ตลาดหุ้นไทยยังคงมีลงหายใจผะแผ่ว วอลุ่มหดหาย
ถึงจะมีรีบาวด์บางวัน ก็ยากจะเปลี่ยนทิศทางที่ขณะนี้ กลายเป็นหุ้นขาลงไปชั่วคราวแล้ว
ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะกลับมาเป็นขาขึ้นเมื่อใด

* เมื่อวานนี้ แม้ดัชนีจะรีบาวด์กลับมา...
แต่การที่ต่างชาติกลับมาเทขายอีกครั้ง ก็บ่งบอกสัญญาณชัดเจนว่า
จากนี้ไป ตลาดหุ้นไทยจะบ่ายหน้าไปทางไหน

* มีคนถามไถ่กันมาเยอะเหลือเกินว่า ช่วงนี้จะหันมาใช้กลยุทธ์เล่นหุ้นขาลงดีหรือไม่
เกียรติก้องขอย้ำว่า หากหน้าตักไม่มากพอ อย่าเสี่ยงเป็นอันขาด คำแนะนำที่พอจะทำได้คือ
ให้ลองศึกษาและเข้าถึงตลาดตราสารอนุพันธ์จะดีกว่า โดยเฉพาะยามตลาดเป็นขาลง

* เมื่อวานนี้ ตลาดตราสารอนุพันธ์มีคนซื้อขายกันทะลุ 1 พันกว่าสัญญา
มูลค่าซื้อขายปาเข้าไปกว่า 469 ล้านบาท
โตวันโตคืนอย่างนี้ น่าชื่นใจ สำหรับ เกศรา มัชฌุศรีผุ้จัดการตลาด TFEC เหลือเกิน
ที่แม้เป้าหมายเทรดวันละ 1 พันล้านจะยังไม่บรรลุเป้าแต่วอลุ่มที่โตขึ้นไม่มีหยุด ก็ถือว่า ฝีมือล้วนๆ

* ผิดกันกับตลาด MAI ที่หลายสัปดาห์มาแล้ว ออกอาการโคม่าอย่างน่าใจหาย
เมื่อวานนี้ วอลุ่มเทรดเหลือแค่ 7.68 ล้านบาทเท่านั้น ต่ำสุดในรอบหลายปี
นี่ก็พิสูจน์ฝีมือของผู้จัดการตลาดคนปัจจุบัน ชนิตร ชาญชัยณรงค์
ที่ถามไถ่นักลงทุนแล้ว หาคนรู้จักและจำชื่อได้น้อยเหลือเกิน...มิน่า!!

* สถานการณ์เช่นนี้ ตรงกันข้ามกับคำประกาศล่าสุดของภัทรียา เบญจพลชัย ผู้จัดการตลาดฯ
ที่ว่าจะปรับแผนยุทธศาสตร์พัฒนาตลาดหุ้น 3 ปีให้ตรงกับการเป็นตลาดทุนครบวงจร....
ไม่อยากจะปรามาสว่าฝันกลางวัน แต่ก็ขอขัดเอาไว้ก่อนว่า
ขอให้ปรับอย่างมีวิสัยทัศน์ และ มีทัศนคติเชิงรุก ด้วยจิตใจที่เปิดกว้าง ไม่ใช่ด้วย.....????

* เพื่อนพ้องน้องพี่หลายคนโทร.หาเกียรติก้อง
โอดครวญว่า ไม่เห็นพูดถึงหุ้นอย่างEVER ที่กลุ่มโลจายะเข้าไปถือหุ้นใหญ่ ที่ไม่กี่วันนี้ วิ่งฉลุยกันบ้าง
ก็เข้าไปดู ตายล่ะหว่า...กลับมานอนแอ้งแม้งหมดสภาพที่ใต้ 5 บาทอีกครั้ง
งานนี้เลือดนักลงทุนระดับแมงเม่าสาดกระจาย
หลังจากใช้เวลา 1 เดือนวิ่งจาก 4 บาทไปถึง เกือบ 13 บาท ตามประสาหุ้นขาปั่น ที่หาคนรับผิดชอบไม่ได้

* ส่วนหุ้นแกร่ง PTTEP แม้จะยังคงแข็งแกร่งที่ระดับเหนือ 100 บาท ตามประสาหุ้นพื้นฐานชั้นดี
แต่แนวโน้มหุ้นที่ยังคงเป็นขาลง ทำให้โอกาสที่จะกลับไปทดสอบแนวรับ100 บาท ยังเป็นไปได้สูง
หากอดใจรอรับที่แนวนั้น ยังมีโอกาสได้ของถูก

* มองไปรอบนอกบ้าง ตลาดหุ้นบอมเบย์ในอินเดีย แม้จะยังคงแข็งแกร่งเหนือระกับ10,200 จุด
แต่สถานการณ์ก็บ่งชัดเจนว่า ขาขึ้นของรอบหมดลงไปแล้ว
หลังจากไตรมาสแรกที่ผ่านมาทำสถิติยอดเยี่ยมเป็นที่สุดของโลกไปแล้ว

* มองในแง่การลงทุนภาคการผลิต
ข่าวร้ายเมื่อยักษ์ใหญ่ซอฟท์แวร์ระดับโลกไมโครซอฟท์ ของบิลล์ เกตส์
จะถอนการลงทุนจากเมืองไทยไปมาเลเซีย
ส่อเค้าอะไรบ้างไหมเอ่ย คนรักทักษิณจนหน้าดำคร่ำเครียดทั้งหลาย

* แต่ที่เกียรติก้อง กังวลมากสุด
หนีไม่พ้น สถานการณ์ในอิหร่าน(ไม่ใช่ในตะวันออกกลางที่เลบานอน ซึ่งดูหวือหวา)
เพราะเบื้องหลังที่แท้คือ การสร้างกระแสหรือ เงื่อนไข
เพื่อมุ่งไปสู่การหาทางให้สหประชาชาติยอมรับฉันทมติของชาติตะวันตกที่จะกินโต๊ะ
ใช้กำลังทหารเข้าล้มรัฐบาลประชาธิปไตยของอิหร่าน
ด้วยเหตุผลเดียวคือ หยุดยั้งการพัฒนาการสร้างโรงปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของอิหร่านให้ได้

* เรื่องนี้ เป็นความท้าทายอย่างยิ่ง
เพราะชาติตะวันตกมองว่า หากอิหร่านทำได้สำเร็จ แม้จะไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์ก็จริง
แต่จะทำให้ดุลอำนาจในตะวันออกลางและเอเชียน้อย
ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของโลก เปลี่ยนไปมหาศาล
ซึ่งจะทำให้ความสามารถควบคุมโลกของอเมริกาและยุโรปลดน้อยลง

* แรงกดดันที่สุดตอนนี้ มุ่งไปที่ทำให้รัฐบาลจีนโดย หู จิ่น เทา ยอมรับและพิจารณาทบทวนว่า
จะต้องยินยอมทำตัวเป็นตะเข้ขวางคลอง
ยินยอมให้อเมริกาและยุโรปกินโต๊ะอิหร่านในนามสหประชาชาติโดยสะดวกโยธิน
เพื่อแลกกับการได้น้ำมันราคาถูกพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต หรือไม่??

* เกมเสี่ยงอย่างนี้ ชาติตะวันตกถนัดนัก
แต่อันตรายก็คือ อิหร่าน ไม่ใช่ลูกไก่ในกำมือที่จะยอมถูกบีบคั้นง่ายๆ
และจีนก็ไม่ใช่เสือป่วยของเอเชีย เหมือนในอดีตอีกแล้ว

* เกมทางทหารนอกประเทศ ผสมโรงกับการเมืองในประเทศที่ยังหาทางออกไม่ได้ยุ่งยิ่งกว่าลิงแก้แห
ทำให้คาดเดาต่อไปได้ว่า ตลาดหุ้นไทยใน 1 เดือนข้างหน้า จะถดถอยอย่างหนักทั้งดัชนี และวอลุ่ม...น่าเป็นห่วง
หรือว่า กรุงศรีอยุธยาจะสิ้นคนดีเสียแล้ว??? แล้วที่ยึดอำนาจอยู่นี่ล่ะ มีแต่พวกห้าร้อยเวรตะไลอย่างนั้นหรือ??