้นๆ เท่านั้น เดี๊ยนอยากรู้ว่าเจ้าหนี้เดิมใครเป็นผู้บริหาร

*ทำให้เกมนี้ดูแล้วท่าทางจะไม่ค่อยโปร่งใสแล้วละคะ
เพราะดูจากจำนวนหุ้นเพิ่มทุนใหม่ที่ GSTEEL เอาไปแลก(2,200 ล้านหุ้น)
คิดคำนวณเป็นราคาหุ้นในกระดาน
จะเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับมูลค่าหนี้ที่ตีไว้ 60 ล้านเหรียญสหรัฐ (อย่างกับมีการตั้งใจไว้)
อย่างนี้คงต้องปรบมือ ให้กับมือการเงินที่คิดดีลดังกล่าวให้กับ GSTEEL ด้วยนะคะ
ที่สามารถคาดเดาได้ว่าราคาหุ้นปัจจุบันจะต้องมาอยู่ที่ 1 บาทต้นๆ เท่านั้น

*การทำธุรกรรมทางการเงินแบบนี้ต้องอาศัยความลึกลับซับซ้อน
แบบซ่อนเงื่อนในสไตล์ที่ คุณก็รู้ว่าเค้าคนนั้นคือใคร
ซึ่งในอดีตผู้บริหารรายนี้เคยสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับพันธมิตรที่เป็นชาวญี่ปุ่นมาแล้ว
จากการแฮร์คัตหนี้แบบบันลือโลกที่ไม่สามารถเอาผิดได้

*นอกจากเรื่องดังกล่าวแล้ว ยังมีเรื่องข่าวไม่ดี
หลังหลุดไซเรนต์ พีเรียดรอบแรก 25% ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้
ซึ่งจะมีหุ้นออกมาเพ่นพานอีก 1,576 ล้านหุ้น
ซึ่งหุ้นสัดส่วนดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิม
ที่ ก้องเกียรติ โอภาสวงการ หรือดร.เค ของตลาดหุ้นไทย
นำหุ้น GSTEEL ไปเที่ยวเร่ขายให้กับกลุ่มนักธุรกิจที่เรียน
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน (วปรอ.) วปรอ.รุ่น 4414 เมื่อ 2 ปีก่อนโน้น

*โดยตอนนั้นมีการโฆษณากันว่าหุ้นดังกล่าวจะตั้งราคาไอพีโอสูงกว่า 2 บาท
เลยทำให้นักธุรกิจทั้งหลายที่มีชื่อเสียงในวงการตลาดหุ้นไทย
ได้จองหุ้นดังกล่าวที่ราคา 1.60บาท (เท่าไอพีโอ) เป็นจำนวนมาก
แต่จนแล้วจนรอดราคาหุ้นก็ไม่ถึง 2 บาทอย่างที่ดร.เค เคยคุยไว้

*จากการที่ โมนิก้าได้คุยกับนักธุรกิจที่เรียนวปรอ.รุ่น 4414 ก็มีเสียงบ่นร่ำๆหลายรายว่า
เมื่อถึงเวลาหลุดไซเรนต์ฯ จะขายทิ้งแน่นอน
ลำพังแค่ราคาหุ้นร่วงไม่ว่า แต่ดันมาเจอความไม่โปร่งใสเข้าไปอีกอย่างนี้มันจะไปเลยอะไรละคะเนี้ยะ

*ถ้าใครอยากรู้เรื่อง GSTEEL ลึกกว่านี้
โมนิก้าจะพยายามหาเวลาเขียนผ่านหน้า 2ให้อ่านก็แล้วกันคะ
และบอกได้คำเดียวว่าเสี่ยสมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล คนนี้ไม่ธรรมดาประวัติมีเป็นหางว่าว
 กลับขึ้นบน

 
 

Copy Right © 2009-2012 © Thaihoon.Com