ลุ้นSINGHAแจกปันผลครึ่งปี
--------------------------------------------------------------------------------

? กิตติพัฒน์ อินทรเกษตร? ผู้บริหารบริษัท สิงห์พาราเทค จำกัด (มหาชน) SINGHA วาดฝันยอดขายไตรมาส 2/2549 พุ่งสูง 30% เทียบไตรมาสแรกที่ทำได้กว่า 150 ล้านบาท จากออเดอร์ที่ไหลเข้าต่อเนื่องทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ พร้อมเปิดเกมรุกหนักบุกตลาดโซนยุโรปและตะวันออกกลางเจรจาลูกค้ารายใหม่ บิ๊กบอส?สมจิตต์ โบว์เสรีวงศ์? บินลัดฟ้าเจรจาด้วยตัวเอง มั่นใจงานนี้มีข่าวดีติดกลับมือมาแน่ เตรียมขึ้นแท่นรอเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงครึ่งปีหลังอีก 30-40%เพื่อรองรับลูกค้าใหม่ในดีลนี้ คาดได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในสัปดาห์หน้า แบไต๋หากผลประกอบการวิ่งชนเป้าพร้อมชงบอร์ดจ่ายปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นทันที ด้านบริษัทหลักทรัพย์กิมเอ็ง มองสัญญาณเทคนิคราคาหุ้นเริ่มรีบาวด์ แนะ ?เก็งกำไร? จับกลยุทธ์สำคัญต้องยืนได้เหนือ 3.00 บาท ยังมีลุ้นเล่นรอบได้ และให้แนวต้านแรก 3.30 บาท หากผ่านไปได้มีแนวต้านถัดไปที่ 3.70 บาท
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น SINGHA วานนี้ ( 18 ก.ค.49) เปิดตลาดที่ 2.90 บาท ปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 3.44 บาท และปิดตลาดที่ 3.24 บาท เพิ่มขึ้น 0.34 บาท หรือ 11.72% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 102 ล้านบาท
นายกิตติพัฒน์ อินทรเกษตร กรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์พาราเทค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ายอดขายในช่วงไตรมาส 2/2549 จะมีแนวโน้มเติบโตไม่ต่ำกว่าระดับ 30% หากเทียบกับไตรมาสแรกที่บริษัทมียอดขายจำนวน153 ล้านบาท เนื่องจากยอดสั่งซื้อสินค้าทั้งของลูกค้ารายเก่าและรายใหม่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกประมาณ 30-40% ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้หลังจากการเจรจาลูกค้าใหม่ในยุโรปและตะวันออกกลางประสบผลสำเร็จ ซึ่งขณะนี้ทางผู้บริหารของบริษัทยังอยู่ระหว่างการเดินทางไปในแถบประเทศดังกล่าวเพื่อติดต่อเจรจากับลูกค้ารายใหม่และคาดว่าจะทราบผลชัดเจนในช่วงสัปดาห์หน้านี้
? ตอนนี้คุณสมจิตต์ โบว์เสรีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางไปเจรจากับลูกค้ารายใหม่ในโซนยุโรปและแถบตะวันออกกลาง ซึ่งทางเราคาดว่าการเจรจาครั้งนี้จะเป็นผลสำเร็จ
และหลังจากนั้นจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกทันที 30-40% ? นายกิตติพัฒน์กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานทั้งปีบริษัทยังคงมั่นใจว่ายอดขายจะปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2548 ที่บริษัทมียอดขายอยู่จำนวน 700 ล้านบาท โดยสัดส่วนยอดขายที่เกิดขึ้นในปีนี้ยังคงจะมาจากยอดขายในต่างประเทศ 80% ส่วนที่เหลือ 20% จะเป็นยอดขายในประเทศ ส่วนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท เนื่องจากรายได้ที่บริษัทรับมาส่วนใหญ่จะเป็นเงินยูโรมากกว่าดอลล่าร์
อย่างไรก็ตามหลังจากประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2549 แล้วหากรายได้และยอดขายเป็นไปตามเป้าและปรับตัวเพิ่มขึ้นคณะกรรมการบริษัทอาจจะมีการหารือเพื่อพิจารณาจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้น โดยในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทได้จ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นทั้งปีสูงถึง 0.30 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นการจ่ายเงินปันผลที่สูงกว่า10% ส่วนปีนี้จะจ่ายได้มากหรือน้อยนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริษัทและอัตราการเติบโของผลการดำเนินงาน
นายกิตติพัฒน์กล่าวถึงกลุ่ม Westcost ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ของบริษัทว่า ปัจจุบันนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวยังคงเดินหน้าที่จะเข้าเก็บหุ้น SINGHA อย่างต่อเนื่องและให้ได้ถึงเป้าที่กลุ่มดังกล่าววางแผนไว้ที่จะเข้าเก็บหุ้นของบริษัทให้ถึง 40 ล้านหุ้น อีกทั้งราคาหุ้นที่เคลื่อนไหวในปัจจุบันยังคงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานของบริษัทอยู่มาก ดังนั้นสาเหตุดังกล่าวอาจทำให้ราคาหุ้น SINGHA ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวานนี้ ( 18 ก.ค.49)
เทคนิค
ยืนเหนือ3.00บาทเก็งกำไรได้
ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สัญญาณทางเทคนิคหุ้น SINGHA เริ่มมีสัญญาณรีบาวด์หลังจากมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงเช้าวานนี้ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นดังกล่าวหากราคาไม่หลุด 3.00 บาท ยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อ โดยให้แนวรับที่ 3.10-3.00 บาท แนวต้าน 3.30-3.70 บาท โดยแนะนำเล่น ?เก็งกำไร?

ที่มา / นสพ.ทันหุ้น